xs
xsm
sm
md
lg

สิงห์ปั้น “เพอร์ร่า” เปิดศึกน้ำแร่ ออร่าเพิ่ม “ผลิต/ไซส์”-หน้าใหม่ลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เบียร์สิงห์ เร่งขยายอาณาจักรเครื่องดื่มนอน-แอลกอฮอล์ แตกไลน์น้ำแร่ “เพอร์ร่า” สิ้นปีตั้งเป้ารายได้กลุ่มน้ำดื่ม 4,000 ล้านบาท ด้าน “ออร่า” ชี้ ตลาดน้ำแร่ 5 ปี มูลค่าแตะ 2,000 ล้านบาท รายใหม่-รายเก่า ดาหน้าบุกตลาด เท 120 ล้านบาท ขยายกำลังผลิต

แหล่งข่าวจากบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปราศจากแอลกอฮอล์ กล่าวว่า บริษัทได้ขยายโปรดักส์ไลน์กลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ ด้วยการเปิดตัวน้ำแร่แบรนด์ “เพอร์ร่า” เป็นการรุกเปิดตัวสินค้ากลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ตัวที่ 2 ของปีนี้ จากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวข้าวพันดี

โดยน้ำแร่ดังกล่าวผลิตขึ้นที่ บริษัท บุญรอดเอเชียเบฟเวอเรซ จำกัด หรือที่โรงงานจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำดื่มและโซดาตราสิงห์ในปัจจุบัน แต่ใช้น้ำแร่จากแหล่งน้ำแร่พระงาม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติในจังหวัดสิงห์บุรี ทั้งนี้ น้ำแร่เพอร์ร่า มี 2 ขนาด คือ ขนาด 600 มล.ราคา 10 บาท และขนาด 300 มล.ราคา 8 บาท เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น

การรุกตลาดน้ำแร่ เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งช่วยเสริมไลน์กลุ่มน้ำดื่มสิงห์ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น จากปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์ เป็นผู้นำตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดครองส่วนแบ่ง 20% จากมูลค่าตลาด 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนคริสตัล 10-11% และไทยน้ำทิพย์ 8-9% ส่วนผู้นำตลาดน้ำแร่ในขณะนี้ คือ มิเนเร่ ครองส่วนแบ่ง 33% และออร่า 29%

ก่อนหน้านี้ นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดนอน-แอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวว่า นโยบายของบริษัท จะขยายกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ภายใน 5 ปี มีรายได้เพิ่มจาก 11-12% เป็น 30% ส่วนแอลกอฮอล์เหลือเป็น 70% และต้องการให้ธุรกิจนอน-แอลกอฮอล์ปีนี้ เป็นกลุ่มที่ผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทโต 3% ด้วยการเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาผลประกอบการ 1 แสนล้านบาท โต 5-6% เนื่องจากปีนี้ตลาดเบียร์ 8-9 หมื่นล้านบาท ไม่เติบโตหรือโต 1-2% โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ากลุ่มน้ำดื่มมีรายได้ 3,000-4,000 ล้านบาท

ด้าน นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแร่ออร่า กล่าวว่า สภาพตลาดน้ำแร่เติบโต 10-15% ต่อเนื่อง มีมูลค่า 1,200-1,300 ล้านบาท ในปีนี้ และมีแนวโน้มว่า อีก 5 ปีจากนี้ ตลาดจะเติบโตเท่าตัวหรือมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยเริ่มเข้าใจประโยชน์ที่ได้รับจากการดื่มน้ำแร่ และความแตกต่างจากการดื่มน้ำทั่วไปและฐานลูกค้ากว้างมากขึ้น เดิมเป็นผู้ดื่มเฉพาะกลุ่มแต่ขณะนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายเพิ่มขึ้น

ดังนั้น เมื่อปีที่ผ่านมา เริ่มมีผู้ประกอบการน้ำแร่หน้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ทั้ง เซเว่นอีเลฟเว่น นำเข้าน้ำแร่แบรนด์สโนว์วี่ จากประเทศออสเตรเลีย มาจำหน่ายร้านค้าสะดวกซื้อ หรือ โอเชี่ยน ดีฟ ที่นำเข้าจากประเทศไต้หวัน และน้ำดื่มไอซ์แลนด์ สปริง จากประเทศไอซ์แลนด์ จากปีที่ผ่านมานน้ำแร่ในตลาดไทย แบ่งเป็น น้ำแร่นำเข้า 20% หรือราว 200 ล้านบาท ส่วนภายในประเทศ 80% หรือ 800 ล้านบาท มีการเติบโตที่ดีกว่าน้ำแร่นำเข้า เพราะราคายังเป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า

สำหรับปีนี้บริษัททุ่มงบ 120 ล้านบาท ซื้อเครื่องเป่าพลีฟอร์ม และซื้อเครื่องบรรจุขวดน้ำแร่ออร่า จะเพิ่มกำลังผลิตจาก 1 แสนลิตรต่อวันเป็น 1.5 แสนลิตรต่อวัน เพิ่มบรรจุภัณฑ์ขนาด 20 ลิตร โดยจะเปิดบริการส่งน้ำแร่ออร่าถึงบ้านในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ตลอดจนการสื่อสารป้อนข้อมูลสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและมีกำลังการซื้อ เพื่อสร้างแบรนด์ในระยะยา มากกว่าการเน้นกลยุทธ์ราคา โดยปัจจุบันกลุ่มน้ำแร่ทิปโก้ มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 แบ่งเป็น ออร่า มีส่วนแบ่ง 29% และ อควอเร่ 3%
กำลังโหลดความคิดเห็น