บีโอไอกางผลสำรวจ พบ บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนฯเตรียมแผนขยายกิจการในอีก 6 เดือนข้างหน้า รวมมูลค่าสูงถึง 1.7 แสนล้านบาท
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้สำรวจภาวะการจ้างงาน การผลิตและการจำหน่ายของบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งบีโอไอทำการสำรวจเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง โดยผลการสำรวจ ณ เดือนมกราคม 2553 มีบริษัทตอบแบบสำรวจจำนวน 412 บริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทมีมูลค่าเงินลงทุนของทุกโครงการรวมกันตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป พบว่า ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมส่วนใหญ่จำนวน 223 บริษัท หรือ 54% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจจะเพิ่ม การจ้างงาน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนผลสำรวจเรื่องแผนขยายการลงทุนในปี 2553 พบว่า มีจำนวน 116 บริษัท มีแผนจะขยายการลงทุนในปีนี้ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 177,926 ล้านบาท โดยโครงการลงทุนขนาด 200-500 ล้านบาท จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่หากเป็นโครงการขนาดใหญ่เกิน 1,000 ล้านบาท จะอยู่ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ พลาสติก กิจการบริการและสาธารณูปโภค
สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตในปี 2553 คาดว่า จะเพิ่มขึ้นจาก 58% ในปี 2552 เป็น 68% โดยเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตในทุกอุตสาหกรรม เพราะมียอดคำสั่งสั่งซื้อเริ่มกลับคืนมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าการส่งออกของบริษัทที่ได้รับส่งเสริมในปี 2553 คาดว่า การส่งออกจะขยายตัวประมาณ 10% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท โดยการส่งออกของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งอุตสาหกรรมเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนมูลค่าการจำหน่ายในประเทศ คาดว่า ปีนี้ทุกอุตสาหกรรมจะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้สำรวจภาวะการจ้างงาน การผลิตและการจำหน่ายของบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งบีโอไอทำการสำรวจเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง โดยผลการสำรวจ ณ เดือนมกราคม 2553 มีบริษัทตอบแบบสำรวจจำนวน 412 บริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทมีมูลค่าเงินลงทุนของทุกโครงการรวมกันตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป พบว่า ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมส่วนใหญ่จำนวน 223 บริษัท หรือ 54% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจจะเพิ่ม การจ้างงาน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนผลสำรวจเรื่องแผนขยายการลงทุนในปี 2553 พบว่า มีจำนวน 116 บริษัท มีแผนจะขยายการลงทุนในปีนี้ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 177,926 ล้านบาท โดยโครงการลงทุนขนาด 200-500 ล้านบาท จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่หากเป็นโครงการขนาดใหญ่เกิน 1,000 ล้านบาท จะอยู่ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ พลาสติก กิจการบริการและสาธารณูปโภค
สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตในปี 2553 คาดว่า จะเพิ่มขึ้นจาก 58% ในปี 2552 เป็น 68% โดยเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตในทุกอุตสาหกรรม เพราะมียอดคำสั่งสั่งซื้อเริ่มกลับคืนมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าการส่งออกของบริษัทที่ได้รับส่งเสริมในปี 2553 คาดว่า การส่งออกจะขยายตัวประมาณ 10% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท โดยการส่งออกของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งอุตสาหกรรมเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนมูลค่าการจำหน่ายในประเทศ คาดว่า ปีนี้ทุกอุตสาหกรรมจะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท