ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดธุรกิจค้าปลีกไทย ไตรมาส 2/54 ขยายตัวได้ 8.5-10.0% ผู้บริโภคยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าในชีวิตประจำวันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่รายได้ในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้จะผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าในชีวิตประจำวันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่รายได้ในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีการชุมนุมกันอย่างสงบเรียบร้อย ประกอบกับการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้นมากขึ้นของบรรดาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งดิสเคาน์สโตร์ ห้างสรรพสินค้า และคอนวีเนี่ยน สโตร์ ต่างโหมปรับปรุงสถานที่ และจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ค่อนข้างถี่มากขึ้น รวมทั้งการจัดมหกรรมลดราคาสินค้า การจัดแคมเปญลุ้นรางวัลต่าง ๆ น่าจะกระตุ้นให้เกิดความต้องการและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2554 พบว่า มีกิจกรรมที่สำคัญหลายกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นเทศกาล วันสงกรานต์และช่วงเปิดภาคการศึกษาใหม่ จึงน่าจะกระตุ้นให้สถานการณ์ของธุรกิจค้าปลีกโดยรวม ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.0-6.0 ณ ราคาคงที่ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่หากคิดคำนวณมูลค่าธุรกิจค้าปลีก ณ ราคาปัจจุบัน ซึ่งรวมผลของเงินเฟ้อด้วย คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 8.5-10.0 นับเป็นการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 13.6
ส่วนธุรกิจค้าปลีกที่น่าจับตาอย่างมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ ร้านค้าสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน หรือจีสโตร์ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะทำให้จีสโตร์มียอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณร้อยละ 20-30
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้นั้น น่าจะส่งผลกระทบต่อยอดค้าปลีกในพื้นที่วงจำกัด คือ ธุรกิจค้าปลีกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมอาจได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวน่าจะมีกำลังซื้อที่ลดลง และอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่อาจจะชะลอการเดินทาง หรือเปลี่ยนเส้นทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบ เช่น ภูเก็ต สมุย ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางภาคใต้ที่ไม่ได้ประสบภัยน้ำท่วม
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในครั้งนี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกของไทยมากนัก