เลอโนโวทุ่มงบร้อยล้าน ลุยตลาด เน้นสร้างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้าไปต่างจังหวัด หลังจากลูกค้ากว่า 90% อยู่ในกรุงเทพฯ หวังส่วนแบ่งปีนี้ 10% โฟกัสไลน์สินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งเดสก์ทอป และ แท็บเล็ต ที่กำลังมาแรง
นายจิราวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า การทำตลาดของเลอโนโวในปีนี้ จะเน้นที่การทำให้ผู้บริโภครับรู้แบรนด์มากขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัดหลังจากที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ รู้จักแบรนด์เลอโนโวแล้ว
“เราต้องการให้ผู้บริโภคราว 70-80% รู้จักแบรนด์เลอโนโวจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 20-30% จากกลุ่มผู้บริโภคที่รู้จักอยู่เดิมเป็นหลัก ทำให้ต้องมีการขยายการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไปในวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งหัวเมืองหลักอย่างเชียงใหม่และขอนแก่น”
ทั้งนี้ เลอโนโววางงบประมาณในการสร้างแบรนด์เลอโนโวในปีนี้ไว้ในหลักร้อยล้านบาท จากเดิมที่ใช้เพียงหลักล้านบาทในปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้จากสื่อกระแสหลักต่างๆ พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Are You Lenovo?” เสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ในทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยอีกตลาดหนึ่งที่เลอโนโวกำลังจะเข้าไป คือ ตลาดของเดสก์ทอป ทั้งในแง่ของช่องทางจำหน่ายและกลุ่มสินค้า เนื่องจากปีที่ผ่านมายังไม่ได้ให้ความสำคัญและทำการตลาดอย่างจริงจัง ทำให้ยังไม่มีส่วนแบ่งในตลาดนี้
“ถ้าเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดเดสก์ทอป จะช่วยให้มีส่วนแบ่งตลาดรวมพีซีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก กลับกันถ้าไปเพิ่มยอดในตลาดโน้ตบุ๊กก็แทบจะไม่ได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมมากนัก โดยมีกลุ่มลูกค้าที่กำลังจะเปลี่ยนเครื่องเก่า ให้รองรับการใช้งานแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น”
ปัจจุบันเลอโนโวมีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ที่ราว 6% ในปีที่ผ่านมา และหวังว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเป็น 10% ในทุกกลุ่มตลาดของปีนี้ โดยยอดขายในปีที่ผ่านมาเป็นสัดส่วนในกรุงเทพฯถึง 90% ส่งผลให้จำเป็นต้องขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดเพื่อขยายฐานลูกค้า
นายขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า เลอโนโวจะทำตลาดผ่านสื่อกระแสหลักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นป้ายบิลบอร์ด วิทยุ หนังสือพิมพ์ เพื่อตอบรับกับเป้าหมายที่ทางสำนักงานใหญ่ตั้งไว้ให้มีการเติบโตแบบตัวเลข 2 หลัก
“การผลักดันให้เกิดการรับรู้แบรนด์ของเลอโนโว จะใช้แนวคิดในการนำนวัตกรรม ผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือ และการสร้างสรรค์ของแบรนด์ เพื่อตอบรับการใช้งานของผู้บริโภคทุกกลุ่ม”
ภาพรวมของตลาดโน้ตบุ๊กในปีที่ผ่านมา ถือว่า เลอโนโวประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ทั้งในตลาดโลกและในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราการเติบโตในระดับ 2 หลัก ซึ่งถ้ามองเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตรองจากอินโดนีเซีย และเวียดนาม
ขณะที่การทำตลาดแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ในประเทศไทยของเลอโนโวในขณะนี้ ยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงดูว่าตลาดมีความชัดเจนต่อสินค้าเหล่านี้อย่างไร เป็นไปตามความต้องการของตลาด หรือ สินค้าแฟชัน ซึ่งจะมีรูปแบบการทำตลาดที่แตกต่างกันออกไป
โดยคาดว่าจะนำสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเลอโนโวต้องการนำสินค้าเข้ามาพร้อมกับความแตกต่าง เพื่อให้มีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งานให้แตกต่างจากแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆในตลาด รวมถึงการพัฒนาภาษาไทยให้สมบูรณ์
ส่วนการขยายไปตลาดต่างจังหวัด ทำให้ต้องมีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้มากขึ้นเท่าตัว จากในพื้นที่ที่มี ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่เข้าไปทำตลาดก็ต้องมีทีมเข้าไปเสนอสินค้าให้กับหน้าร้านต่างๆ โดยยังใช้ตัวแทนจำหน่าย 3 รายเช่นเดิม คือ อินเกรม เอสไอเอส ดิสทริบิวเตอร์ และแวลู ซิสเตมส์
นายจิราวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า การทำตลาดของเลอโนโวในปีนี้ จะเน้นที่การทำให้ผู้บริโภครับรู้แบรนด์มากขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัดหลังจากที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ รู้จักแบรนด์เลอโนโวแล้ว
“เราต้องการให้ผู้บริโภคราว 70-80% รู้จักแบรนด์เลอโนโวจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 20-30% จากกลุ่มผู้บริโภคที่รู้จักอยู่เดิมเป็นหลัก ทำให้ต้องมีการขยายการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไปในวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งหัวเมืองหลักอย่างเชียงใหม่และขอนแก่น”
ทั้งนี้ เลอโนโววางงบประมาณในการสร้างแบรนด์เลอโนโวในปีนี้ไว้ในหลักร้อยล้านบาท จากเดิมที่ใช้เพียงหลักล้านบาทในปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้จากสื่อกระแสหลักต่างๆ พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Are You Lenovo?” เสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ในทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยอีกตลาดหนึ่งที่เลอโนโวกำลังจะเข้าไป คือ ตลาดของเดสก์ทอป ทั้งในแง่ของช่องทางจำหน่ายและกลุ่มสินค้า เนื่องจากปีที่ผ่านมายังไม่ได้ให้ความสำคัญและทำการตลาดอย่างจริงจัง ทำให้ยังไม่มีส่วนแบ่งในตลาดนี้
“ถ้าเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดเดสก์ทอป จะช่วยให้มีส่วนแบ่งตลาดรวมพีซีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก กลับกันถ้าไปเพิ่มยอดในตลาดโน้ตบุ๊กก็แทบจะไม่ได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมมากนัก โดยมีกลุ่มลูกค้าที่กำลังจะเปลี่ยนเครื่องเก่า ให้รองรับการใช้งานแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น”
ปัจจุบันเลอโนโวมีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ที่ราว 6% ในปีที่ผ่านมา และหวังว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเป็น 10% ในทุกกลุ่มตลาดของปีนี้ โดยยอดขายในปีที่ผ่านมาเป็นสัดส่วนในกรุงเทพฯถึง 90% ส่งผลให้จำเป็นต้องขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดเพื่อขยายฐานลูกค้า
นายขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า เลอโนโวจะทำตลาดผ่านสื่อกระแสหลักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นป้ายบิลบอร์ด วิทยุ หนังสือพิมพ์ เพื่อตอบรับกับเป้าหมายที่ทางสำนักงานใหญ่ตั้งไว้ให้มีการเติบโตแบบตัวเลข 2 หลัก
“การผลักดันให้เกิดการรับรู้แบรนด์ของเลอโนโว จะใช้แนวคิดในการนำนวัตกรรม ผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือ และการสร้างสรรค์ของแบรนด์ เพื่อตอบรับการใช้งานของผู้บริโภคทุกกลุ่ม”
ภาพรวมของตลาดโน้ตบุ๊กในปีที่ผ่านมา ถือว่า เลอโนโวประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ทั้งในตลาดโลกและในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราการเติบโตในระดับ 2 หลัก ซึ่งถ้ามองเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตรองจากอินโดนีเซีย และเวียดนาม
ขณะที่การทำตลาดแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ในประเทศไทยของเลอโนโวในขณะนี้ ยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงดูว่าตลาดมีความชัดเจนต่อสินค้าเหล่านี้อย่างไร เป็นไปตามความต้องการของตลาด หรือ สินค้าแฟชัน ซึ่งจะมีรูปแบบการทำตลาดที่แตกต่างกันออกไป
โดยคาดว่าจะนำสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเลอโนโวต้องการนำสินค้าเข้ามาพร้อมกับความแตกต่าง เพื่อให้มีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งานให้แตกต่างจากแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆในตลาด รวมถึงการพัฒนาภาษาไทยให้สมบูรณ์
ส่วนการขยายไปตลาดต่างจังหวัด ทำให้ต้องมีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้มากขึ้นเท่าตัว จากในพื้นที่ที่มี ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่เข้าไปทำตลาดก็ต้องมีทีมเข้าไปเสนอสินค้าให้กับหน้าร้านต่างๆ โดยยังใช้ตัวแทนจำหน่าย 3 รายเช่นเดิม คือ อินเกรม เอสไอเอส ดิสทริบิวเตอร์ และแวลู ซิสเตมส์