"พลังงาน" กระทุ้ง ปตท.เตรียมรับมือก๊าซหุงต้มขาดแคลน หลังโรงแยกก๊าซหน่วย 6 หยุดชะงัก เตรียมเปลี่ยนสีน้ำมัน 1 ก.พ.นี้
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนก๊าซหุงต้ม (LPG) ภายในประเทศ โดยระบุว่า ตนเองได้มอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนก๊าซ LPG ในประเทศ โดยสามารถนำคลังลอยน้ำมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการนำเข้า เนื่องจากในเดือนมกราคม 2553 นี้ คาดว่าจะมีความต้องการใช้ LPG ประมาณ 400,000 ตันต่อวัน ขณะที่กำลังการผลิตในประเทศมีเพียง 350,000 ตัน เนื่องจากผลกระทบจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ที่กำลังการผลิต LPG เดือนละประมาณ 1 แสนตัน จากเดิมมีแผนจะเริ่มเดินเครื่องในต้นปี 2553 แต่ไม่สามารถดำเนินการได้จากผลของคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ คาดว่า ผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จะต้องนำเข้าก๊าซ LPG จำนวน 130,000 ตัน และเดือนมีนาคม 2553 จำนวน 150,000 ตัน เพราะโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 2 และ 3 ต้องปิดซ่อมบำรุงตามแผนประจำปี และหากในเดือนพฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ยังไม่สามารถเปิดเดินเครื่องได้ ก็คาดว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป ไทยต้องนำเข้าก๊าซ LPG เดือนประมาณ 130,000 ตัน ไปจนถึงสิ้นปีนี้
สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปีนี้ จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ 113.7 ล้านลิตรต่อวัน โดยอาจบวกลบไม่เกิน 5% จากปีก่อน สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันในปีก่อน แบ่งเป็น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 12.2 ล้านลิตร น้ำมันเบนซิน 20.6 ล้านลิตร น้ำมันดีเซล 50.57 ล้านลิตร และก๊าซหุงต้ม (LPG) จำนวน 12.39 ล้านกิโลกรัมต่อวัน คิดเป็นปริมาณการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงรวม 48,998 ล้านลิตร โดยมีมูลค่าการนำเข้า 653,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนปริมาณการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2552 อยู่ที่ 13,811 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 198,088 ล้านบาท
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 จะมีการปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันสำเร็จรูปใหม่ โดยน้ำมันเบนซิน 91 จากสีแดงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน น้ำมันเบนซิน 95 จากสีเหลืองอ่อนเป็นสีน้ำมันเงิน ส่วนน้ำมันไบโอดีเซล B5 เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นแดง เพื่อป้องกันการปลอมปนน้ำมันและการเอาเปรียบผู้บริโภค
