โรบินสันใส่เกียร์ 5 เร่งลงทุน วางเป้า 5 ปีจากนี้ ผุดเพิ่ม 4 สาขาต่อปี ลั่นปีนี้ ทุ่ม 2,400 ล้านบาท เปิดอีก 4 สาขา เผยปรับตัวสู่ผู้บริหารพื้นที่ให้เช่าและพลาซ่า ประเดิมที่จังหวัดตรัง ปีนี้ขอเติบโตอีก 10%
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี จากนี้ไปของโรบินสัน จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วกว่าเดิมที่ผ่านมา โดยกำหนดจะขยายการลงทุนสาขาใหม่เฉลี่ย 3-4 สาขาต่อปี โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ย 300-600 ล้านบาทต่อสาขา จากเดิมเปิดเฉลี่ย 2 สาขาต่อปี เนื่องจากมองว่าธุรกิจห้างสรรพสินค้าในไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนากว่าไทย
โดยโรบินสันเองก็จะมีรูปแบบใหม่ๆ ด้วย เพื่อเป็นการพัฒนาให้เข้ากับทำเลและพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีขนาดกลางและเล็ก ซึ่งขณะนี้โรบินสันมีสาขารวมทั้งสิ้น 13 จังหวัด นั่นหมายความว่า ยังมีโอกาสเปิดได้อีกหลายสาขาในจังหวัดที่ยังไม่มีโรบินสัน
ล่าสุด ได้เปิดตัวโรบินสันรูปแบบใหม่ที่เป็นไลฟ์สไตล์ โดยจะเป็นศูนย์การค้าในตัวด้วย บริหารโดยโรบินสันเอง ที่จังหวัดตรัง เป็นฟอร์แมทที่จะใช้ในการขยายาสาขาในจังหวัดกลางและเล็กต่อไป โดยโรบินสันตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ 10% ทุกปีจากนี้ไป ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าภาวะเศรษฐกิจรวมของประเทศเติบโตเฉลี่ย 3-4%
ทั้งนี้ ในปีนี้วางแผนใช้งบลงทุนรวม 2,400 ล้านบาท ขยายอีก 4 สาขาใหม่ คือ ที่ ตรัง เชียงราย พิษณุโลก และ ที่พระรามเก้า และในปี 2544 จะขยายอีก 4 สาขา แต่ยังไม่เปิดเผยว่าอยู่ที่ใด งบลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนั้นแล้ วในปี 2552 นี้ ยังใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เพื่อทำการรีโนเวทสาขาเดิมอีกด้วย
สำหรับสาขาที่จังหวัดตรังนั้น มีพื้นที่รวม 28,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ห้างโรบินสัน 10,000 ตารางเมตร และที่เหลือเป็นพื้นที่ในส่วนพลาซ่าให้เช่า ซึ่งสาขานี้ลงทุน 650 ล้านบาท
ขณะที่ด้านการตลาดนั้นในปีนี้ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ที่ 300 ล้านบาท จะเน้น 4 ด้านหลักคือ สร้างการรับรู้ให้ลูกค้าโรบินสัน รู้ว่า โรบินสันเป็นห้างที่แตกต่างและทันสมัยและคุ้มค่า 2.การทำซีอาร์เอ็ม 3.การขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และ 4.การทำอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง และการทำซีเอสอาร์ขยายครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ การศึกษา สังคม สิ่งแวดล้อม
นายปรีชา กล่าวต่อถึงผลประกอบการเมื่อปีที่แล้ว 2552 ด้วยว่า แม้ว่าจะเป็นปีที่ต้องเผชิญกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยก็ตาม แต่โรบินสันก็ยังทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดขายรวม 12,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 425 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประมาณ 1,013 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 9.1% เนื่องมาจากปี 2552 ขยายการลงทุนเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง คือ ที่ชลบุรี และขอนแก่น การปรับปรุงสาขาเดิมเข้าสู่รูปแบบใหม่ เพิ่มการทำตลาดรูปแบบอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง ด้วยการขยายการทำโลคอลไลซ์อีเวนต์ และการพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการขยายสินค้าและเพิ่มสินค้าในแผนกโฮมภายใต้แบรนด์ คิวซีเมทด้วย ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 10%
