แชนแนลวี เปิดศักราชใหม่ ต่อยอดธุรกิจผุดรายการฟรีทีวี แมนเนจศิลปิน พร้อม 5 อีเวนต์ใหญ่ หวังดันรายได้รวมพุ่ง 45% แตะ 120 ล้านบาท เอาคืนปีก่อนที่นิ่งรับสถานการณ์บ้านเมือง ทำไปได้แค่ 90 ล้านบาทโตเพียง 15%
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ อาภากร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แชนแนล [วี] มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้มีการจัดกิจกรรมหรือลงทุนอะไรใหม่ๆ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองเป็นสำคัญ ส่งผลให้มีรายได้หลักเข้ามาเพียง 2 ทางเท่านั้น คือ การผลิตรายการแชนแนลวี และรายได้จากโฆษณา และทำกิจกรรมเล็กๆอีกเล็กน้อย จึงส่งผลให้มีรายได้ที่ 90 ล้านบาท เติบโตราว 15% เท่านั้น
ส่งผลให้ในปีนี้ ทางบริษัทมีแผนการลงทุนต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งจะมีการจัดตั้ง หน่วยธุรกิจขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ คือ 1.ฟรีทีวี ปีนี้เตรียมเข้าไปรุกผลิตรายการโทรทัศน์ 1-2 รายการ โดยได้เริ่มเจรจาขอเวลากับทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์แล้ว คาดว่า ในช่วงไตรมาส 3 ถึง 4 นี้ จะเริ่มออกอากาศได้ ซึ่งรูปแบบรายการที่นำเสนอนี้ จะเป็นพวกทอล์กโชว์ เกมโชว์ หรือ เอ็กซ์ตรีม กับกิจกรรมต่างๆ มองว่า รายได้จะเข้ามาใน 6 เดือนหลักนี้ หรือน่าจะทำได้ราว 12 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่ 12% ของรายได้รวมปีนี้ และ 2.ทาเล้นท์เมนเนจเม้นท์ หรือ การบริหารศิลปิน โดยปัจจุบันมีอยู่ 20 คน จะเริ่มบริหารอย่างจริงจังตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป เชื่อว่าปีแรกจะมีรายได้ราว 3 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน หลังจากปีก่อนไม่มีการจัดกิจกรรมใหญ่ขึ้นเลย เนื่องจากสภาพการเมืองเป็นหลักนั้น ส่งผลให้ปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมใหญ่ทั้งสิ้น 5 งาน คือ 1.มิวสิกวิดีโออวอร์ด ปีนี้จะจัด 2 วัน หลังจากปีก่อนหยุดไป ซึ่งเป็นงานที่จัดต่อเนื่องมากว่า 5-6 ปี 2.วี แนวหน้าใหม่ เป็นอีเวนต์เกี่ยวกับการหาศิลปินหน้าใหม่ ทำเป็นกึ่งเรียลิตี้ ถ้าทันจะนำไปลงเป็นอีก 1 รายการทางฟรีทีวีด้วย 3.วี มิวสิกเฟสติวัล 4.คอนเสิร์ตไทย และ 5.วี เดอะ วอลุ่ม ซึ่งรายได้จากทั้ง 5 กิจกรรมนี้ คาดว่า จะทำได้ราว 20-22 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากสปอนเซอร์) คิดเป็น 16% จากรายได้รวมในปีนี้ ที่ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ 120-130 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 45% มาจาก รายการแชนแนลวี 39% สปอตโฆษณา 33% ที่เหลือมาจากธุรกิจใหม่ๆ รวมกัน
“ปัจจุบันรายการแชนแนลวี ครองอันดับหนึ่งในกลุ่มรายการเพลงทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งรายได้โฆษณาที่เข้ามานั้น มาจากการขายเพียง 50% ของพื้นที่รายการทั้งหมด 22 รายการ ที่สามารถขายโฆษณาได้ ดังนั้นปีนี้แนวโน้มของสัดส่วนรายได้จากโฆษณายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากซึ่งปีนี้มองว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10% แต่ทางบริษัทก็พร้อมมองหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดรายได้อีกส่วนหนึ่งด้วย”
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ กล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีนี้จึงมุ่งไปยังธุรกิจใหม่เป็นหลัก รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น หลังจากปีก่อนได้หยุดไป อีกทั้งจึงมีแนวความคิดที่จะเพิ่มช่องอีก 1 ช่องด้วย กำลังศึกษาดูความเป็นไปได้ก่อน ถ้าหากทำได้จะเป็นการนำเอาคอนเทนต์ที่สะสมมากว่า 15 ปีของแชนแนลวีมาดำเนินการต่อไป
