บางกอกแอร์เวย์ส ชี้ ธุรกิจท่องเที่ยวยังเติบโตเพิ่ม 5-8% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ขยายตัว 27% รุกขยายเส้นทางบินทั้งในเส้นทางเดิม และเส้นทางใหม่ ล่าสุดบุกมุมไบ และ ธากา รองรับนักท่องเที่ยวอินเดีย และบังกลาเทศ
กัปตัน พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยอัตราการเติบโตภาพรวมในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5-8% ในส่วนของบางกอกแอร์เวย์สเอง ตั้งเป้าการขยายตัวในปีนี้ที่ 27% หรือเป้ารายได้ประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่วนผู้โดยสารสำหรับปีนี้ คาดว่า จะเพิ่ม 19% จากจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน ในปี 2553 เพราะไทยยังคงเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย
ในปีนี้วางกลยุทธ์ไว้ในหลายๆ มิติ ล่าสุด เปิดเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคม และกรุงเทพฯ-ธากา ในวันที่ 27 มีนาคม จะเป็นกลยุทธ์ด้านเส้นทางบินใหม่ ซึ่งมุมไบและธากาเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ตลาดเหล่านี้มีความต้องการในการเดินทางสูง โดยตัวเลขของชาวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีกว่า 7 แสนคน และชาวบังกลาเทศ มีกว่า 6 หมื่นคน ซึ่งในปี 2554 คาดว่า จะเพิ่ม 15-20% สำหรับตลาดคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่ชอบศาสนาและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศนี้
เบื้องต้นเราคาดหวัง load factor เฉลี่ยของทั้งสองเส้นทางนี้ที่ 60% โดยเราจะให้บริการบินตรงกรุงเทพฯ-มุมไบ 6 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เครื่องบินแบบแอร์บัส A319 ซึ่งมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 12 ที่นั่งและที่นั่งชั้นประหยัด 108 ที่นั่ง และ กรุงเทพฯ-ธากา 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320 ซึ่งมีที่นั่งชั้นประหยัด 162 ที่นั่ง
“ช่วงปลายปีนี้เราจะมีเครื่องบินแอร์บัส A319 หรือ A320 จำนวนหนึ่งลำเข้ามาเสริมเที่ยวบินปัจจุบัน ซึ่งสัดส่วนการเพิ่มเที่ยวบินปีนี้มี 20% ซึ่งที่ผ่านมาการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ได้รับการตอบรับดีมาก เช่น เส้นทาง “ตราด-สมุย-ภูเก็ต” ที่เริ่มให้บริการปลายปีที่แล้วทำให้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30%”
นอกจากนี้ จะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางที่มีความต้องการสูง เริ่มด้วยเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากวันละ 4 เที่ยวบินเพิ่มเป็น 5 เที่ยวบิน/วัน ส่วนปีที่แล้วได้เพิ่มเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต จากวันละ 5 เที่ยวบินเป็น 6 เที่ยวบิน/วัน เส้นทางกรุงเทพฯ-พนมเปญ จากวันละ 3 เที่ยวบินเป็น 4 เที่ยวบิน/วัน และเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง จากวันละ 1 เที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวบิน/วัน” กัปตัน พุฒิพงศ์ กล่าว
นางอาริญา ปราสาททองโอสถ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย กล่าวว่า “เพื่อเป็นการโปรโมตเส้นทางใหม่นี้ เราได้ทำราคาโปรโมชันไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-มุมไบ และ กรุงเทพฯ-ธากา ในราคาเดียวกันที่ 5,590 บาท สำหรับกรุงเทพฯ-มุมไบ เดินทางได้ถึง 31 มีนาคม และกรุงเทพฯ-ธากา เดินทางได้ถึง 30 เมษายน และสำหรับปีนี้ เราจะเน้นการทำโปรโมชันบัตรโดยสาร และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบริษัทพันธมิตรต่างๆ ให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมาเราได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับองค์กรชั้นนำเช่น VISA Card, KTC credit card และ AIS นอกจากนี้ เราได้มีการพัฒนาและปรับรูปลักษณ์เว็บไซต์ www.bangkokair.com ให้มีความทันสมัยและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ของบางกอกแอร์เวย์สมีการเติบโตขี้นทุกปี
ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การเปิดเส้นทางกรุงเทพฯ-มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ถือเป็นเที่ยวบินประวัติศาสตร์ของบางกอกแอร์เวย์ส เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราบุกตลาดอินเดีย เหตุผลที่เราเลือกประเทศอินเดีย เพราะอินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายมากในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะมุมไบซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจอินเดีย เพราะเป็นที่ตั้งของตลาดหุ้นของอินเดีย และเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงของอินเดีย (Bollywood) นอกจากนี้ มุมไบยังเป็นที่ตั้งของ ‘Gateway of India’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศอินเดียที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการได้รับอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย”
ส่วนงานด้านการพัฒนาบริการของปี 2011 จะต่อเนื่องจากปีที่แล้วหลังจากที่เราได้เริ่มแคมเปญรี-แบรนดิ้ง เพื่อให้บางกอกแอร์เวย์สมีความทันสมัย และเพื่อปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงตลาดคนไทยมากขึ้น เพื่อให้คนไทยเข้าใจว่า บางกอกแอร์เวย์สไม่ได้แพงอย่างที่คิด โดยในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งคือเราจะมีการแนะนำยูนิฟอร์มใหม่สำหรับพนักงานฟร้อนท์ไลน์ทุกคน ซึ่งรวมถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานต้อนรับภาคพื้นดิน พนักงานสำรองบัตรโดยสารและพนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารเพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงมีเอกลักษณ์ของความเป็นบางกอกแอร์เวย์สอยู่ ซึ่งเราได้คุณหมู พลพัฒน์ อัศวะประภา เจ้าของแบรนด์ ‘Asava’ มาเป็นผู้ออกแบบให้ทั้งหมดโดยใช้งบกว่า 15 ล้านบาท สำหรับแคมเปญนี้ นอกจากนี้ ยังคงจัดการแข่งขันรายการกีฬาประจำปีหลายรายการ
กัปตัน พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยอัตราการเติบโตภาพรวมในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5-8% ในส่วนของบางกอกแอร์เวย์สเอง ตั้งเป้าการขยายตัวในปีนี้ที่ 27% หรือเป้ารายได้ประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่วนผู้โดยสารสำหรับปีนี้ คาดว่า จะเพิ่ม 19% จากจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน ในปี 2553 เพราะไทยยังคงเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย
ในปีนี้วางกลยุทธ์ไว้ในหลายๆ มิติ ล่าสุด เปิดเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคม และกรุงเทพฯ-ธากา ในวันที่ 27 มีนาคม จะเป็นกลยุทธ์ด้านเส้นทางบินใหม่ ซึ่งมุมไบและธากาเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ตลาดเหล่านี้มีความต้องการในการเดินทางสูง โดยตัวเลขของชาวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีกว่า 7 แสนคน และชาวบังกลาเทศ มีกว่า 6 หมื่นคน ซึ่งในปี 2554 คาดว่า จะเพิ่ม 15-20% สำหรับตลาดคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่ชอบศาสนาและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศนี้
เบื้องต้นเราคาดหวัง load factor เฉลี่ยของทั้งสองเส้นทางนี้ที่ 60% โดยเราจะให้บริการบินตรงกรุงเทพฯ-มุมไบ 6 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เครื่องบินแบบแอร์บัส A319 ซึ่งมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 12 ที่นั่งและที่นั่งชั้นประหยัด 108 ที่นั่ง และ กรุงเทพฯ-ธากา 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320 ซึ่งมีที่นั่งชั้นประหยัด 162 ที่นั่ง
