นายกฯ ยันคุมดีเซลได้ถึงสิ้น ก.พ.นี้ แจง กนง.ขึ้น ดบ.ไม่กระทบจีดีพี

นายกฯ เชื่อกองทุนน้ำมันฯ คุมราคาดีเซลได้ถึงสิ้น ก.พ.นี้ เพื่อช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าจากต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น ซึ่งจะประเมินอีกครั้งว่า เดือนหน้าจะพยุงราคาดีเซลอย่างไร พร้อมแจง กนง.จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อป้องกันเงินเฟ้อ เชื่อไม่กระทบการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหลังใช้เงินรอบ 2 อีกกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อตรึงราคาน้ำมัน โดยยืนยันว่า กองทุนน้ำมันฯ ยังอยู่ในระดับที่สามารถดูแลให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทได้ จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2554 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้นำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มอีก 80 สตางค์ต่อลิตร

ทั้งนี้ รัฐบาลมีความต้องการที่จะดูแลสถานะกองทุนฯ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินการคลังของรัฐ และการที่ กบง.มีมติดังกล่าว เพื่อช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าจากต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้ รัฐบาลจะประเมินอีกครั้งว่า จะมีแนวทางในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลอย่างไร

นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2554 ยังคงเติบโตได้ในระดับร้อยละ 4-5 แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ตาม และรัฐบาลจะดูแลภาวะเงินเฟ้อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การที่ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะได้พิจารณาแล้ว และคงมีความกังวลเรื่องของเงินเฟ้อ ต้องยอมรับว่า เรื่องแรงกดดันเงินเฟ้อมาจากทั้ง 2 ทาง คือ เศรษฐกิจขยายตัว และจากทางต้นทุน ดังนั้น เชื่อว่าจำเป็นต้องดูแลและคงอยู่ในระดับที่ไม่กระทบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม และยังเชื่อว่า เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2554 จะโตได้ตามเป้าหมาย