สทท.ผนึก สสว. เตรียมยกพลเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตะลอนโรดโชว์ต่างประเทศครั้งแรก อ้างเสริมแกร่งให้แก่ผู้ประกบอการรายเล็กที่ด้อยโอกาส ได้ไปศึกษาวิธีการทำตลาดในต่างประเทศ นำร่อง 2 ประเทศแรก สิงคโปร์-ออสเตรเลีย ด้วยงบ 10 ล้านบาท กะโกยรายได้ 10 เท่า แตะที่ 100 ล้านบาท เผยไม่ล้ำเส้นททท. เพราะจูงมือไปแต่รายเล็กเท่านั้น
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) จัดโครงการ" เอสเอ็มอี คาพาซิตี้ บิวดิ้ง : วิน ฟอร์ อาเซียน มาร์เก็ต" เพื่อนำผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เดินทางไปประเทศออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 21-28 ก.พ.53 เพื่อไปเรียนรู้แนวทางการทำตลาดในรูปแบบของโรดโชว์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก คาดว่าจะใช้งบประมาณในโครงการนี้ 9-10 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ด้านการทำตลาดให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มเอสเอ็มอี ให้มีความพร้อมที่จะรับมือกับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ที่เริ่มทยอยเปิดขึ้นแล้วในปีนี้ โดยครั้งนี้ สททท.จะนำผู้ประกอบการร่วมเดินทางไปทั้งสิ้น 50 ราย ครอบคลุมจากทั่วประเทศ เน้นภาคใต้มากที่สุด โดยทั้งหมดแบ่ง 70% เป็นกลุ่มธุรกิจที่พัก อีก 15% เป็นกลุ่มบริษัทนำเที่ยว ส่วนที่เหลืออีก 15% เป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น สปา สวนสนุก ร้านอาหาร เป็นต้น
"ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยยังขาดประสบการด้านการทำตลาดแบบเสรี และการทำตลาดในต่างประเทศ ประกอบกับคนกลุ่มนี้จะมีเงินทุนน้อย จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศกับหน่วยงานอื่นๆ เราจึงจัดงานนี้ให้เดินทางไปในราคาที่จ่ายได้ ถือเป็นโอกาสให้เขาได้เรียนรู้และนำสินค้าและบริการไปเปิดตลาดด้วยตนเองอย่างจริงจัง"
อย่างไรก็ตาม ที่เลือกเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย เพราะเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มอาเซียน+6 ที่รัฐบาลไทยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไปทำการค้าด้วยโดยการเปิดเสรีเอฟทีเอ ส่วนสิงคโปร์ ที่เลือกเพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในอาเซียน ประกอบกับช่วงเวลาที่จะเดินทางไป มีการจัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว นาตัส ทราเวล 2010 อยู่ด้วย จึงต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ไปเห็นภาพของการซื้อขายเพื่อศึกษาดูงานไปด้วย ซึ่งสทท.คาดหวังว่าผลจากการเดินทางใน 2 ประเทศครั้งนี้ คาดว่ากลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ร่วมเดินทางไปจะมีรายได้จากการจัดเทรดมิตติ้ง ที่ออสเตรเลีย และ งานนาตัส รวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นางกงกฤช กล่าวทิ้งท้ายว่า การเดินสายของ สทท.ที่จัดขึ้นครั้งนี้ จะต่างจากงานส่งเสริมการขายในต่างประเทศ ที่ ททท.เดินทางไปร่วมงาน เพราะ งานของ ททท.จะเน้นรายได้จากการร่วมงาน และผู้ประกอบการที่ร่วมเดินทางไปส่วนมากจะเป็นรายใหญ่ เน้นธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก ส่วนงานของสทท. จะกระจายให้ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวทุกเซ็กเม้นต์ ทุกภูมิภาค จุดประสงค์หลักเพื่อเข้าใจวิธีการทำตลาดในต่างประเทศ
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) จัดโครงการ" เอสเอ็มอี คาพาซิตี้ บิวดิ้ง : วิน ฟอร์ อาเซียน มาร์เก็ต" เพื่อนำผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เดินทางไปประเทศออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 21-28 ก.พ.53 เพื่อไปเรียนรู้แนวทางการทำตลาดในรูปแบบของโรดโชว์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก คาดว่าจะใช้งบประมาณในโครงการนี้ 9-10 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ด้านการทำตลาดให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มเอสเอ็มอี ให้มีความพร้อมที่จะรับมือกับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ที่เริ่มทยอยเปิดขึ้นแล้วในปีนี้ โดยครั้งนี้ สททท.จะนำผู้ประกอบการร่วมเดินทางไปทั้งสิ้น 50 ราย ครอบคลุมจากทั่วประเทศ เน้นภาคใต้มากที่สุด โดยทั้งหมดแบ่ง 70% เป็นกลุ่มธุรกิจที่พัก อีก 15% เป็นกลุ่มบริษัทนำเที่ยว ส่วนที่เหลืออีก 15% เป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น สปา สวนสนุก ร้านอาหาร เป็นต้น
"ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยยังขาดประสบการด้านการทำตลาดแบบเสรี และการทำตลาดในต่างประเทศ ประกอบกับคนกลุ่มนี้จะมีเงินทุนน้อย จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศกับหน่วยงานอื่นๆ เราจึงจัดงานนี้ให้เดินทางไปในราคาที่จ่ายได้ ถือเป็นโอกาสให้เขาได้เรียนรู้และนำสินค้าและบริการไปเปิดตลาดด้วยตนเองอย่างจริงจัง"
อย่างไรก็ตาม ที่เลือกเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย เพราะเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มอาเซียน+6 ที่รัฐบาลไทยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไปทำการค้าด้วยโดยการเปิดเสรีเอฟทีเอ ส่วนสิงคโปร์ ที่เลือกเพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในอาเซียน ประกอบกับช่วงเวลาที่จะเดินทางไป มีการจัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว นาตัส ทราเวล 2010 อยู่ด้วย จึงต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ไปเห็นภาพของการซื้อขายเพื่อศึกษาดูงานไปด้วย ซึ่งสทท.คาดหวังว่าผลจากการเดินทางใน 2 ประเทศครั้งนี้ คาดว่ากลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ร่วมเดินทางไปจะมีรายได้จากการจัดเทรดมิตติ้ง ที่ออสเตรเลีย และ งานนาตัส รวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นางกงกฤช กล่าวทิ้งท้ายว่า การเดินสายของ สทท.ที่จัดขึ้นครั้งนี้ จะต่างจากงานส่งเสริมการขายในต่างประเทศ ที่ ททท.เดินทางไปร่วมงาน เพราะ งานของ ททท.จะเน้นรายได้จากการร่วมงาน และผู้ประกอบการที่ร่วมเดินทางไปส่วนมากจะเป็นรายใหญ่ เน้นธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก ส่วนงานของสทท. จะกระจายให้ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวทุกเซ็กเม้นต์ ทุกภูมิภาค จุดประสงค์หลักเพื่อเข้าใจวิธีการทำตลาดในต่างประเทศ