เศรษฐกิจพุ่ง ตัวเลขโฆษณาเดือน ม.ค.โต 13.71% แตะ 7,977 ล้านบาท สื่อในโรงภาพยนตร์ขึ้นแท่นที่ 3 ที่สินค้าแห่ใช้ ส่งผลเป็นสื่อโตมากสุด 65.36% ส่วนสื่อแมกกาซีนและวิทยุ ติดลบ ยูนิลีเวอร์ครองแชมป์ใช้งบสูงสุด
รายงานจาก บริษัท นีลเส็นมีเดีย รีเสิร์ช ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า ผลการสำรวจการใช้งบโฆษณาในเดือน ม.ค.ปีนี้ (2554) พบว่า มีมูลค่าสูงถึง 7,977 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13.71% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ปีก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากความมั่นใจของลูกค้าจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ดีขึ้น โดยสื่อในโรงภาพยนตร์มีอัตราการเติบโตมากสุดถึง 65.36% รองลงมาคือ สื่ออินสโตร์ เติบโต 52.46%
อันดับสาม คือ สื่อทีวี เติบโต 14.58% และสื่อทีวี ยังครองส่วนแบ่งการใช้สื่อเป็นอันดับหนึ่ง ใช้ไปถึง 4,928 ล้านบาท อันดับสอง คือ สื่อหนังสือพิมพ์ มูลค่า 1,064 ล้านบาท เติบโต 6.61% และอันดับสาม คือ สื่อในโรงภาพยนตร์ มูลค่า 592 ล้านบาท ขณะที่สื่อวิทยุ หล่นมาอยู่อันดับสี่ มีมูลค่าเพียง 379 ล้านบาท ลดลง 7.33% รวมถึงสื่อแมกกาซีน เติบโตลดลง 8.2% ใช้ไปเพียง 347 ล้านบาท
และจากการที่สื่อในโรงภาพยนตร์ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 แทนที่สื่อวิทยุได้นั้น มาจากปัจจัยหลักอย่างรายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าฉายในช่วงปลายปี 2553 จนถึงเดือน ม.ค.ปีนี้ ทั้งไทยและเทศ เป็นภาพยนตร์ทำเงินแทบทั้งสิ้น ตามที่ นายนิธิ พัฒนภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ซีนีแอด จำกัด กล่าวไว้ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจากรายชื่อหนังที่ทำให้ผู้ชมเข้ามาดูหนังมากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขโฆษณาในสื่อภาพยนตร์ของทางเมเจอร์ช่วงนี้เติบโตขึ้นถึง 30%
ทั้งนี้ พบว่า สินค้าและบริการที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คือ โอเลย์ ใช้ไป 84,719,000 บาท รองลงมา คือ อีซูซุ ปิกอัพ ใช้ไป 75,012,000 บาท และอันดับสาม คือ เอไอเอ ใช้ 58,879,000 บาท อันดับสี่ คือ พอนด์ส ใช้ไป 57,425,000 บาท และอันดับห้า คือ โค้ก ใช้ไป 56,278,000 บาท
ขณะที่กลุ่มบริษัทและองค์กรที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ยังคงเป็น ยูนิลีเวอร์ ใช้ไป 468,917,000 บาท รองลงมา คือ Procter& Gamble (Thailand) ใช้ไป 230,239,000 บาท อันดับสาม คือ ลอรีอัล ใช้ไป 183,731,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบเม็ดเงินโฆษณาในเดือน ม.ค.นี้ กับเดือนธ.ค.ปีก่อน (2553) จะพบว่า ตัวเลขในเดือน ม.ค.นี้ใช้น้อยกว่า 13.34% เป็นไปตามกลไกของตลาดที่ไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด
รายงานจาก บริษัท นีลเส็นมีเดีย รีเสิร์ช ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า ผลการสำรวจการใช้งบโฆษณาในเดือน ม.ค.ปีนี้ (2554) พบว่า มีมูลค่าสูงถึง 7,977 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13.71% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ปีก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากความมั่นใจของลูกค้าจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ดีขึ้น โดยสื่อในโรงภาพยนตร์มีอัตราการเติบโตมากสุดถึง 65.36% รองลงมาคือ สื่ออินสโตร์ เติบโต 52.46%
อันดับสาม คือ สื่อทีวี เติบโต 14.58% และสื่อทีวี ยังครองส่วนแบ่งการใช้สื่อเป็นอันดับหนึ่ง ใช้ไปถึง 4,928 ล้านบาท อันดับสอง คือ สื่อหนังสือพิมพ์ มูลค่า 1,064 ล้านบาท เติบโต 6.61% และอันดับสาม คือ สื่อในโรงภาพยนตร์ มูลค่า 592 ล้านบาท ขณะที่สื่อวิทยุ หล่นมาอยู่อันดับสี่ มีมูลค่าเพียง 379 ล้านบาท ลดลง 7.33% รวมถึงสื่อแมกกาซีน เติบโตลดลง 8.2% ใช้ไปเพียง 347 ล้านบาท
และจากการที่สื่อในโรงภาพยนตร์ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 แทนที่สื่อวิทยุได้นั้น มาจากปัจจัยหลักอย่างรายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าฉายในช่วงปลายปี 2553 จนถึงเดือน ม.ค.ปีนี้ ทั้งไทยและเทศ เป็นภาพยนตร์ทำเงินแทบทั้งสิ้น ตามที่ นายนิธิ พัฒนภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ซีนีแอด จำกัด กล่าวไว้ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจากรายชื่อหนังที่ทำให้ผู้ชมเข้ามาดูหนังมากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขโฆษณาในสื่อภาพยนตร์ของทางเมเจอร์ช่วงนี้เติบโตขึ้นถึง 30%
ทั้งนี้ พบว่า สินค้าและบริการที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คือ โอเลย์ ใช้ไป 84,719,000 บาท รองลงมา คือ อีซูซุ ปิกอัพ ใช้ไป 75,012,000 บาท และอันดับสาม คือ เอไอเอ ใช้ 58,879,000 บาท อันดับสี่ คือ พอนด์ส ใช้ไป 57,425,000 บาท และอันดับห้า คือ โค้ก ใช้ไป 56,278,000 บาท
ขณะที่กลุ่มบริษัทและองค์กรที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ยังคงเป็น ยูนิลีเวอร์ ใช้ไป 468,917,000 บาท รองลงมา คือ Procter& Gamble (Thailand) ใช้ไป 230,239,000 บาท อันดับสาม คือ ลอรีอัล ใช้ไป 183,731,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบเม็ดเงินโฆษณาในเดือน ม.ค.นี้ กับเดือนธ.ค.ปีก่อน (2553) จะพบว่า ตัวเลขในเดือน ม.ค.นี้ใช้น้อยกว่า 13.34% เป็นไปตามกลไกของตลาดที่ไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด