ตลาดนิตยสารปรับตัวรับสภาพเศรษฐกิจ “มีเดีย ทรานส์เอเชีย” งัด 360 องศา มาร์เก็ตติ้งดูดโฆษณา โฟกัสดิจิตอลมีเดียเสริมทัพ บุกนิตยสารสำหรับผู้ชายเต็มสูบ คว้า “Men’s Health” ลงแผง กร้าวปี53 ขึ้นแท่นนัมเบอร์วัน พร้อมกวาดรายได้เติบโตขึ้นอีก 15% หลังปิดบัญชีรับทรัพย์ในปีนี้ด้วยยอดโตจากปีก่อน 12%
นางเรซินา อูเบรอย รองผู้อำนวยการ บริษัท มีเดีย ทรานส์เอเชีย ไทยแลนด์ จำกัด ผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์ของนิตยสารชั้นนำ เช่น Seventeen และ OK! เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดนิตยสารในปี 2553 มองว่า ช่วงไตรมาสหนึ่งมีสัญญาณบวกที่ดีมาก เพราะในแง่การใช้เงินโฆษณาของลูกค้าค่อนข้างดี โดยทั้งปีมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดูได้จากตลาดโลกจากสหรัฐอเมริกา ตลาดนิตยสารกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังซบเซามา 2 ปี ส่วนไทยเองพบว่า ตลาดหุ้นเริ่มดีขึ้น แต่ลูกค้ายังกังวลและระมัดระวังในการใช้เงินอยู่ แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับบริษัทมากนัก เพราะโฆษณาส่วนใหญ่จะเป็นระดับเวิลด์ไวด์ และมาจากอเมริกา
อย่างไรก็ตาม การทำตลาดในปีนี้และในปีหน้า ทางบริษัทจะเน้นเรื่องของการใช้กลยุทธ์แบบ 360 องศา มาร์เก็ตติ้ง มีการทำงานร่วมกับลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ขายโฆษณาลงบนหน้ากระดาษ แต่ต้องต่อยอดไปยังการใช้สื่ออื่นๆ และต้องช่วยให้ยอดขายของลูกค้ากระเตื้องขึ้นด้วย ในขณะที่งบการใช้เงินของลูกค้ายังใช้เท่าเดิม อีกทั้งจะเน้นการทำงานโดยมุ่งหาพันธมิตรเข้ามาร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น ภายใต้โมเดลแบบ 1+1=3 คือการร่วมมือกันแล้วได้ผลตอบแทนมากกว่าที่เคยเป็น
ส่งผลให้ในปีหน้าบริษัทจะโฟกัสการทำตลาดในรูปแบบดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะเว็บไซต์ ซึ่งปัจจุบันนิตยสารในกลุ่มที่มีการเปิดตัวลงบนเว็บไซต์ ได้แก่ Seventeen,OK! และTravel+ Leisure (South east Asia) จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญปีหน้าจะมีสื่อโมบาย เข้ามาเพิ่มอีกตัว โดยจะเริ่มกับนิตยสาร Seventeen ก่อน กับรูปแบบโมเดล ไม่ว่าจะเป็นการนำคอนเท้นท์ไปลงในมือถือ, การทำเป็นเอสเอ็มเอสคูปอง และการเล่มเกม เชื่อว่าปีหน้าการใช้กลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง จะสร้างสัดส่วนรายได้เป็น 10% เพิ่มขึ้นจากในปีนี้ที่มีสัดส่วนที่ 3% ของรายได้รวมทั้งหมด
นอกจากนี้จากการที่ตลาดนิตยสารสำหรับผู้ชาย ซึ่งยังมีน้อยอยู่บนแผงหนังสือ และมีปิดตัวลงไปบ้าง จึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้ามาทำตลาดและแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้ไม่ยาก ล่าสุดทางบริษัทได้สิทธ์ในการผลิตนิตยสาร Men’s Health เพิ่มเข้ามาอีก 1 เล่ม จะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป จากปัจจุบันนิตยสารเล่มนี้ ทราฟฟิคคอร์เนอร์ เป็นเจ้าของสิทธ์ทำตลาดในไทย และอยู่ในอันดับ 3 ของกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชาย โดยอันดับ 1 คือ FHM และ2. คือ GM มั่นใจว่าจากการปรับรูปแบบและการนำเสนอให้มีสีสันและเป็นแฟชั่นมากขึ้น รวมทั้งจัดอีเว้นต์สร้างแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น ปีหน้า Men’s Health จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชายได้
นางเรซินา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีนี้ เติบโตราว 12% โดยนิตยสารSeventeen, OK! และ Travel+ Leisure (South east Asia) เป็นนิตยสารหลักที่สร้างรายได้ เป็นสัดส่วนกว่า 70% ของรายได้จากการผลิตและจำหน่ายนิตยสารในเครือ ส่วนปีหน้าจะโฟกัสนิตยสารทั้งหมด 5 เล่มหลัก ได้แก่ Seventeen, OK!, Travel+ Leisure (South east Asia), Men’s Health และอีก 1 เล่มที่จะเปิดตัวในเดือนมี.ค.ปีหน้า คือ Golf Digest โดยทั้ง 5 เล่ม จะสร้างรายได้เป็น 70% ของรายได้รวมทั้งหมด และอีก 30% มาจากนิตยสารที่รับจ้างผลิต ซึ่งทั้งปี 2553 ตั้งเป้ายอดรายได้ว่าจะมีการเติบโตอย่างน้อยที่ 15%
