xs
xsm
sm
md
lg

ไฮเนเก้นปรับเกมรับอาฟต้า จ่อใช้ฐานผลิต ตปท.สู้ศึกราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไฮเนเก้น ชี้ตลาดเบียร์แสนล้านบาทปีขาลฟื้น เบียร์ต่างประเทศเฮโลทดลองตลาดรับอาฟต้าภาษีเบียร์ 0% ชูการตลาดยึดไลฟ์สไตล์คอฟองเบียร์ ควักโซเชียล เน็ตเวิร์กกิ้ง อัดกิจกรรมบนเว็บไซต์ i-greenspace หวังสร้างเครือข่ายสังคมบนโลกออนไลน์ สร้างฐานคนรุ่นใหม่ จ่อใช้ฐานผลิตโรงงานต่างประเทศ ป้องบัลลังก์แบรนด์อินเตอร์ตบเท้าทำตลาด

นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเชียร์ เปิดเผยว่า ปีนี้ทิศทางตลาดเบียร์ 1 แสนล้านบาท มีแนวโน้มการขยายตัวหรือเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศไทยเริ่มดีขื้น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเมืองภายในประเทศ ที่ไม่มีความแน่นอน

นอกจากนี้ตลาดเบียร์ยังได้รับอานิสงส์จากการเปิดเขตเสรีการค้าอาเซียน หรืออาฟต้า ซึ่งมีผลทำให้ภาษีนำเข้าเหลือ 0% เบียร์นำเข้าจึงเข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้น ทั้งเบียร์ระดับอินเตอร์แบรนด์ และประเทศเพื่อนบ้าน และเข้ามาทำตลาดในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น อีโคโนมี ซึ่งจะมีเบียร์ราคาถูกมากๆ เข้ามาทำตลาด ระดับสแตนดาร์ด และพรีเมียม เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดเบียร์ติดลบ เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ความวุ่นวายการเมืองไทย

“ภายในปีนี้จะมีเบียร์นำเข้ามาทำตลาดเพื่อทดลองตลาดในไทยอย่างแน่นอน แต่เชื่อว่าขณะนี้แต่ละแบรนด์คงรอดูการปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีเบียร์สูตรใหม่ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ทำให้แต่ละแบรนด์ยังไม่ได้มีการตัดสินใจแต่อย่างใด จากปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีตามมูลค่า ณ โรงงาน และตามเซกเมนต์ของเบียร์ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงการทำตลาดในระยะยาวแล้ว เบียร์ไทยไม่สามารถแข่งขันกับเบียร์ต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็น ราคา การพัฒนาต้นทุน เทคโนโลยีการผลิต ระบบการกระจายสินค้า ฯลฯ”

นโยบายปีนี้บริษัทให้ความสำคัญเบียร์ 3 แบรนด์ ไฮเนเก้น ไทเกอร์ เชียร์ โดยขับเคลื่อนไปพร้อมๆกัน ภายใต้แนวทางการตลาดโดยยึดตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ทั้งการทำมิวสิก มาร์เก็ตติง สปอร์ต มาร์เก็ตติง และโดยเฉพาะการทำโซเชียล เน็ตเวิร์ก มาร์เก็ตติง หรือการสร้างเครือข่ายสังคมบนโลกออนไลน์ รองรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ของเบียร์ไฮเนเก้น ซึ่งไฮเนเก้นได้เปิดเว็บไซต์ www.i-greenspace.com มากว่า 3 ปี โดยบนเว็บไซต์มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ การพบปะกันในชีวิตจริงที่ปาร์ตี้ และสถานที่สังสรรค์ของกรีนสเปซ และช่วยสมาชิกสามารถติดต่อกันได้ทั้งออนไลน์ผ่านเครือข่ายทางสังคม

ขณะที่เว็บไซต์ www.heinekenthai.com ปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนการสื่อสารในด้านของแบรนด์ให้ลดลง เนื่องจากมีข้อจำกัดของพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยกลุ่มเป้าหมายสามารถดูเว็บไซต์ของบริษัทแม่ได้ รวมทั้งภายใต้ประเทศอื่นๆ ด้วย สำหรับแนวทางรองรับเบียร์นำเข้าระดับอินเตอร์แบรนด์มาทำตลาดในไทย ภายใต้ความได้เปรียบภาษีนำเข้าลดลง 0%

บริษัทวางแผนใช้ฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ เป็นฐานสำคัญ ทั้งนี้เพื่อป้องกันตำแหน่งผู้นำตลาดเบียร์เซกเมนต์พรีเมียมของไฮเนเก้น ซึ่งครองส่วนแบ่ง 95% จากตลาด 7,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งพบว่า เบียร์คาร์ลสเบิร์ก สามารถใช้ความได้เปรียบด้านภาษีนำเข้า 0% จากการมีฐานผลิตในประเทศมาเลเซีย

นายปริญ กล่าวถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยว่า การตัดสินใจซื้อเบียร์มาดื่ม คำนึงถึงราคาเป็นหลัก ดังนั้นเชื่อว่าเซกเมนต์ไลท์เบียร์หรือเบียร์ที่มีปริมาณดีกรีต่ำ ไม่เหมาะกับพฤติกรรมคนไทยมากนัก ทำให้บริษัทไม่มีแผนทำตลาดไลท์เบียร์เช่นเดียวกับค่ายอื่นๆ ส่วนการนำแพกเกจจิ้งใหม่ รองรับกับราคาเบียร์ที่ปรับขึ้นจากภาษีเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2552 นั้น ยังไม่มีแผน สำหรับในปีที่ผ่านมา ไฮเนเก้นมีส่วนแบ่ง 4% จากตลาดเบียร์โดยรวม 1 แสนล้านบาท และตั้งเป้าปีนี้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น