ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเฮ อานิสงส์เซ็นทรัลลาดพร้าวปิด เชื่อคนแห่มาใช้บริการในศูนย์สูงขึ้น เดินหน้าปล่อยหมัดเด็ด ลุย “Alive Hall” จับงานอีเวนต์กว่า 300 งาน พร้อมปรับราคาค่าเช่าพื้นที่เพิ่มอีก 7-10% เบรกแผนลงลุยพัฒนาพื้นที่อีก 300 ไร่ มั่นใจสิ้นปีรายได้ขยับโตอีก 8% จาก 1,530 ล้านบาท
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เปิดเผยว่า จากแผนการดำเนินงาน ที่ทางเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีกำหนดปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน นับจากเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้นั้น ได้ส่งผลดีต่อทางศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อย่างมาก ทั้งในแง่ของจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ จากเดิมที่จะมีกลุ่มลูกค้าที่ทับซ้อนในการเข้ามาใช้บริการทั้ง 2 ศูนย์การค้านี้อยู่ประมาณ 30-40% คาดว่าจะเดินทางมาใช้บริการในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้จากการที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลานาน ได้ส่งผลต่อเจ้าของสินค้าหลายๆราย ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อต้องการเปิดพื้นขายภายในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตอีกส่วนหนึ่งด้วย แต่ทางศูนย์ฯ สามารถรองรับจำนวนเจ้าของสินค้ากลุ่มนี้ได้เพียง 1,000 ตารางเมตรเท่านั้น คิดเป็น 2% จากพื้นที่ที่ยังเหลืออยู่ของพื้นที่เช่าภายในศูนย์ฯทั้งหมดกว่า 200,0000 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่ส่วนกลางในการจัดอีเวนต์เล็กๆ ซึ่งมีเจ้าของสินค้าหลายรายติดต่อเข้ามา
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานของทางศูนย์ฯในปีนี้ หลังจากที่ได้มีการรีโนเวตพื้นที่จัดกิจกรรมขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าของศูนย์ฯกับงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท จัดทำ Alive Hall ฮอลล์ติดแอร์ที่มีเนื้อที่กว่า 1,100 ตารางเมตร จะเป็นเครื่องมือสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ทางศูนย์ จะนำมาเป็นตัวดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์ฯมากยิ่งขึ้น
กับแผนการดำเนินงานในการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่กว่า 300 งานในปีนี้ รวมไปถึงงานต่างๆที่เคยจัดในเซ็นทรัล ลาดพร้าวก็ได้มีการติดต่อที่จะมาจัดในAlive Hall ที่ด้วย
สำหรับแผนการดำเนินงานด้านการตลาด ปีนี้เตรียมเงินกว่า 300 ล้านบาท จัดกิจกรรมทางการตลาดเต็มที่ ขณะที่ในส่วนของแผนการรีโนเวตพื้นที่ต่างๆภายในศูนย์นั้น ขณะนี้เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงพื้นที่ภายในฝั่งเซ็นทรัลเท่านั้นที่จะเริ่มรีโนเวตตั้งแต่ไตรมาสสองนี้เป็นต้นไป ส่วนพื้นที่เช่านั้น ปีนี้มีการปรับราคาค่าเช่าอีก 7-10%
ซึ่งถือเป็นการปรับราคาขึ้นเป็นปกติทุกปี
ส่วนแผนการพัฒนาพื้นที่ว่างอีกกว่า 300 ไร่นั้น จากเดิมที่มีการพูดคุยกับทางศูนย์เฟอร์นิเจอร์ อิเกีย ซึ่งได้ตัดสินใจไปลงทุนที่บางนาแล้วนั้น ขณะนี้ก็ยังคงมีแผนพูดคุยกันอยู่ เพราะตามแผนของอิเกียต้องการขยายสาขาในเขตมุมเมืองประมาณ 2-3 สาขา ซึ่งหากทางบางนาก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการกลับมาพูดคุยกันใหม่ แต่เวลานี้ ยอมรับว่ายังไม่มีแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเพราะปัจจุบันถือว่า รีเทลที่มาอยู่ในพื้นที่ของทางศูนย์ฯค่อนข้างครบหมดแล้ว ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 14 แบรนด์ เช่น เซ็นทรัล โรบินสัน บิ๊กซี เป็นต้น
นางสาวพิมพ์ผกา กล่าวต่อว่า จากแผนการดำเนินที่วางไว้ในปีนี้ เชื่อว่าสิ้นปีทางศูนย์ฯจะมีผลประกอบการเติบโตขึ้นอีก 8% จาก 1,530 ล้านบาท ที่ทำได้ในปี 2552 ที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตจากปี 2551 ถึง 7% ส่วนจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 150,000 คนต่อวัน จาก 140,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นราว 7% ส่วนสำคัญมาจากการเติบโตของหมู่บ้านจัดสรร ที่ส่งผลให้มีกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบีถึงเอ ที่มีฐานรายได้ที่ 50,000 บาท ต่อครัวเรือน โดยสัดส่วนลูกค้าในกลุ่มนี้เพิ่มเป็น 58% จากเดิมในปีก่อนอยู่ที่ 45% โดยรองลงมาเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา 20% ที่เหลือเป็นกลุ่มคนทำงาน ขณะที่ยอดการใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในปีนี้จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯจะเพิ่มขึ้นอีกราว 5-10% ด้วย
