ชทพ.เชื่อปี 53 “แม้ว” แตกหักป่วนป้องทรัพย์ 76,000 ล้าน ก่อน ศก.ฟื้น ไม่มีชนวนเคลื่อนไหว มั่นใจ รบ.รับมืออยู่ แต่แนะทางออกเรียก “นช.แม้ว” และ “ผู้ใหญ่บ้านเมือง” หันหน้าคุยกันสร้างสมานฉันท์ พร้อมค้านสลับเก้าอี้ รมช.สธ.อุ้ม “มานิต”
วันนี้ (1 ม.ค.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเมืองในปี 2553 มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากใกล้วันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะเป็นจุดแตกหักของการเคลื่อนไหว โดยจะมีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์ เพื่อเป็นเครื่องต่อรองไม่ให้ทรัพย์สินถูกยึด ขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ผลงานเริ่มชัดเจน เศรษฐกิจขยายตัว และเป็นบวกได้ในปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง จะต้องเร่งปิดเกม ไม่เช่นนั้น จะไม่มีแรงจูงใจในการเคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถรับมือได้ เพราะมีประชาชนกลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง แต่ส่วนตัวเห็นว่า แนวทางสมานฉันท์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดย พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้ใหญ่ในบ้านเมือง หันหน้าพูดคุยกันได้ ทุกอย่างก็จะจบ ที่สำคัญคือ รัฐบาลจะต้องไม่เป็นคู่กรณี แต่เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย ควาสมานฉันท์ก็จะเกิดขึ้นได้
พร้อมกันนี้โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่า นายอภิสิทธิ์จะมีทางออกกรณีปัญหาส่อทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับรัฐมนตรีของพรรค
ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทยจะสับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทนการให้ นายมานิต นพอมรบดี ออกจากตำแหน่งนั้น โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา มองว่า หากเป็นการปรับโยกย้ายเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริต เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะข้อกล่าวหายังติดตัวนายมานิตต่อไป และไม่ทำให้การแก้ไขปัญหาดีขึ้น