เรือด่วนเจ้าพระยาสุดอั้น หลังราคาน้ำมันพุ่ง เตรียมชงกรมเจ้าท่าขอปรับราคาเรือด่วนทุกประเภท ระยะละ 1 บาท ส่วนเรือข้ามฟากขอปรับเพิ่มอีก 50 สตางค์ จับตาเรือคลองแสนแสบ เล็งปรับราคาตาม
นาวาโท ปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าบริษัทจะทำหนังสือถึงกรมเจ้าท่า เพื่อขอให้อนุมัติปรับค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา ทุกประเภทเพิ่มขึ้นอีกระยะละ 1 บาท และเรือข้ามฟากปรับเพิ่ม 50 สตางค์ โดยเสนอให้มีผลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้
สำหรับสาเหตุที่บริษัทต้องเสนอขอปรับอัตราค่าโดยสาร เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก หากกรมเจ้าท่าไม่อนุมัติให้ปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสาร คาดว่า ผลประกอบการในปี 2554 จะประสบปัญหาขาดทุนแน่นอน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีค่าใช้จ่ายปีละ 110 ล้านบาท มีรายได้ 130 ล้านบาท โดยในปี 2553 มีกำไร 20 ล้านบาท มีผู้โดยสารใช้บริการวันละประมาณ 3 หมื่นเที่ยว
ส่วนอัตราค่าโดยสารเรือด่วนในปัจจุบัน เช่น เรือด่วนประจำทาง ค่าโดยสารเริ่มต้น 9 บาท สูงสุด 13 บาท เรือด่วนพิเศษธงส้ม 14 บาทตลอดสาย เรือด่วนพิเศษธงเหลือง 19 บาท และ 28 บาท เรือด่วนพิเศษธงเขียว 12-31 บาท และเรือข้ามฟาก 2 บาท
“อัตราค่าโดยสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่มีการปรับมาเกือบ 2 ปีแล้ว และคิดบนฐานราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 25-28 บาท ซึ่งล่าสุดราคาน้ำมันปรับสูงเกือบลิตรละ 30 บาทแล้ว โดยหากรัฐไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารจะทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2554 ของบริษัทประสบปัญหาขาดทุน โดยในปี 2553 บริษัทมีกำไรประมาณ 20 ล้านบาท มีรายได้ประมาณ 130 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายประมาณ 110 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง และแรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 94% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเรือจำเป็นต้องขอปรับขึ้นค่าโดยสาร เพราะไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ก๊าซเอ็นจีวีได้เหมือนกับรถโดยสารประจำทาง เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนักบรรทุกถังก๊าซเอ็นจีวี และอัตราการเร่งของเครื่องยนต์ รวมทั้งปริมาณผู้โดยสารที่อยู่ในระดับทรงตัวมาตลอด 10 ปี เนื่องจากผู้โดยสารมีความไม่สะดวกในการต่อเชื่อมระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น
อย่างไรก็ตาม คาดว่า เรือคลองแสนแสบจะเสนอขอปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีกระยะละ 1 บาทเช่นเดียวกับเรือด่วนเจ้าพระยา