ทัพสินค้าแห่ยึดหัวหาดสปอนเซอร์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก สร้างแบรนด์ ชิงฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ครอบครัว ไทยเบฟฯ เดินหน้าส่งเครื่องดื่มช้าง ร่วมเป็นสปอนเซอร์ถ่ายทอดสด “สปอนเซอร์-โค้ก” อัดฉีดงบสปอนเซอร์เพิ่ม
แหล่งข่าวจากวงการฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า จากกระแสความแรงของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก(ทีพีแอล) ที่มาแรงในปีที่ผ่านมา โดยได้รับความนิยมจากผู้ชมจากหลากหลายกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่ ครอบครัว วัยทำงานผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งพบว่า การแข่งขันของสโมสรชื่อดัง อาทิ บุรีรัมย์ ชลบุรี เมืองทอง ฯลฯ มีผู้ชมร่วม 1.2 หมื่นคน หรือกระทั่งสโมสรระดับกลาง-เล็ก มีผู้ชม 4,000-7,000 คน และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ชมเพิ่มขึ้นในแต่ละสนาม รวมถึงการขยายกลุ่มผู้ชมผู้หญิง ซึ่งมีสัดส่วน 30% มีโอกาสจะเพิ่มขึ้น จากการมีนักเตะดาวดังจากต่างประเทศ เข้ามาค้าแข่งในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ชายยังเป็นสัดส่วน 70%
ส่งผลให้ปีนี้มีสินค้าหลายแบรนด์เข้าไปเป็นสปอนเซอร์สโมสรฟุตบอลแต่ละทีมเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มตั้งแต่สปอนเซอร์ไทเทิล คือ เครื่องดื่มเกลือแร่ ต้องทุ่มงบ 140 ล้านบาท เป็นสปอนเซอร์ 2 ปีซ้อน ปี 2554-2555 หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาใช้งบสนับสนุน 25 ล้านบาท ทั้งนี้การที่เป็นสปอนเซอร์ไทเทิล แล้วต้องใช้งบเพิ่มขึ้นเป็น 70 ล้านบาท ต่อปี เนื่องจากมีสินค้าหลายแบรนด์ ต้องการเป็นสปอนเซอร์แทนเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์
ส่วนสปอนเซอร์ถ่ายทอดสดไทยพรีเมียร์ลีก ทางช่อง 11 ในปีนี้มีเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ตราช้าง ภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ช้าง น้ำดื่ม โซดา ฯลฯ ร่วมเป็นสปอนเซอร์แบรนด์ที่ 4 จากปีที่ผ่านมา มี 3 แบรนด์ คือ ยามาฮา โค้ก และปตท. ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์ยังสามารถติดป้ายข้างสนามการแข่งขัน และขณะนี้มีสินค้าอีก 2-3 แบรนด์ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสปอนเซอร์เพิ่มเติม ส่วนไนกี้ก็เซ็นสัญญาสปอนเซอร์อุปกรณ์การแข่งขัน หรือ ฟุตบอล เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยฤดูกาลแข่งขันเริ่มเปิดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ - 25 ธันวาคม 2554
แหล่งข่าว กล่าวว่า กระแสฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกที่มาแรง ทำให้แต่ละสโมสร มีสินค้าเข้าเป็นสปอนเซอร์อย่างน้อย 5-8 แบรนด์ต่อสโมสร เพราะมั่นใจว่า เป็นการสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นช่องทางการจำหน่ายใหม่ ซึ่งมีสินค้า อาทิ เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ โค้ก เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ เครื่องดื่มชูกำลังM-150 และเปปทีน ฯลฯ นำสินค้ามาจำหน่ายในสนาม ขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ลีโอ เบียร์ช้าง มีการจัดบูธจำหน่ายสินค้านอกสนาม เป็นต้น
**ทัพสินค้าชี้ช่องทางใหม่-สร้างแบรนด์***
นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ บริษัท ทีซี ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ กล่าวว่า จากการที่เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ได้เป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกในปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดกิจกรรม และบูธจำหน่ายสินค้าบรรจุภัณฑ์กระป๋องและเกล็ดน้ำแข็ง ควบคู่กับการจำหน่ายป็อปคอร์น ส่งผลให้สร้างพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการดับกระหายกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง จากเดิมผู้บริโภคจะเข้าใจว่าดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เฉพาะในช่วงที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุ 16 ปี หรือกระทั่งกลุ่มครอบครัวได้มากขึ้น จากเดิมที่ผ่านมาฐานลูกค้าจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน
นางสาวชนิสา แก้วเรือน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้ก กล่าวว่า ปีนี้บริษัทดำเนินกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ภายใต้แพลทฟอร์ทฟุตบอลทั้งระดับโลก ระดับท้องถิ่น สำหรับในระดับประเทศ โค้ก สนับสนุนฟุตบอลระดับประเทศฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการ ปีที่ 2 นอกจากนี้ยังเตรียมจัดกิจกรรม นำสโมสรชื่อดังจากอังกฤษ มาดวลแข้งในแมทช์พิเศษ”โค้ก ซุปเปอร์ คัพ” กับทีมไทย พรีเมียร์ ลีก ออลสตาร์ ทั้งนี้การดำเนินกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับกลุ่มคนรุ่นใหม่และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