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เปิดเผยว่า จากแผนการดำเนินงาน ที่ทางเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีกำหนดปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน นับจากเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้นั้น ได้ส่งผลดีต่อทางศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อย่างมาก ทั้งในแง่ของจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ จากเดิมที่จะมีกลุ่มลูกค้าที่ทับซ้อนในการเข้ามาใช้บริการทั้ง 2 ศูนย์การค้านี้อยู่ประมาณ 30-40% คาดว่าจะเดินทางมาใช้บริการในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้จากการที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลานาน ได้ส่งผลต่อเจ้าของสินค้าหลายๆราย ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อต้องการเปิดพื้นขายภายในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตอีกส่วนหนึ่งด้วย แต่ทางศูนย์ฯ สามารถรองรับจำนวนเจ้าของสินค้ากลุ่มนี้ได้เพียง 1,000 ตารางเมตรเท่านั้น คิดเป็น 2% จากพื้นที่ที่ยังเหลืออยู่ของพื้นที่เช่าภายในศูนย์ฯทั้งหมดกว่า 200,0000 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่ส่วนกลางในการจัดอีเวนต์เล็กๆ ซึ่งมีเจ้าของสินค้าหลายรายติดต่อเข้ามา
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานของทางศูนย์ฯในปีนี้ หลังจากที่ได้มีการรีโนเวตพื้นที่จัดกิจกรรมขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าของศูนย์ฯกับงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท จัดทำ Alive Hall ฮอลล์ติดแอร์ที่มีเนื้อที่กว่า 1,100 ตารางเมตร จะเป็นเครื่องมือสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ทางศูนย์ จะนำมาเป็นตัวดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์ฯมากยิ่งขึ้น
กับแผนการดำเนินงานในการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่กว่า 300 งานในปีนี้ รวมไปถึงงานต่างๆที่เคยจัดในเซ็นทรัล ลาดพร้าวก็ได้มีการติดต่อที่จะมาจัดในAlive Hall ที่ด้วย
สำหรับแผนการดำเนินงานด้านการตลาด ปีนี้เตรียมเงินกว่า 300 ล้านบาท จัดกิจกรรมทางการตลาดเต็มที่ ขณะที่ในส่วนของแผนการรีโนเวตพื้นที่ต่างๆภายในศูนย์นั้น ขณะนี้เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงพื้นที่ภายในฝั่งเซ็นทรัลเท่านั้นที่จะเริ่มรีโนเวตตั้งแต่ไตรมาสสองนี้เป็นต้นไป ส่วนพื้นที่เช่านั้น ปีนี้มีการปรับราคาค่าเช่าอีก 7-10%
ซึ่งถือเป็นการปรับราคาขึ้นเป็นปกติทุกปี
ส่วนแผนการพัฒนาพื้นที่ว่างอีกกว่า 300 ไร่นั้น จากเดิมที่มีการพูดคุยกับทางศูนย์เฟอร์นิเจอร์ อิเกีย ซึ่งได้ตัดสินใจไปลงทุนที่บางนาแล้วนั้น ขณะนี้ก็ยังคงมีแผนพูดคุยกันอยู่ เพราะตามแผนของอิเกียต้องการขยายสาขาในเขตมุมเมืองประมาณ 2-3 สาขา ซึ่งหากทางบางนาก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการกลับมาพูดคุยกันใหม่ แต่เวลานี้ ยอมรับว่ายังไม่มีแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเพราะปัจจุบันถือว่า รีเทลที่มาอยู่ในพื้นที่ของทางศูนย์ฯค่อนข้างครบหมดแล้ว ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 14 แบรนด์ เช่น เซ็นทรัล โรบินสัน บิ๊กซี เป็นต้น
นางสาวพิมพ์ผกา กล่าวต่อว่า จากแผนการดำเนินที่วางไว้ในปีนี้ เชื่อว่าสิ้นปีทางศูนย์ฯจะมีผลประกอบการเติบโตขึ้นอีก 8% จาก 1,530 ล้านบาท ที่ทำได้ในปี 2552 ที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตจากปี 2551 ถึง 7% ส่วนจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 150,000 คนต่อวัน จาก 140,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นราว 7% ส่วนสำคัญมาจากการเติบโตของหมู่บ้านจัดสรร ที่ส่งผลให้มีกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบีถึงเอ ที่มีฐานรายได้ที่ 50,000 บาท ต่อครัวเรือน โดยสัดส่วนลูกค้าในกลุ่มนี้เพิ่มเป็น 58% จากเดิมในปีก่อนอยู่ที่ 45% โดยรองลงมาเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา 20% ที่เหลือเป็นกลุ่มคนทำงาน ขณะที่ยอดการใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในปีนี้จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯจะเพิ่มขึ้นอีกราว 5-10% ด้วย