“ฮอนด้า” รุกตลาดเก๋ง ประกาศทุ่มลงทุนในไทย เพื่อรับการผลิตรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด ล่าสุด ส่ง “แจ๊ซ ไมเนอร์เชนจ์” ประเดิมปีกระต่าย นำร่องสู่เป้าขายทั้งปีพุ่ง 1.45 แสนคัน พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่ทั้ง 2 ไลน์ เป็น 2.4 แสนคันต่อปี ด้านค่ายซูเปอร์คาร์ “เฟอร์รารี่” ได้ฤกษ์เปิดโชว์รูมบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มูลค่า 150 ล้านบาท รองรับการบริการเต็มรูปแบบ
นายอาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ยังจะเติบโตต่อเนื่อง คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 8.5 แสนคัน จากปีที่ผ่านมาทำได้กว่า 8.0 แสนคัน โดยมาจากเศรษฐกิจที่ไทยแข็งแกร่ง และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด ทั้งนี้ การลงทุนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เป็นการขึ้นไลน์อีโคคาร์ ฮอนด้า บริโอ ที่กำลังจะแนะนำสู่ตลาดประมาณเดือนมีนาคมนี้ และในปีนี้จะมีการลงทุนรับการขึ้นไลน์ผลิต ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ ที่มาแทนรุ่นปัจจุบัน และจะเปิดตัวสู่ตลาดภายในปีนี้เช่นกัน และยังมีอีกหลายโมเดลที่จะต้องลงทุนปรับไลน์การผลิตรองรับในอนาคต ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่ามีการลงทุนจำนวนมากแน่นอน
สำหรับการที่รัฐบาลมีแนวคิดจะปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ฮอนด้าเห็นด้วยที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพราะโครงสร้างภาษีปัจจุบันมีความซับซ้อนเกินไป และการแบ่งภาษีตามขนาดกระบอกสูบไม่เหมาะสมล้าสมัยแล้ว โดยทั่วโลกปัจจุบันได้ใช้ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เป็นการเกณฑ์ในการคิดอัตราภาษี ซึ่งไทยจะต้องเป็นผู้นำในอาเซียนที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
นายฟูจิโมโตะ กล่าวว่า โดยในส่วนของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาด นอกจากฮอนด้า บริโอ อีโคคาร์ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ และฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ในช่วงปลายปี ล่าสุด วันนี้ (27 ม.ค.) ได้เปิดตัว “ฮอนด้า แจ๊ซ” ใหม่สู่ตลาด ซึ่งเป็นการไมเนอร์เชนจ์ปรับเปลี่ยนกันชนหน้า-หลัง ไฟหน้า และกระจังหน้าใหม่ รวมถึงไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5.9-7.15 แสนบาท ซึ่งปรับราคาขึ้นอีก 1-3 หมื่นบาท แล้วแต่รุ่น และฮอนด้าได้ตั้งเป้าการขายแจ๊ซใหม่ไว้ที่ปีละ 2 หมื่นคัน
ในส่วนของเป้าหมายการขายรถฮอนด้าทุกรุ่นปีนี้ ตั้งไว้ที่ประมาณ 1.45 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งทำยอดขายได้มากถึง 1.14 แสนคัน ซึ่งมาจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดดังกล่าว และได้มีการตั้งเป้าส่งออกอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ไม่เพิ่มมากนัก มาจากสภาพตลาดของประเทศที่ส่งออก และเรื่องของอัตราเงินบาทแข็งค่า แต่การเพิ่มขึ้นของตลาดในประเทศ ทำให้ฮอนด้าต้องเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่เป็น 2.4 แสนคันต่อปี จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 2.0 แสนคัน ด้วยการเพิ่มเวลาทำงานให้เป็น 2 กะ ทั้งสองไลน์ผลิตในปีนี้
ด้าน นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองประธานบริษัทคาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้ารถยนต์เฟอร์รารี่ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทลงทุนกว่า 150 ล้านบาท สร้างโชว์รูมและศูนย์บริการบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ตั้งแต่ 2ปีที่แล้ว ล่าสุดบริษัทจัดงานเปิดตัวโชว์รูมอย่างเป็นทางการ พร้อมรับบริการเต็มรูปแบบ 100% ส่วนการดำเนินธุรกิจในปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทขายรถเฟอร์รารี่ทั้งหมด 3 รุ่น โดยสามารถสร้างยอดจองรวม 24 คัน หรือมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ในส่วนของปี 2554 บริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ 599 GTO Limited Editions ซึ่งพร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้าในเดือนกุมภาพันธ์ทันที
นายอาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ยังจะเติบโตต่อเนื่อง คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 8.5 แสนคัน จากปีที่ผ่านมาทำได้กว่า 8.0 แสนคัน โดยมาจากเศรษฐกิจที่ไทยแข็งแกร่ง และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด ทั้งนี้ การลงทุนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เป็นการขึ้นไลน์อีโคคาร์ ฮอนด้า บริโอ ที่กำลังจะแนะนำสู่ตลาดประมาณเดือนมีนาคมนี้ และในปีนี้จะมีการลงทุนรับการขึ้นไลน์ผลิต ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ ที่มาแทนรุ่นปัจจุบัน และจะเปิดตัวสู่ตลาดภายในปีนี้เช่นกัน และยังมีอีกหลายโมเดลที่จะต้องลงทุนปรับไลน์การผลิตรองรับในอนาคต ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่ามีการลงทุนจำนวนมากแน่นอน
สำหรับการที่รัฐบาลมีแนวคิดจะปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ฮอนด้าเห็นด้วยที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพราะโครงสร้างภาษีปัจจุบันมีความซับซ้อนเกินไป และการแบ่งภาษีตามขนาดกระบอกสูบไม่เหมาะสมล้าสมัยแล้ว โดยทั่วโลกปัจจุบันได้ใช้ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เป็นการเกณฑ์ในการคิดอัตราภาษี ซึ่งไทยจะต้องเป็นผู้นำในอาเซียนที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
นายฟูจิโมโตะ กล่าวว่า โดยในส่วนของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาด นอกจากฮอนด้า บริโอ อีโคคาร์ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ และฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ในช่วงปลายปี ล่าสุด วันนี้ (27 ม.ค.) ได้เปิดตัว “ฮอนด้า แจ๊ซ” ใหม่สู่ตลาด ซึ่งเป็นการไมเนอร์เชนจ์ปรับเปลี่ยนกันชนหน้า-หลัง ไฟหน้า และกระจังหน้าใหม่ รวมถึงไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5.9-7.15 แสนบาท ซึ่งปรับราคาขึ้นอีก 1-3 หมื่นบาท แล้วแต่รุ่น และฮอนด้าได้ตั้งเป้าการขายแจ๊ซใหม่ไว้ที่ปีละ 2 หมื่นคัน
ในส่วนของเป้าหมายการขายรถฮอนด้าทุกรุ่นปีนี้ ตั้งไว้ที่ประมาณ 1.45 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งทำยอดขายได้มากถึง 1.14 แสนคัน ซึ่งมาจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดดังกล่าว และได้มีการตั้งเป้าส่งออกอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ไม่เพิ่มมากนัก มาจากสภาพตลาดของประเทศที่ส่งออก และเรื่องของอัตราเงินบาทแข็งค่า แต่การเพิ่มขึ้นของตลาดในประเทศ ทำให้ฮอนด้าต้องเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่เป็น 2.4 แสนคันต่อปี จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 2.0 แสนคัน ด้วยการเพิ่มเวลาทำงานให้เป็น 2 กะ ทั้งสองไลน์ผลิตในปีนี้
ด้าน นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองประธานบริษัทคาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้ารถยนต์เฟอร์รารี่ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทลงทุนกว่า 150 ล้านบาท สร้างโชว์รูมและศูนย์บริการบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ตั้งแต่ 2ปีที่แล้ว ล่าสุดบริษัทจัดงานเปิดตัวโชว์รูมอย่างเป็นทางการ พร้อมรับบริการเต็มรูปแบบ 100% ส่วนการดำเนินธุรกิจในปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทขายรถเฟอร์รารี่ทั้งหมด 3 รุ่น โดยสามารถสร้างยอดจองรวม 24 คัน หรือมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ในส่วนของปี 2554 บริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ 599 GTO Limited Editions ซึ่งพร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้าในเดือนกุมภาพันธ์ทันที