“ช่วงปลายปีนี้เราจะมีเครื่องบินแอร์บัส A319 หรือ A320 จำนวนหนึ่งลำเข้ามาเสริมเที่ยวบินปัจจุบัน ซึ่งสัดส่วนการเพิ่มเที่ยวบินปีนี้มี 20% ซึ่งที่ผ่านมาการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ได้รับการตอบรับดีมาก เช่น เส้นทาง “ตราด-สมุย-ภูเก็ต” ที่เริ่มให้บริการปลายปีที่แล้วทำให้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30%”
นอกจากนี้ จะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางที่มีความต้องการสูง เริ่มด้วยเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากวันละ 4 เที่ยวบินเพิ่มเป็น 5 เที่ยวบิน/วัน ส่วนปีที่แล้วได้เพิ่มเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต จากวันละ 5 เที่ยวบินเป็น 6 เที่ยวบิน/วัน เส้นทางกรุงเทพฯ-พนมเปญ จากวันละ 3 เที่ยวบินเป็น 4 เที่ยวบิน/วัน และเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง จากวันละ 1 เที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวบิน/วัน” กัปตัน พุฒิพงศ์ กล่าว
นางอาริญา ปราสาททองโอสถ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย กล่าวว่า “เพื่อเป็นการโปรโมตเส้นทางใหม่นี้ เราได้ทำราคาโปรโมชันไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-มุมไบ และ กรุงเทพฯ-ธากา ในราคาเดียวกันที่ 5,590 บาท สำหรับกรุงเทพฯ-มุมไบ เดินทางได้ถึง 31 มีนาคม และกรุงเทพฯ-ธากา เดินทางได้ถึง 30 เมษายน และสำหรับปีนี้ เราจะเน้นการทำโปรโมชันบัตรโดยสาร และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบริษัทพันธมิตรต่างๆ ให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมาเราได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับองค์กรชั้นนำเช่น VISA Card, KTC credit card และ AIS นอกจากนี้ เราได้มีการพัฒนาและปรับรูปลักษณ์เว็บไซต์ www.bangkokair.com ให้มีความทันสมัยและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ของบางกอกแอร์เวย์สมีการเติบโตขี้นทุกปี
ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การเปิดเส้นทางกรุงเทพฯ-มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ถือเป็นเที่ยวบินประวัติศาสตร์ของบางกอกแอร์เวย์ส เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราบุกตลาดอินเดีย เหตุผลที่เราเลือกประเทศอินเดีย เพราะอินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายมากในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะมุมไบซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจอินเดีย เพราะเป็นที่ตั้งของตลาดหุ้นของอินเดีย และเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงของอินเดีย (Bollywood) นอกจากนี้ มุมไบยังเป็นที่ตั้งของ ‘Gateway of India’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศอินเดียที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการได้รับอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย”
ส่วนงานด้านการพัฒนาบริการของปี 2011 จะต่อเนื่องจากปีที่แล้วหลังจากที่เราได้เริ่มแคมเปญรี-แบรนดิ้ง เพื่อให้บางกอกแอร์เวย์สมีความทันสมัย และเพื่อปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงตลาดคนไทยมากขึ้น เพื่อให้คนไทยเข้าใจว่า บางกอกแอร์เวย์สไม่ได้แพงอย่างที่คิด โดยในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งคือเราจะมีการแนะนำยูนิฟอร์มใหม่สำหรับพนักงานฟร้อนท์ไลน์ทุกคน ซึ่งรวมถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานต้อนรับภาคพื้นดิน พนักงานสำรองบัตรโดยสารและพนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารเพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงมีเอกลักษณ์ของความเป็นบางกอกแอร์เวย์สอยู่ ซึ่งเราได้คุณหมู พลพัฒน์ อัศวะประภา เจ้าของแบรนด์ ‘Asava’ มาเป็นผู้ออกแบบให้ทั้งหมดโดยใช้งบกว่า 15 ล้านบาท สำหรับแคมเปญนี้ นอกจากนี้ ยังคงจัดการแข่งขันรายการกีฬาประจำปีหลายรายการ