“สยามวิคเกอร์” ขยายธุรกิจ เปิดรับพันธมิตรธุรกิจเพิ่มเพื่อรับตลาดอุปกรณ์ส่งเสริมการขายบูม ลุยเปิดเว็บไซต์เตรียมรับออร์เดอร์จากทั่วประเทศ
นายอมฤทธิ์ วีรชัยภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามวิคเกอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน และอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายการบริการทางด้านอุปกรณ์ส่งเสริมการขายให้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยเพิ่มในส่วนของการขายปลีก และการจัดทำตามออร์เดอร์ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเปิดช่องทางการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในเครือของบริษัทฯ ผ่านเว็บไซต์ www.o-pop.com โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม (SME) ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับความสะดวกจากการสั่งซื้อ
“ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโมเดิร์นเทรด และห้างสรรพสินค้า ซึ่งในขณะนี้แบรนด์เรามีความแข็งแกร่งในตลาดนี้พอสมควร ในปีนี้เราจึงหันมามุ่งเน้นในกลุ่ม SME ที่มีการเติบโตที่สูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นแล้ว เรายังเปิดเว็บไซต์ในรูปแบบอีคอมเมิร์ซที่ทันสมัย โดยมีการจัดแบ่งหมวดหมู่สินค้าในแต่ละประเภทที่ชัดเจน เพื่อสะดวกแก่ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า”
นายอมฤทธิ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจในการสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.o-pop.com มากยิ่งขึ้น บริษัทฯจึงจัดโปรโมชั่นการจัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศสำหรับการสั่งซื้อครบ 500 บาท และยังมอบส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 10% สำหรับยอดสั่งซื้อครบ 1,000 บาท พร้อมทั้งบริการจัดทำสกรีนโลโก้สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีการสั่งซื้อในปริมาณมากด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เปิดรับตัวแทนจำหน่ายในรูปแบบ “พันธมิตรเครือข่าย” ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุม และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กระจายอยู่ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ส่งเสริมการขายได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งคาดว่าในกลุ่มธุรกิจนี้จะมีรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท
“พันธมิตรเครือข่าย” จะมี 2 ลักษณะ คือ แบบ Corner ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มีธุรกิจอยู่แล้ว และต้องการสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น อาทิ ร้านเครื่องเขียน อุปกรณ์บรรจุหีบห่อ ตลอดจนร้านทำป้ายโฆษณา หรืออิงค์เจ๊ท เป็นต้น โดยลักษณะการลงทุนมี 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก ใช้เงินลงทุน 5,000 บาท ขนาดกลาง 10,000 บาท และขนาดใหญ่ 20,000 บาท โดยบริษัทฯ จะจัดส่งชั้นวางสินค้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเน้นให้สินค้าดูสะดุดตา และน่าซื้อมากยิ่งขึ้นให้กับผู้ลงทุน พร้อมผลิตภัณฑ์ครบครัน
และอีกลักษณะหนึ่งคือ แบบ KIOSK ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการมุ่งเน้นทำตลาดสินค้าของสยามวิคเกอร์โดยตรง โดยบริษัทฯ จะจัดส่งสินค้ากว่า 500 ชนิด และจะมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 2 เดือน ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจะมีการออกแบบร้าน ตลอดจนชั้นวางสินค้าให้เป็นคอนเซปต์เดียวกันทั้งร้าน เพื่อสร้างความดึงดูด และจดจำในกลุ่มลูกค้า โดยการลงทุนจะเริ่มต้นที่ 100,000 บาทขึ้นไป
ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดขายราว 50 ล้านบาท โดยมีลูกค้ากลุ่ม สเปเชียลตี้ สโตร์ อยู่ด้วยกัน 3 แห่ง คือ บีทูเอส ออฟฟิศดีโป้ และลีเรคโก้ นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด และดีพาร์ทเมนท์สโตร์
นายอมฤทธิ์ วีรชัยภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามวิคเกอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน และอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายการบริการทางด้านอุปกรณ์ส่งเสริมการขายให้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยเพิ่มในส่วนของการขายปลีก และการจัดทำตามออร์เดอร์ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเปิดช่องทางการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในเครือของบริษัทฯ ผ่านเว็บไซต์ www.o-pop.com โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม (SME) ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับความสะดวกจากการสั่งซื้อ
“ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโมเดิร์นเทรด และห้างสรรพสินค้า ซึ่งในขณะนี้แบรนด์เรามีความแข็งแกร่งในตลาดนี้พอสมควร ในปีนี้เราจึงหันมามุ่งเน้นในกลุ่ม SME ที่มีการเติบโตที่สูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นแล้ว เรายังเปิดเว็บไซต์ในรูปแบบอีคอมเมิร์ซที่ทันสมัย โดยมีการจัดแบ่งหมวดหมู่สินค้าในแต่ละประเภทที่ชัดเจน เพื่อสะดวกแก่ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า”
นายอมฤทธิ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจในการสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.o-pop.com มากยิ่งขึ้น บริษัทฯจึงจัดโปรโมชั่นการจัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศสำหรับการสั่งซื้อครบ 500 บาท และยังมอบส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 10% สำหรับยอดสั่งซื้อครบ 1,000 บาท พร้อมทั้งบริการจัดทำสกรีนโลโก้สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีการสั่งซื้อในปริมาณมากด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เปิดรับตัวแทนจำหน่ายในรูปแบบ “พันธมิตรเครือข่าย” ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุม และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กระจายอยู่ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ส่งเสริมการขายได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งคาดว่าในกลุ่มธุรกิจนี้จะมีรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท
“พันธมิตรเครือข่าย” จะมี 2 ลักษณะ คือ แบบ Corner ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มีธุรกิจอยู่แล้ว และต้องการสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น อาทิ ร้านเครื่องเขียน อุปกรณ์บรรจุหีบห่อ ตลอดจนร้านทำป้ายโฆษณา หรืออิงค์เจ๊ท เป็นต้น โดยลักษณะการลงทุนมี 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก ใช้เงินลงทุน 5,000 บาท ขนาดกลาง 10,000 บาท และขนาดใหญ่ 20,000 บาท โดยบริษัทฯ จะจัดส่งชั้นวางสินค้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเน้นให้สินค้าดูสะดุดตา และน่าซื้อมากยิ่งขึ้นให้กับผู้ลงทุน พร้อมผลิตภัณฑ์ครบครัน
และอีกลักษณะหนึ่งคือ แบบ KIOSK ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการมุ่งเน้นทำตลาดสินค้าของสยามวิคเกอร์โดยตรง โดยบริษัทฯ จะจัดส่งสินค้ากว่า 500 ชนิด และจะมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 2 เดือน ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจะมีการออกแบบร้าน ตลอดจนชั้นวางสินค้าให้เป็นคอนเซปต์เดียวกันทั้งร้าน เพื่อสร้างความดึงดูด และจดจำในกลุ่มลูกค้า โดยการลงทุนจะเริ่มต้นที่ 100,000 บาทขึ้นไป
ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดขายราว 50 ล้านบาท โดยมีลูกค้ากลุ่ม สเปเชียลตี้ สโตร์ อยู่ด้วยกัน 3 แห่ง คือ บีทูเอส ออฟฟิศดีโป้ และลีเรคโก้ นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด และดีพาร์ทเมนท์สโตร์