แหล่งข่าวจากวงการฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า จากกระแสความแรงของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก(ทีพีแอล) ที่มาแรงในปีที่ผ่านมา โดยได้รับความนิยมจากผู้ชมจากหลากหลายกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่ ครอบครัว วัยทำงานผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งพบว่า การแข่งขันของสโมสรชื่อดัง อาทิ บุรีรัมย์ ชลบุรี เมืองทอง ฯลฯ มีผู้ชมร่วม 1.2 หมื่นคน หรือกระทั่งสโมสรระดับกลาง-เล็ก มีผู้ชม 4,000-7,000 คน และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ชมเพิ่มขึ้นในแต่ละสนาม รวมถึงการขยายกลุ่มผู้ชมผู้หญิง ซึ่งมีสัดส่วน 30% มีโอกาสจะเพิ่มขึ้น จากการมีนักเตะดาวดังจากต่างประเทศ เข้ามาค้าแข่งในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ชายยังเป็นสัดส่วน 70%
ส่งผลให้ปีนี้มีสินค้าหลายแบรนด์เข้าไปเป็นสปอนเซอร์สโมสรฟุตบอลแต่ละทีมเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มตั้งแต่สปอนเซอร์ไทเทิล คือ เครื่องดื่มเกลือแร่ ต้องทุ่มงบ 140 ล้านบาท เป็นสปอนเซอร์ 2 ปีซ้อน ปี 2554-2555 หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาใช้งบสนับสนุน 25 ล้านบาท ทั้งนี้การที่เป็นสปอนเซอร์ไทเทิล แล้วต้องใช้งบเพิ่มขึ้นเป็น 70 ล้านบาท ต่อปี เนื่องจากมีสินค้าหลายแบรนด์ ต้องการเป็นสปอนเซอร์แทนเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์
ส่วนสปอนเซอร์ถ่ายทอดสดไทยพรีเมียร์ลีก ทางช่อง 11 ในปีนี้มีเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ตราช้าง ภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ช้าง น้ำดื่ม โซดา ฯลฯ ร่วมเป็นสปอนเซอร์แบรนด์ที่ 4 จากปีที่ผ่านมา มี 3 แบรนด์ คือ ยามาฮา โค้ก และปตท. ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์ยังสามารถติดป้ายข้างสนามการแข่งขัน และขณะนี้มีสินค้าอีก 2-3 แบรนด์ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสปอนเซอร์เพิ่มเติม ส่วนไนกี้ก็เซ็นสัญญาสปอนเซอร์อุปกรณ์การแข่งขัน หรือ ฟุตบอล เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยฤดูกาลแข่งขันเริ่มเปิดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ - 25 ธันวาคม 2554
แหล่งข่าว กล่าวว่า กระแสฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกที่มาแรง ทำให้แต่ละสโมสร มีสินค้าเข้าเป็นสปอนเซอร์อย่างน้อย 5-8 แบรนด์ต่อสโมสร เพราะมั่นใจว่า เป็นการสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นช่องทางการจำหน่ายใหม่ ซึ่งมีสินค้า อาทิ เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ โค้ก เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ เครื่องดื่มชูกำลังM-150 และเปปทีน ฯลฯ นำสินค้ามาจำหน่ายในสนาม ขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ลีโอ เบียร์ช้าง มีการจัดบูธจำหน่ายสินค้านอกสนาม เป็นต้น
**ทัพสินค้าชี้ช่องทางใหม่-สร้างแบรนด์***
นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ บริษัท ทีซี ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ กล่าวว่า จากการที่เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ได้เป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกในปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดกิจกรรม และบูธจำหน่ายสินค้าบรรจุภัณฑ์กระป๋องและเกล็ดน้ำแข็ง ควบคู่กับการจำหน่ายป็อปคอร์น ส่งผลให้สร้างพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการดับกระหายกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง จากเดิมผู้บริโภคจะเข้าใจว่าดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เฉพาะในช่วงที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุ 16 ปี หรือกระทั่งกลุ่มครอบครัวได้มากขึ้น จากเดิมที่ผ่านมาฐานลูกค้าจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน
นางสาวชนิสา แก้วเรือน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้ก กล่าวว่า ปีนี้บริษัทดำเนินกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ภายใต้แพลทฟอร์ทฟุตบอลทั้งระดับโลก ระดับท้องถิ่น สำหรับในระดับประเทศ โค้ก สนับสนุนฟุตบอลระดับประเทศฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการ ปีที่ 2 นอกจากนี้ยังเตรียมจัดกิจกรรม นำสโมสรชื่อดังจากอังกฤษ มาดวลแข้งในแมทช์พิเศษ”โค้ก ซุปเปอร์ คัพ” กับทีมไทย พรีเมียร์ ลีก ออลสตาร์ ทั้งนี้การดำเนินกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับกลุ่มคนรุ่นใหม่และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
