xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวเพิ่งตื่น ทำแผนรับวิกฤต ฟื้นความเชื่อมั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงการท่องเที่ยวเพิ่งตื่น เตรียมตั้งคณะทำงานร่างแผนยุทธศาสตร์การทำงานบริหารจัดการวิกฤตด้านการท่องเที่ยว รับมือความไม่แน่นอน ครอบคลุมวิกฤตด้านการเมืองและภัยจากอาชญากรรม พร้อมตั้งกองทุนฯช่วยเหลือหวังให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น คาดใช้เวทีประชุม อาเซียน ทัวริสซึม สัปดาห์หน้าประกาศจุดยืนประเทศไทย

วานนี้ (10 ม.ค.) นางธนิฏฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานกรรมการดำเนินงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความร่วมมือในการบริหารจัดการวิกฤตด้านการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานร่างแผนยุทธศาสตร์ มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานร่วมททำงาน ได้แก่ สำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมการท่องเที่ยว, ตำรวจท่องเที่ยว, กรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ, กระทรวงคมนาคม ตำรวจนครบาล กรมบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น

กำหนดเริ่มประชุมเพื่อร่างแผนครั้งแรกภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ โดยใช้แนวทางความคิดเห็นที่ได้จากกการประชุมครั้งนี้เป็นแนวทางการร่างแผนฯ เพื่อให้เสร็จทันพร้อมใช้ภายในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งจากการหารือ พบว่าในแต่ละหน่วยงานก็มีแผนบริหารวิกฤติของตัวเองอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ ที่จะนำแผนในหัวข้อที่เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวมารวมไว้ด้วยกัน

ทั้งนี้ แนวทางบริหารจัดการวิกฤติด้านการท่องเที่ยว ได้จัดแบ่งวิกฤติออกเป็น 5 ด้าน เพื่อจัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์ให้เหมาะสม ได้แก่ 1.ด้านอาชญากรรมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 2.ด้านป้องกันโรคระบาด 3.ด้านภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ 4.ด้านสถานการณ์การเมือง และ 5.ด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องเชิงบูรณาการ โดยคณะทำงานจะร่างแผนสำหรับรับมือวิกฤติแต่ละประเภทเอาไว้ 3 ขั้นตอน คือ การป้องกันก่อนเกิดเหตุ, การจัดการระหว่างที่เกิดวิกฤติ และการเยียวยาหลังจากเกิดวิกฤติ เพื่อเตรียมพร้อมบริหารจัดการวิกฤติด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดเมื่อเทียบประเทศอื่นในอาเซียน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของวิกฤตด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและวิกฤติด้านการเมือง ซึ่งยังไม่มีประเทศอื่นๆ แต่เราทำขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว

“ไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย ดังนั้น การชุมนุมทางการเมือง จึงเป็นเรื่องปกติ แต่ศูนย์บริหารจัดการด้านวิกฤติ ที่จะมีขึ้นนี้ จะสามารถให้ข้อมูลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ฉับไว้ เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับผลจากภัยธรรมชาติ การก่อจราจล หรือ การถูกหลอกลวงจากมิดฉาชีพ ซึ่งการช่วยเหลือดูแลจะครอบคลุมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศ จะมีกฎหมายดูแลดีอยู่แล้ว”

นางธนิฎฐา กล่าวอีกว่า เบื้องต้น หากมีการตั้งศูนย์บริหารวิกฤต คาดว่า จะขอใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีอยู่ในการดำเนินงานหากเสร็จทันภายในปีงบประมาณ 2554 ส่วนปี 2555 กระทรวงจะตั้งอยู่ในงบประจำปี อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานไม่สะดุด มีแนวคิดจะเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนท่องเที่ยวสำหรับใช้ในภาวะวิกฤตขึ้นมา เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เผชิญวิกฤติในไทย และนักท่องเที่ยวคนไทยที่ไปเผชิญวิกฤตในต่างประเทศ เชื่อว่าหากร่างแผนฯ เสร็จแล้วนำมาใช้จริง จะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาเที่ยวไทย เกิดความมั่นใจและเลือกที่จะเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากแผนจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความร่วมมือในการบริหารจัดการวิกฤตด้านการท่องเที่ยว และการจัดตั้งกองทุนฯ ดังกล่าว จำนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อไปนำเสนอในเวทีการประชุม อาเซียน ทัวริสซึม ซึ่งจะมีผู้แทนจากองคค์การการท่องเที่ยวโลก และรัฐมนตรีท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ในอาเซียนร่วมประชุม ประกาศความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับกับวิกฤตที่จะมาจากหลายรูปแบบ ขณะเดียวกันเพื่อความต่อเนื่องของการทำงาน จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย

สำหรับปี 2553 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 15.8 ล้านคน เพิ่มจากปี 2552 ราว 12% โดยกระทรวงมีแนวคิดจะผลักดันการเติบโตของนักท่องเที่ยวให้มีความต่อเนื่อง จึงเร่งหาแนวทางบริหารจัดการวิกฤติด้านการท่องเที่ยวฯเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความอ่อนไหว และพร้อมจะชะลอตัวทันที่เมืองเกิดวิกฤติ แต่หากนักท่องเที่ยวได้รับมทราบข้อมูลอย่างถูกต้องเป็นระบบ จะช่วยสร้างความเข้าใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้
กำลังโหลดความคิดเห็น