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ อาภากร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แชนแนล [วี] มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้มีการจัดกิจกรรมหรือลงทุนอะไรใหม่ๆ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองเป็นสำคัญ ส่งผลให้มีรายได้หลักเข้ามาเพียง 2 ทางเท่านั้น คือ การผลิตรายการแชนแนลวี และรายได้จากโฆษณา และทำกิจกรรมเล็กๆอีกเล็กน้อย จึงส่งผลให้มีรายได้ที่ 90 ล้านบาท เติบโตราว 15% เท่านั้น
ส่งผลให้ในปีนี้ ทางบริษัทมีแผนการลงทุนต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งจะมีการจัดตั้ง หน่วยธุรกิจขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ คือ 1.ฟรีทีวี ปีนี้เตรียมเข้าไปรุกผลิตรายการโทรทัศน์ 1-2 รายการ โดยได้เริ่มเจรจาขอเวลากับทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์แล้ว คาดว่า ในช่วงไตรมาส 3 ถึง 4 นี้ จะเริ่มออกอากาศได้ ซึ่งรูปแบบรายการที่นำเสนอนี้ จะเป็นพวกทอล์กโชว์ เกมโชว์ หรือ เอ็กซ์ตรีม กับกิจกรรมต่างๆ มองว่า รายได้จะเข้ามาใน 6 เดือนหลักนี้ หรือน่าจะทำได้ราว 12 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่ 12% ของรายได้รวมปีนี้ และ 2.ทาเล้นท์เมนเนจเม้นท์ หรือ การบริหารศิลปิน โดยปัจจุบันมีอยู่ 20 คน จะเริ่มบริหารอย่างจริงจังตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป เชื่อว่าปีแรกจะมีรายได้ราว 3 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน หลังจากปีก่อนไม่มีการจัดกิจกรรมใหญ่ขึ้นเลย เนื่องจากสภาพการเมืองเป็นหลักนั้น ส่งผลให้ปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมใหญ่ทั้งสิ้น 5 งาน คือ 1.มิวสิกวิดีโออวอร์ด ปีนี้จะจัด 2 วัน หลังจากปีก่อนหยุดไป ซึ่งเป็นงานที่จัดต่อเนื่องมากว่า 5-6 ปี 2.วี แนวหน้าใหม่ เป็นอีเวนต์เกี่ยวกับการหาศิลปินหน้าใหม่ ทำเป็นกึ่งเรียลิตี้ ถ้าทันจะนำไปลงเป็นอีก 1 รายการทางฟรีทีวีด้วย 3.วี มิวสิกเฟสติวัล 4.คอนเสิร์ตไทย และ 5.วี เดอะ วอลุ่ม ซึ่งรายได้จากทั้ง 5 กิจกรรมนี้ คาดว่า จะทำได้ราว 20-22 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากสปอนเซอร์) คิดเป็น 16% จากรายได้รวมในปีนี้ ที่ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ 120-130 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 45% มาจาก รายการแชนแนลวี 39% สปอตโฆษณา 33% ที่เหลือมาจากธุรกิจใหม่ๆ รวมกัน
“ปัจจุบันรายการแชนแนลวี ครองอันดับหนึ่งในกลุ่มรายการเพลงทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งรายได้โฆษณาที่เข้ามานั้น มาจากการขายเพียง 50% ของพื้นที่รายการทั้งหมด 22 รายการ ที่สามารถขายโฆษณาได้ ดังนั้นปีนี้แนวโน้มของสัดส่วนรายได้จากโฆษณายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากซึ่งปีนี้มองว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10% แต่ทางบริษัทก็พร้อมมองหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดรายได้อีกส่วนหนึ่งด้วย”
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ กล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีนี้จึงมุ่งไปยังธุรกิจใหม่เป็นหลัก รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น หลังจากปีก่อนได้หยุดไป อีกทั้งจึงมีแนวความคิดที่จะเพิ่มช่องอีก 1 ช่องด้วย กำลังศึกษาดูความเป็นไปได้ก่อน ถ้าหากทำได้จะเป็นการนำเอาคอนเทนต์ที่สะสมมากว่า 15 ปีของแชนแนลวีมาดำเนินการต่อไป
