นกแอร์ แคร์คนไทย จับกลยุทธ์หาพันธมิตร จัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ กระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศ และ คนท้องถิ่นเดินทาง ในลักษณะการท่องเที่ยวเชื่อมโยง รถ เรือ และ เครื่องบิน แบบครบวงจร เร่งสร้างการรับรู้แบรนด์ให้อยู่ในใจผู้บริโภค เจาะเซ็กเมนต์ วัยรุ่น คนทำงาน เดินหน้าเพิ่มเที่ยวบินปีนี้ 20-30% ตั้งเป้ารายได้ 4-5 พันล้านบาท โต 40%
นายปิ่นยศ พิบูลย์สงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด กล่าวถึงแผนการดำเนินงานปี 2554 ว่า เน้นกลยุทธ์การสร้างเส้นทางเครือข่ายให้ครอบคลุมถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่เลือกใช้บริการสายการบินนกแอร์ โดยมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตร ที่ทำธุรกิจในระบบคมนาคมขนส่ง ทั้งทางรถ ทางเรือ ในการนำนักท่องเที่ยวจากเกาะต่างๆ ทางภาคใต้ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน เป็นต้น ให้เดินทางมาต่อเครื่องบินที่ นครศรีธรรมราช
นอกจากนั้น ยังเตรียมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดคอนเสิร์ต และ กิจกรรมอื่นๆ ต่อเนื่องตลอดปีในรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์ โดยมุ่งหวังสร้างแบรนด์นกแอร์ให้เป็นที่จดจำของลูกค้าและนักท่องเที่ยว ว่า หากคิดจะใช้บริการสายการบินในประเทศให้นึกถึงนกแอร์ เพราะเชื่อว่ารูปแบบการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบนี้จะได้ผลตอบรับที่ดีกว่าการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อเพียงเพียงอย่างเดียว สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะสร้างการรับรู้ในกิจกรรม คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น และ วัยทำงาน เป็นหลัก
สำหรับแผนเพิ่มเที่ยวบินปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มอีก 20-30% จากของเดิมที่มีอยู่กว่า 36 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยแต่ละเส้นทางจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าอัตราขนส่งผู้โดยสารต่อเที่ยว หรือโหลดแฟกเตอร์ตลอดปีนี้ที่ 75% เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่70% เป็นอัตราที่ลดลงจากปีก่อนที่มีโหลดแฟกเตอร์ที่ราว 85-90% ซึ่งที่ลดลงเพราะมีการเพิ่มเที่ยวบิน แต่รายได้ยังคงเติบโต โดยตลอดปีนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 4-5 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30-40% โดยเพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 3.5 พันล้านบาท สำหรับลูกค้าของนกแอร์ 95% เป้นคนไทย ส่วนอีก 5% เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย
นายปิ่นยศ กล่าวว่า ปัจจุบันนกแอร์มีศูนย์กลางการบินอยู่ 2 แห่ง คือ ที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ส่วนที่ภูเก็ตซึ่งเป้นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเพิ่มเป้นศูนย์กลางการบิน เพราะลูกค้าของนกแอร์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยมีการเดินทางไปเส้นทางภูเก็ตคิดเป็นสัดส่วน 20% ของลูกค้านกแอร์ทั้งหมด
“คนไทยเป็นตลาดที่ช่วยให้นกแอร์ฝ่าวิกฤตต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาได้ ไม่ว่าจะเป็น การเมือง หรือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพราะว่าคนไทยเมีการรับรู้ได้ดีที่สุดว่าพื้นที่ไหนควรหรือไม่ควรเดินทางไป จึงทำให้ไม่ถูกกระทบจากวิกฤตดังกล่าว ทำให้นกแอร์เห็นแล้วว่า ควรทำการตลาดที่กระตุ้นตลาดคนไทย และ คนในพื้นที่ที่นกแอร์มีเส้นทางบินให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และถี่ขึ้น” นายปิ่นยศ กล่าว
นายปิ่นยศ พิบูลย์สงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด กล่าวถึงแผนการดำเนินงานปี 2554 ว่า เน้นกลยุทธ์การสร้างเส้นทางเครือข่ายให้ครอบคลุมถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่เลือกใช้บริการสายการบินนกแอร์ โดยมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตร ที่ทำธุรกิจในระบบคมนาคมขนส่ง ทั้งทางรถ ทางเรือ ในการนำนักท่องเที่ยวจากเกาะต่างๆ ทางภาคใต้ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน เป็นต้น ให้เดินทางมาต่อเครื่องบินที่ นครศรีธรรมราช
นอกจากนั้น ยังเตรียมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดคอนเสิร์ต และ กิจกรรมอื่นๆ ต่อเนื่องตลอดปีในรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์ โดยมุ่งหวังสร้างแบรนด์นกแอร์ให้เป็นที่จดจำของลูกค้าและนักท่องเที่ยว ว่า หากคิดจะใช้บริการสายการบินในประเทศให้นึกถึงนกแอร์ เพราะเชื่อว่ารูปแบบการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบนี้จะได้ผลตอบรับที่ดีกว่าการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อเพียงเพียงอย่างเดียว สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะสร้างการรับรู้ในกิจกรรม คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น และ วัยทำงาน เป็นหลัก
สำหรับแผนเพิ่มเที่ยวบินปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มอีก 20-30% จากของเดิมที่มีอยู่กว่า 36 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยแต่ละเส้นทางจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าอัตราขนส่งผู้โดยสารต่อเที่ยว หรือโหลดแฟกเตอร์ตลอดปีนี้ที่ 75% เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่70% เป็นอัตราที่ลดลงจากปีก่อนที่มีโหลดแฟกเตอร์ที่ราว 85-90% ซึ่งที่ลดลงเพราะมีการเพิ่มเที่ยวบิน แต่รายได้ยังคงเติบโต โดยตลอดปีนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 4-5 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30-40% โดยเพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 3.5 พันล้านบาท สำหรับลูกค้าของนกแอร์ 95% เป้นคนไทย ส่วนอีก 5% เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย
นายปิ่นยศ กล่าวว่า ปัจจุบันนกแอร์มีศูนย์กลางการบินอยู่ 2 แห่ง คือ ที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ส่วนที่ภูเก็ตซึ่งเป้นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเพิ่มเป้นศูนย์กลางการบิน เพราะลูกค้าของนกแอร์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยมีการเดินทางไปเส้นทางภูเก็ตคิดเป็นสัดส่วน 20% ของลูกค้านกแอร์ทั้งหมด
“คนไทยเป็นตลาดที่ช่วยให้นกแอร์ฝ่าวิกฤตต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาได้ ไม่ว่าจะเป็น การเมือง หรือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพราะว่าคนไทยเมีการรับรู้ได้ดีที่สุดว่าพื้นที่ไหนควรหรือไม่ควรเดินทางไป จึงทำให้ไม่ถูกกระทบจากวิกฤตดังกล่าว ทำให้นกแอร์เห็นแล้วว่า ควรทำการตลาดที่กระตุ้นตลาดคนไทย และ คนในพื้นที่ที่นกแอร์มีเส้นทางบินให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และถี่ขึ้น” นายปิ่นยศ กล่าว
