xs
xsm
sm
md
lg

"ชินคอร์ป-ไทยคม" ปัดไม่เกี่ยวคำพิพากษา "เจิมศักดิ์" ตอกฝาโลงธุรกิจตระกูลชิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร "ชินคอร์ป-ไทยคม" ดาหน้าสยบข่าวเอี่ยวโกงสัมปทานรัฐ ยันคำพิพากษาศาลยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน ไม่กระทบการทำธุรกิจ ยันได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย โดยยึดหลักสุจริต-ธรรมาภิบาล "เจิมศักดิ์" ตอกฝาโลงธุรกิจตระกูลชิน ย้ำความเสียหาย ไทยคม-ไอพีสตาร์ มหาศาลจนประเมินค่าเป็นตัวเลขไม่ได้ เพราะประเทศไทยต้องเสียโอกาส และรายได้จากธุรกิจดาวเทียม ตีแสกหน้า "นช.แม้ว" อ้างไม่ทุจริต แต่ทำไมจึงไม่เปิดประมูลแข่งขัน กลับปล่อยให้มีการลักลอบใช้สิทธิในกิจการดาวเทียมของชาติ ทั้งวงโคจร รวมถึงพื้นที่จอดในอวกาศทั้งหมด

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN/ชินคอร์ป กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 และมีข้อความบางประการที่ปรากฏในสำนวนหรือคำตัดสินของศาลนั้น กล่าวถึงการดำเนินการในอดีต ระหว่างหน่วยงานของรัฐ กับกลุ่มชินคอร์ป ชื่อของบริษัท และบริษัทในเครือนั้น กลุ่มชินคอร์ปขอแจ้งให้ทราบว่า กลุ่มชินคอร์ป และบริษัทในเครือไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาฯ ดังนั้น คำพิพากษาดังกล่าวจึงไม่ได้มีผลต่อกลุ่มชินคอร์ป และบริษัทในเครือ

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชินคอร์ป และบริษัทในเครือได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนดในสัญญาร่วมการงานฯ และยึดถือหลักสุจริตและธรรมภิบาลอย่างเคร่งครัด จึงมั่นใจว่า สามารถชี้แจงถึงที่มา หลักการ และเหตุผล ในเรื่องต่างๆ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

นายอารักษ์ ยังกล่าวในฐานะกรรมการ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM โดยระบุว่า ไทยคม ไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาฯ ดังนั้นคำพิพากษาดังกล่าวจึงไม่ได้มีผลต่อบริษัทฯจากกรณี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ ของ พ.ต.ท .ทักษิณ ชินวัตร ไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 และมีข้อความบางประการที่ปรากฏในสำนวนหรือคำตัดสินของศาลนั้นกล่าวถึงการดำเนินการในอดีต ระหว่างหน่วยงานของรัฐ กับบริษัทฯ และ ชื่อของบริษัทฯ

ด้านนายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC กล่าวถึงกรณีที่มีข้อความบางประการที่ปรากฏในสำนวน หรือคำตัดสินของศาลในคดียึดทรัพย์ โดยยืนยันว่า บริษัทไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาฯ ดังนั้น คำพิพากษาดังกล่าวจึงไม่ได้มีผลต่อบริษัทฯ

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตุว่า หากพิจารณาความเสียหาย ตามที่อัยการสั่งฟ้อง ในประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อดาวเทียมไอพีสตาร์ (iPSTAR) ซึ่งไม่ได้เป็นดาวเทียมสำรองของดาวเทียมไทยคม 3 ตามสัญญา และทำให้รัฐสูญเสียผลประโยชน์ไปประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากการที่ ไทยคม ไม่ดำเนินการสร้างดาวเทียมสำรอง รวมถึงการสร้างดาวเทียม iPSTAR ไม่มีการเปิดประมูลให้ผู้เข้าแข่งขันประกวดราคา ขณะที่การเพิ่มวงเงินกู้ยืม 1 พันล้านบาท ให้กับรัฐบาลพม่า ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแลกกับการอุดหนุนสินค้าของไทยคม ส่งผลให้รัฐมีความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ คงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ชัดเจนว่า ภาครัฐจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับไทยคมหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นการเฉพาะบุคคล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า อาจมีการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เพราะ

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สรรหา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คำตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีเอื้อประโยชน์สัมปทานธุรกิจให้กับกลุ่มชินคอร์ป นอกจากจะเกิดความเสียหายทางตรงแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดินส่วนรวม ทั้งปัญหาความมั่นคงทางการสื่อสารภายในของรัฐ ที่เสียหายไปจากการไม่มีดาวเทียมสำรอง ไทยคม 3 และผลประโยชน์ของแผ่นดินที่สูญเสียไปจากการประกอบกิจการดาวเทียม iPSTAR โดยไม่เปิดประมูลแข่งขันเพื่อนำรายได้เข้าแผ่นดิน แต่กลับปล่อยให้มีการลักลอบใช้สิทธิในกิจการดาวเทียมของชาติ ทั้งวงโคจรหรือพื้นที่จอดดาวเทียมในอวกาศทั้งหมด เกิดความเสียหาย ซึ่งเมื่อคิดรวมแล้ว นับเป็นมูลค่ามหาศาลยิ่งกว่ามูลค่าผลประโยชน์ที่ทักษิณได้ไปจากแผ่นดินไทยเสียอีก

ดังนั้น ผู้ที่คิดว่าผู้บริหารประเทศ โกงบ้างก็ได้ แต่ขอให้ทำงาน น่าจะต้องคิดใหม่ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้พิสูจน์แล้วว่า การโกงไปสร้างความร่ำรวยให้กับผู้บริหารจำนวนหนึ่ง แต่ประเทศชาติโดยรวมเสียหายมากกว่าหลายเท่า

นายเจิมศักด์ ยังกล่าวสรุปว่า การเอื้อประโยชน์แก่ชินคอร์ป ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับผลประโยชน์ไปโดยมิชอบ ส่วนหนึ่งแฝงฝังอยู่ในมูลค่าหุ้น และผลประกอบการของชินคอร์ป และการกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ประชาชน ผู้บริโภค ระบบแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม ตลอดจนกิจการดาวเทียมของชาติไทยอย่างรุนแรงมหาศาล ประเทศชาติได้รับความเสียหาย มากกว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ไปจากการกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น