นางเรซินา อูเบรอย รองผู้อำนวยการ บริษัท มีเดีย ทรานส์เอเชีย ไทยแลนด์ จำกัด ผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์ของนิตยสารชั้นนำ เช่น Seventeen และ OK! เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดนิตยสารในปี 2553 มองว่า ช่วงไตรมาสหนึ่งมีสัญญาณบวกที่ดีมาก เพราะในแง่การใช้เงินโฆษณาของลูกค้าค่อนข้างดี โดยทั้งปีมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดูได้จากตลาดโลกจากสหรัฐอเมริกา ตลาดนิตยสารกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังซบเซามา 2 ปี ส่วนไทยเองพบว่า ตลาดหุ้นเริ่มดีขึ้น แต่ลูกค้ายังกังวลและระมัดระวังในการใช้เงินอยู่ แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับบริษัทมากนัก เพราะโฆษณาส่วนใหญ่จะเป็นระดับเวิลด์ไวด์ และมาจากอเมริกา
อย่างไรก็ตาม การทำตลาดในปีนี้และในปีหน้า ทางบริษัทจะเน้นเรื่องของการใช้กลยุทธ์แบบ 360 องศา มาร์เก็ตติ้ง มีการทำงานร่วมกับลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ขายโฆษณาลงบนหน้ากระดาษ แต่ต้องต่อยอดไปยังการใช้สื่ออื่นๆ และต้องช่วยให้ยอดขายของลูกค้ากระเตื้องขึ้นด้วย ในขณะที่งบการใช้เงินของลูกค้ายังใช้เท่าเดิม อีกทั้งจะเน้นการทำงานโดยมุ่งหาพันธมิตรเข้ามาร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น ภายใต้โมเดลแบบ 1+1=3 คือการร่วมมือกันแล้วได้ผลตอบแทนมากกว่าที่เคยเป็น
ส่งผลให้ในปีหน้าบริษัทจะโฟกัสการทำตลาดในรูปแบบดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะเว็บไซต์ ซึ่งปัจจุบันนิตยสารในกลุ่มที่มีการเปิดตัวลงบนเว็บไซต์ ได้แก่ Seventeen,OK! และTravel+ Leisure (South east Asia) จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญปีหน้าจะมีสื่อโมบาย เข้ามาเพิ่มอีกตัว โดยจะเริ่มกับนิตยสาร Seventeen ก่อน กับรูปแบบโมเดล ไม่ว่าจะเป็นการนำคอนเท้นท์ไปลงในมือถือ, การทำเป็นเอสเอ็มเอสคูปอง และการเล่มเกม เชื่อว่าปีหน้าการใช้กลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง จะสร้างสัดส่วนรายได้เป็น 10% เพิ่มขึ้นจากในปีนี้ที่มีสัดส่วนที่ 3% ของรายได้รวมทั้งหมด
นอกจากนี้จากการที่ตลาดนิตยสารสำหรับผู้ชาย ซึ่งยังมีน้อยอยู่บนแผงหนังสือ และมีปิดตัวลงไปบ้าง จึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้ามาทำตลาดและแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้ไม่ยาก ล่าสุดทางบริษัทได้สิทธ์ในการผลิตนิตยสาร Men’s Health เพิ่มเข้ามาอีก 1 เล่ม จะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป จากปัจจุบันนิตยสารเล่มนี้ ทราฟฟิคคอร์เนอร์ เป็นเจ้าของสิทธ์ทำตลาดในไทย และอยู่ในอันดับ 3 ของกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชาย โดยอันดับ 1 คือ FHM และ2. คือ GM มั่นใจว่าจากการปรับรูปแบบและการนำเสนอให้มีสีสันและเป็นแฟชั่นมากขึ้น รวมทั้งจัดอีเว้นต์สร้างแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น ปีหน้า Men’s Health จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชายได้
นางเรซินา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีนี้ เติบโตราว 12% โดยนิตยสารSeventeen, OK! และ Travel+ Leisure (South east Asia) เป็นนิตยสารหลักที่สร้างรายได้ เป็นสัดส่วนกว่า 70% ของรายได้จากการผลิตและจำหน่ายนิตยสารในเครือ ส่วนปีหน้าจะโฟกัสนิตยสารทั้งหมด 5 เล่มหลัก ได้แก่ Seventeen, OK!, Travel+ Leisure (South east Asia), Men’s Health และอีก 1 เล่มที่จะเปิดตัวในเดือนมี.ค.ปีหน้า คือ Golf Digest โดยทั้ง 5 เล่ม จะสร้างรายได้เป็น 70% ของรายได้รวมทั้งหมด และอีก 30% มาจากนิตยสารที่รับจ้างผลิต ซึ่งทั้งปี 2553 ตั้งเป้ายอดรายได้ว่าจะมีการเติบโตอย่างน้อยที่ 15%