ซีอาร์จีปรับเกมรุก เปปเปอร์ลันช์ ลดไซส์พื้นที่ปีนี้ เตรียมเปิดสาขาใหม่รวม 5 สาขา จ่อเปิดตัวรูปแบบเอ็กซ์เพรสตามฟู้ดคอร์ท หวังสิ้นปี้เติบโต 50%
นางสาวอรวรรณ โกมลพันธ์พร ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ เปปเปอร์ ลันช์ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมร้านอาหารเชนต่างชาติปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตแค่ 3-5% เนื่องจากปัจจัยลบหลายประการ ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจ คาดว่านีปี้ก็คงอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีคู่แข่งมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มต้นในไทยอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย
ส่วนแบรนด์เปปเปอร์ลันช์นั้น ในปีนี้บริษัทฯได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ หลังจากเปิดบริการในไทยมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นประเภทข้าวเปปเปอร์และเมนูสเต็กจานร้อน และได้รับการตอบรับอย่างดี และถือเป็นช่วงแรกของการสร้างแบรดน์ในไทย ซึ่งจากการวิจัยพบว่าจำนวน 50% รู้จักแบรนด์เปปเปอร์ลันช์และได้เคยเข้ามาทานแล้ว
โดยแผนการเปิดสาขาในปีนี้จะลดขนาดพื้นที่เล็กลงเหลือเฉลี่ยไม่เกิน 150 ตารางเมตร ลงทุนเฉลี่ย 7-8 ล้านบาท จากเดิมที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 200 ตารางเมตร เช่นสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ล่าสุดคือ สาขาที่ 5 ที่ฟอร์จูนทาวน์ พื้นที่ 93 ตารางเมตร ซึ่งปีนี้มีแผนจะเปิดอีก 4 สาขาเช่นที่ สยามสแควร์ และทำเลอื่นในกรุงเทพฯเท่านั้น
ส่วนการตกแต่งร้านใหม่นั้นจะเป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ มีไดน์นิ่งโซนโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบโมเดิร์น เก้าอี้โซฟายาว สำปรับผู้ที่ต้องการทานอาหารแบบกิจจะลักษณะ และลันช์ออนโซน ที่ต้องการความรวดเร็วในการทานอาหาร มีการใช้กระจกบานใหญ่ตกแต่ง และพิมพ์ลายคิทเช่นอีควิปเมนท์ เป็นต้น ส่วนสีใช้โทนโอ๊คเข้มและครีมขาว น้ำตาลอ่อน ตอกย้ำความเป็นญี่ปุ่น
รวมทั้งจะทำการรีโนเวทสาขาเดิมให้เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ด้วย ใช้งบเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งเปิดไปก่อนหน้านี้แล้ว 4 สาขาคือที่ เซ็นทรัลเวิลด์ จามจุรีสแควร์ เอ็มบีเค เซ็นทรัลบางนา
นอกจากนั้นในปีนี้อาจจะเห็นร้านเปปเปอร์ลันช์รูปแบบเอ็กซ์เพรสที่เปิดขายตามศูนย์อาหารทั่วไปและมีพื้นที่เล็กลง ซึ่งมีเปิดแล้วเช่นที่ สิงคโปร์ แต่ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาเพราะมีหลายองค์ประกอบ เช่น จานที่ต้องใช้ต้องเป็นจานร้อนพิเศษกว่าปรกติ
สำหรับงบการตลาดปีนี้จะใช้ประมาณ 3% จากยอดขายรวม ซึ่งล่าสุดคือ แคมเปญ “Buy 300 Get 600” ฉลองเปิดสาขาใหม่ฟอร์จูนทาวน์ โดยเมื่อทานอาหารครบ 300 บาท รับคูปองส่วนลดสูงสุด 600 บาท
ทั้งนี้ผลประกอบการของเปปเปอร์ลันช์ปีที่แล้วโต 3% ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโต 50% หรือมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท จากปีที่แล้วประมาณ 50 ล้านบาท เพราะเปิดสาขามากขึ้น และการออกเมนูใหม่ต่อเนื่องเฉลี่ยทุก 2 เดือน และการทำโปรโมชั่น โดยสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็น คนทำงาน 60% และวัยรุ่น 40% และมีค่าใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 290 บาท
