อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ฯ ลุ้นต่อสัญญาผลิตรายการข่าวให้ช่อง11 อีกครั้ง หลังมี.ค.ที่จะถึงนี้ครบวาระ เผยซุ่มแผนสำรอง เตรียมลุยทีวีดาวเทียม เปิดตัวสถานีข่าว 24ชม.ก่อนกลางปีนี้แน่นอน
นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ กรรมการบริหาร บริษัท อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือไอเอ็นซี ผู้รับสัมปทานผลิตรายการข่าวให้กับช่อง 11 เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้ทำสัญญาตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมผลิตรายการข่าวให้กับทางช่อง 11 ซึ่งประกอบไปด้วย ข่าวภาคเช้า, ข่าวภาคเที่ยง, ข่าวภาคค่ำ และข่าวภาคดึก โดยสัญญาสัมปทานที่ได้มาครั้งนั้น มีระยะเวลา 1 ปีและทางบริษัทต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับทางช่อง11 ราว 37 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านบาท
แต่อ่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า จากนโยบายของทางช่อง11 ที่ไม่ใช่สถานีโทรทัศน์เพื่อการพาณิชย์ การหารายได้จากโฆษณาจึงทำได้ยาก อีกทั้งเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงต้นปี 2552 อีกด้วยแล้ว ในครึ่งปีแรกยอมรับว่าการทำงานแทบจะไม่มีกำไรจากโฆษณาเข้ามาเลย แต่เริ่มกลับมาดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นเมื่อรวมทั้งปีแล้ว รายได้จากสัมปทานการผลิตข่าวครั้งนี้ จึงมีกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน 5% ของค่าตอบแทนที่จ่ายให้ช่อง11
อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯกำลังจะหมดสัญญาร่วมผลิตข่าวให้ทางช่อง11 ภายในสิ้นเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางบริษัทฯเองคาดหวังว่าจะได้ต่อสัญญาร่วมผลิตข่าวต่อไปอีก 1 ปี ตามสัญญาฉบับใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของทางกรมประชาสัมพันธ์ ที่เป็นต้นสังกัดของช่อง11 ด้วยว่า จะมีนโยบายให้ช่อง11 ออกมาเป็นเช่นไร
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ฯ ถือเป็นทีมข่าวขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้สังกัดกับสถานีโทรทัศน์ช่องใดช่องหนึ่ง ซึ่งจากทีมงานมืออาชีพ ที่เคยร่วมกันมาตั้งแต่สมัยไอทีวี รวมกว่า 120 คน ปัจจุบันสามารถนำคอนเท้นท์ข่าวมาออกอากาศเป็นสถานีข่าวได้เลย ดังนั้นหากบริษัทฯไม่ได้ต่อสัญญาร่วมผลิตข่าวกับช่อง11 ยอมรับว่า บริษัทฯเองก็จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจึงต้องมีแผนสำรองเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ทีมงานทั้งหมดอยู่ได้ต่อไป
ทั้งนี้โดยส่วนตัว กำลังมีแผนที่จะทำทีวีดาวเทียม เปิดตัวช่องสถานีข่าว 24 ชม.ขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแหล่งทุน หรือรูปแบบของสถานี เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการวางแผน แต่คาดว่าภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ น่าจะมีความคืบหน้าเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการทำทีวีดาวเทียมครั้งนี้ จะเป็นการจดทะเบียนบริษัทขึ้นมาใหม่เพื่อมาดูแลโดยเฉพาะ คาดว่าน่าจะได้เห็นสถานีข่าวช่องนี้ได้ไม่เกินกลางปีนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นายฉัตรชัย ยังดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการบริหาร ของสำนักข่าว ไอ-นิวส์ ด้วย ซึ่งสำนักข่าวนี้ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับอินดิเพนเด้นท์ นิวส์ฯเมื่อมี.ค.ปีที่ผ่านมา ทำหน้าที่เป็นสำนักข่าวด้านนิวมีเดียโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาก็ได้ร่วมกับทางเจ้าของโครงข่ายสัญญาณมือถือให้บริการข่าวบนมือถือไปบ้างแล้ว ซึ่งรายได้ที่กลับมายังถือว่าน้อยมาก
ล่าสุดในนามของ สำนักข่าว ไอ-นิวส์ ยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท ร่วมมือร่วมใจ จำกัด และทางบริษัท เอ-พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในการร่วมกันทำสถานีโทรทัศน์เพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ “CSR TV ร่วมมือร่วมใจ” ออกอากาศในระบบทีวีดามเทียม เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมาด้วย
นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ กรรมการบริหาร บริษัท อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือไอเอ็นซี ผู้รับสัมปทานผลิตรายการข่าวให้กับช่อง 11 เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้ทำสัญญาตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมผลิตรายการข่าวให้กับทางช่อง 11 ซึ่งประกอบไปด้วย ข่าวภาคเช้า, ข่าวภาคเที่ยง, ข่าวภาคค่ำ และข่าวภาคดึก โดยสัญญาสัมปทานที่ได้มาครั้งนั้น มีระยะเวลา 1 ปีและทางบริษัทต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับทางช่อง11 ราว 37 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านบาท
แต่อ่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า จากนโยบายของทางช่อง11 ที่ไม่ใช่สถานีโทรทัศน์เพื่อการพาณิชย์ การหารายได้จากโฆษณาจึงทำได้ยาก อีกทั้งเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงต้นปี 2552 อีกด้วยแล้ว ในครึ่งปีแรกยอมรับว่าการทำงานแทบจะไม่มีกำไรจากโฆษณาเข้ามาเลย แต่เริ่มกลับมาดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นเมื่อรวมทั้งปีแล้ว รายได้จากสัมปทานการผลิตข่าวครั้งนี้ จึงมีกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน 5% ของค่าตอบแทนที่จ่ายให้ช่อง11
อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯกำลังจะหมดสัญญาร่วมผลิตข่าวให้ทางช่อง11 ภายในสิ้นเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางบริษัทฯเองคาดหวังว่าจะได้ต่อสัญญาร่วมผลิตข่าวต่อไปอีก 1 ปี ตามสัญญาฉบับใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของทางกรมประชาสัมพันธ์ ที่เป็นต้นสังกัดของช่อง11 ด้วยว่า จะมีนโยบายให้ช่อง11 ออกมาเป็นเช่นไร
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ฯ ถือเป็นทีมข่าวขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้สังกัดกับสถานีโทรทัศน์ช่องใดช่องหนึ่ง ซึ่งจากทีมงานมืออาชีพ ที่เคยร่วมกันมาตั้งแต่สมัยไอทีวี รวมกว่า 120 คน ปัจจุบันสามารถนำคอนเท้นท์ข่าวมาออกอากาศเป็นสถานีข่าวได้เลย ดังนั้นหากบริษัทฯไม่ได้ต่อสัญญาร่วมผลิตข่าวกับช่อง11 ยอมรับว่า บริษัทฯเองก็จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจึงต้องมีแผนสำรองเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ทีมงานทั้งหมดอยู่ได้ต่อไป
ทั้งนี้โดยส่วนตัว กำลังมีแผนที่จะทำทีวีดาวเทียม เปิดตัวช่องสถานีข่าว 24 ชม.ขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแหล่งทุน หรือรูปแบบของสถานี เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการวางแผน แต่คาดว่าภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ น่าจะมีความคืบหน้าเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการทำทีวีดาวเทียมครั้งนี้ จะเป็นการจดทะเบียนบริษัทขึ้นมาใหม่เพื่อมาดูแลโดยเฉพาะ คาดว่าน่าจะได้เห็นสถานีข่าวช่องนี้ได้ไม่เกินกลางปีนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นายฉัตรชัย ยังดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการบริหาร ของสำนักข่าว ไอ-นิวส์ ด้วย ซึ่งสำนักข่าวนี้ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับอินดิเพนเด้นท์ นิวส์ฯเมื่อมี.ค.ปีที่ผ่านมา ทำหน้าที่เป็นสำนักข่าวด้านนิวมีเดียโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาก็ได้ร่วมกับทางเจ้าของโครงข่ายสัญญาณมือถือให้บริการข่าวบนมือถือไปบ้างแล้ว ซึ่งรายได้ที่กลับมายังถือว่าน้อยมาก
ล่าสุดในนามของ สำนักข่าว ไอ-นิวส์ ยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท ร่วมมือร่วมใจ จำกัด และทางบริษัท เอ-พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในการร่วมกันทำสถานีโทรทัศน์เพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ “CSR TV ร่วมมือร่วมใจ” ออกอากาศในระบบทีวีดามเทียม เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมาด้วย