รมว.พาณิชย์ เผยส่งออก ก.พ.54 ขยายตัวเพิ่ม 31% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกินดุลการค้า 1.8 พันล้านดอลลาร์ มั่นใจเป้าทั้งปีโตได้ 10% แนะเอกชนไทย เร่งขอใช้สิทธิ์ เอฟทีเอ อาเซียน-จีน เพิ่มช่องทางการค้าการลงทุน
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 โดยระบุว่า การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2554 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 31% คิดเป็นมูลค่า 18,868 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเป็นยอดการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 22.5% คิดเป็นมูลค่า 17,100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้ ไทยเกินดุลการค้า 1,767 ล้านดอลลาร์
ขณะที่การส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.7% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 35,615 ล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 27.7% คิดเป็นมูลค่ารวม 34,407 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนแรก ไทยเกินดุลการค้า 910.8 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ ยังคงวางเป้าหมายการส่งออกทั้งปีนี้ไว้ที่ 10% ที่มูลค่า 215,000 ล้านดอลลาร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวในการสัมมนาการค้าอาเซียนจีน ความท้าทายของการลงทุนไทย โดยระบุว่า ที่ผ่านมา เอกชนมีการขอใช้สิทธิ์ตามกรอบความร่วมมือเขตการค้าเสรีอาเซียนจีน (เอฟทีเอ อาเซียน-จีน) ค่อนข้างน้อยมาก จึงได้สั่งการให้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินการเร่งส่งเสริมให้เอกชน หันมาใช้สิทธิตามกรอบดังกล่าว โดยเฉพาะการใช้สิทธิ์เอฟทีเอ อาเซียน-จีน
“หากดูในแง่มูลค่าการค้าในปีที่ผ่านมา การค้าไทย-จีน อยู่ที่กว่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 38 ขณะที่การส่งออกไทย ไปจีน อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.7 ขณะที่การนำเข้าจากประเทศจีน อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งประเทศไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ความร่วมมือการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะเปิดตลาดการค้าระหว่างกัน แบบไม่มีมาตรการกีดกัน จะเป็นการส่งเสริมทำให้การค้าระหว่างอาเซียน หรือ อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น และอาเซียน-เกาหลี มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่น่าวิตก คือ คนไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมต่างๆ ยังไม่สนใจการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เท่าที่ควร