นางสาวอรวรรณ โกมลพันธ์พร ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ เปปเปอร์ ลันช์ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมร้านอาหารเชนต่างชาติปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตแค่ 3-5% เนื่องจากปัจจัยลบหลายประการ ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจ คาดว่านีปี้ก็คงอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีคู่แข่งมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มต้นในไทยอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย
ส่วนแบรนด์เปปเปอร์ลันช์นั้น ในปีนี้บริษัทฯได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ หลังจากเปิดบริการในไทยมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นประเภทข้าวเปปเปอร์และเมนูสเต็กจานร้อน และได้รับการตอบรับอย่างดี และถือเป็นช่วงแรกของการสร้างแบรดน์ในไทย ซึ่งจากการวิจัยพบว่าจำนวน 50% รู้จักแบรนด์เปปเปอร์ลันช์และได้เคยเข้ามาทานแล้ว
โดยแผนการเปิดสาขาในปีนี้จะลดขนาดพื้นที่เล็กลงเหลือเฉลี่ยไม่เกิน 150 ตารางเมตร ลงทุนเฉลี่ย 7-8 ล้านบาท จากเดิมที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 200 ตารางเมตร เช่นสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ล่าสุดคือ สาขาที่ 5 ที่ฟอร์จูนทาวน์ พื้นที่ 93 ตารางเมตร ซึ่งปีนี้มีแผนจะเปิดอีก 4 สาขาเช่นที่ สยามสแควร์ และทำเลอื่นในกรุงเทพฯเท่านั้น
ส่วนการตกแต่งร้านใหม่นั้นจะเป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ มีไดน์นิ่งโซนโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบโมเดิร์น เก้าอี้โซฟายาว สำปรับผู้ที่ต้องการทานอาหารแบบกิจจะลักษณะ และลันช์ออนโซน ที่ต้องการความรวดเร็วในการทานอาหาร มีการใช้กระจกบานใหญ่ตกแต่ง และพิมพ์ลายคิทเช่นอีควิปเมนท์ เป็นต้น ส่วนสีใช้โทนโอ๊คเข้มและครีมขาว น้ำตาลอ่อน ตอกย้ำความเป็นญี่ปุ่น
รวมทั้งจะทำการรีโนเวทสาขาเดิมให้เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ด้วย ใช้งบเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งเปิดไปก่อนหน้านี้แล้ว 4 สาขาคือที่ เซ็นทรัลเวิลด์ จามจุรีสแควร์ เอ็มบีเค เซ็นทรัลบางนา
นอกจากนั้นในปีนี้อาจจะเห็นร้านเปปเปอร์ลันช์รูปแบบเอ็กซ์เพรสที่เปิดขายตามศูนย์อาหารทั่วไปและมีพื้นที่เล็กลง ซึ่งมีเปิดแล้วเช่นที่ สิงคโปร์ แต่ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาเพราะมีหลายองค์ประกอบ เช่น จานที่ต้องใช้ต้องเป็นจานร้อนพิเศษกว่าปรกติ
สำหรับงบการตลาดปีนี้จะใช้ประมาณ 3% จากยอดขายรวม ซึ่งล่าสุดคือ แคมเปญ “Buy 300 Get 600” ฉลองเปิดสาขาใหม่ฟอร์จูนทาวน์ โดยเมื่อทานอาหารครบ 300 บาท รับคูปองส่วนลดสูงสุด 600 บาท
ทั้งนี้ผลประกอบการของเปปเปอร์ลันช์ปีที่แล้วโต 3% ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโต 50% หรือมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท จากปีที่แล้วประมาณ 50 ล้านบาท เพราะเปิดสาขามากขึ้น และการออกเมนูใหม่ต่อเนื่องเฉลี่ยทุก 2 เดือน และการทำโปรโมชั่น โดยสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็น คนทำงาน 60% และวัยรุ่น 40% และมีค่าใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 290 บาท