สิเรียมบิวตี้ ยกเครื่อง “สิเรียม บิวตี้ แคร์” ใหม่ กลางปีเผยโฉม หากไปได้สวย บุกแน่ต่างประเทศปีหน้า ตอกย้ำความสำเร็จในไทยลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่ม 80 ล้านบาท ผุด “สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม” 8 สาขา หวังดันรายได้ทะลุ 200 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 50%
นายชโลธร เส็งสมวงศ์ กรรมการ บริษัท นันท์ลภัส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านแฟรนไชส์ให้บริการความงามและสุขภาพ ภายใต้ร้าน สิเรียม บิวตี้ แคร์ และ สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท แบรนด์ สลิมมิ่งพลัส บาย สิเรียม บริษัทจะเดินหน้าลงทุนเองทั้งหมด ส่วนแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์นั้น จะมุ่งไปในเรื่องของการขายแฟรนไชส์เป็นหลัก แต่ที่ผ่านมาทั้งสองแบรนด์ ยังมีโพซิชันที่ทับซ้อนกันอยู่ ดังนั้น ในปีนี้ สำหรับแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์ บริษัทมีการปรับแผนกลยุทธ์ต่างๆ ใหม่หมด คาดว่ากลางปีนี้จะได้เห็นรูปโฉมใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ ปัจจุบันแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์ มีสาขาต้นแบบที่บริษัทลงทุนเอง 1 สาขา และแฟรนไชส์อีก 5-6 สาขา หลังจากการปรับกลยุทธ์ใหม่นั้น จะเริ่มรุกหนักในการขายแฟรนไชส์อย่างเต็มที่ทั้งในและต่างประเทศ โดยในส่วนของต่างประเทศ จากที่ได้ชะแผนลงทุนมาตั้งแต่ปีก่อนนั้น ถ้าในปีนี้ สิเรียม บิวตี้ แคร์ โฉมใหม่ไปได้ดี ปีหน้าพร้อมจะบุกต่างประเทศอีกครั้ง โดยยังคงเป็นการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ทั้งในดูไบ และสิงคโปร์ เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทยนั้น ปีนี้จะรุกหนักในส่วนของแบรนด์ สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม อย่างเต็มที่ เบื้องต้นคาดว่าจะขยายสาขาเพิ่ม 8 สาขา เป็นในกทม.6 สาขา เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ ในเดือนมี.ค.นี้, ซีคอนสแควร์ พ.ค.นี้ และแถวย่านสุขุมวิท ส่วนต่างจังหวัดมี 2 สาขา คือ เดอะมอลล์โคราช และที่ภูเก็ต แต่ละสาขาใช้งบลงทุนประมาณ 7-10 ล้านบาท หรือคาดว่าจะใช้งบรวมประมาณ 80 ล้านบาทในการขยายสาขาทั้งหมด จากปีก่อนเปิดให้บริการทั้งสิ้น 7 สาขา เปิดเพิ่มเพียง 2 สาขาเท่านั้น
นายชโลธร กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จค่อนข้างดี มีการเติบโต 20% ตามเป้าที่วางไว้ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้มีการขยายสาขาเพิ่มกว่าเท่าตัว เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมรายได้มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% หรือราว 200 ล้านบาท มาจาก สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม 80% และสิเรียม บิวตี้ แคร์ 20%
นายชโลธร เส็งสมวงศ์ กรรมการ บริษัท นันท์ลภัส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านแฟรนไชส์ให้บริการความงามและสุขภาพ ภายใต้ร้าน สิเรียม บิวตี้ แคร์ และ สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท แบรนด์ สลิมมิ่งพลัส บาย สิเรียม บริษัทจะเดินหน้าลงทุนเองทั้งหมด ส่วนแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์นั้น จะมุ่งไปในเรื่องของการขายแฟรนไชส์เป็นหลัก แต่ที่ผ่านมาทั้งสองแบรนด์ ยังมีโพซิชันที่ทับซ้อนกันอยู่ ดังนั้น ในปีนี้ สำหรับแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์ บริษัทมีการปรับแผนกลยุทธ์ต่างๆ ใหม่หมด คาดว่ากลางปีนี้จะได้เห็นรูปโฉมใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ ปัจจุบันแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์ มีสาขาต้นแบบที่บริษัทลงทุนเอง 1 สาขา และแฟรนไชส์อีก 5-6 สาขา หลังจากการปรับกลยุทธ์ใหม่นั้น จะเริ่มรุกหนักในการขายแฟรนไชส์อย่างเต็มที่ทั้งในและต่างประเทศ โดยในส่วนของต่างประเทศ จากที่ได้ชะแผนลงทุนมาตั้งแต่ปีก่อนนั้น ถ้าในปีนี้ สิเรียม บิวตี้ แคร์ โฉมใหม่ไปได้ดี ปีหน้าพร้อมจะบุกต่างประเทศอีกครั้ง โดยยังคงเป็นการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ทั้งในดูไบ และสิงคโปร์ เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทยนั้น ปีนี้จะรุกหนักในส่วนของแบรนด์ สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม อย่างเต็มที่ เบื้องต้นคาดว่าจะขยายสาขาเพิ่ม 8 สาขา เป็นในกทม.6 สาขา เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ ในเดือนมี.ค.นี้, ซีคอนสแควร์ พ.ค.นี้ และแถวย่านสุขุมวิท ส่วนต่างจังหวัดมี 2 สาขา คือ เดอะมอลล์โคราช และที่ภูเก็ต แต่ละสาขาใช้งบลงทุนประมาณ 7-10 ล้านบาท หรือคาดว่าจะใช้งบรวมประมาณ 80 ล้านบาทในการขยายสาขาทั้งหมด จากปีก่อนเปิดให้บริการทั้งสิ้น 7 สาขา เปิดเพิ่มเพียง 2 สาขาเท่านั้น
นายชโลธร กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จค่อนข้างดี มีการเติบโต 20% ตามเป้าที่วางไว้ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้มีการขยายสาขาเพิ่มกว่าเท่าตัว เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมรายได้มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% หรือราว 200 ล้านบาท มาจาก สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม 80% และสิเรียม บิวตี้ แคร์ 20%