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี จากนี้ไปของโรบินสัน จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วกว่าเดิมที่ผ่านมา โดยกำหนดจะขยายการลงทุนสาขาใหม่เฉลี่ย 3-4 สาขาต่อปี โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ย 300-600 ล้านบาทต่อสาขา จากเดิมเปิดเฉลี่ย 2 สาขาต่อปี เนื่องจากมองว่าธุรกิจห้างสรรพสินค้าในไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนากว่าไทย
โดยโรบินสันเองก็จะมีรูปแบบใหม่ๆ ด้วย เพื่อเป็นการพัฒนาให้เข้ากับทำเลและพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีขนาดกลางและเล็ก ซึ่งขณะนี้โรบินสันมีสาขารวมทั้งสิ้น 13 จังหวัด นั่นหมายความว่า ยังมีโอกาสเปิดได้อีกหลายสาขาในจังหวัดที่ยังไม่มีโรบินสัน
ล่าสุด ได้เปิดตัวโรบินสันรูปแบบใหม่ที่เป็นไลฟ์สไตล์ โดยจะเป็นศูนย์การค้าในตัวด้วย บริหารโดยโรบินสันเอง ที่จังหวัดตรัง เป็นฟอร์แมทที่จะใช้ในการขยายาสาขาในจังหวัดกลางและเล็กต่อไป โดยโรบินสันตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ 10% ทุกปีจากนี้ไป ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าภาวะเศรษฐกิจรวมของประเทศเติบโตเฉลี่ย 3-4%
ทั้งนี้ ในปีนี้วางแผนใช้งบลงทุนรวม 2,400 ล้านบาท ขยายอีก 4 สาขาใหม่ คือ ที่ ตรัง เชียงราย พิษณุโลก และ ที่พระรามเก้า และในปี 2544 จะขยายอีก 4 สาขา แต่ยังไม่เปิดเผยว่าอยู่ที่ใด งบลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนั้นแล้ วในปี 2552 นี้ ยังใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เพื่อทำการรีโนเวทสาขาเดิมอีกด้วย
สำหรับสาขาที่จังหวัดตรังนั้น มีพื้นที่รวม 28,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ห้างโรบินสัน 10,000 ตารางเมตร และที่เหลือเป็นพื้นที่ในส่วนพลาซ่าให้เช่า ซึ่งสาขานี้ลงทุน 650 ล้านบาท
ขณะที่ด้านการตลาดนั้นในปีนี้ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ที่ 300 ล้านบาท จะเน้น 4 ด้านหลักคือ สร้างการรับรู้ให้ลูกค้าโรบินสัน รู้ว่า โรบินสันเป็นห้างที่แตกต่างและทันสมัยและคุ้มค่า 2.การทำซีอาร์เอ็ม 3.การขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และ 4.การทำอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง และการทำซีเอสอาร์ขยายครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ การศึกษา สังคม สิ่งแวดล้อม
นายปรีชา กล่าวต่อถึงผลประกอบการเมื่อปีที่แล้ว 2552 ด้วยว่า แม้ว่าจะเป็นปีที่ต้องเผชิญกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยก็ตาม แต่โรบินสันก็ยังทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดขายรวม 12,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 425 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประมาณ 1,013 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 9.1% เนื่องมาจากปี 2552 ขยายการลงทุนเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง คือ ที่ชลบุรี และขอนแก่น การปรับปรุงสาขาเดิมเข้าสู่รูปแบบใหม่ เพิ่มการทำตลาดรูปแบบอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง ด้วยการขยายการทำโลคอลไลซ์อีเวนต์ และการพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการขยายสินค้าและเพิ่มสินค้าในแผนกโฮมภายใต้แบรนด์ คิวซีเมทด้วย ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 10%
