ย่างก้าวสู่ปีที่ 51 ในปี 2553 สำหรับแอมเวย์ทั่วโลก ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้นสัญชาติอเมริกา หลังจากปีนี้ฉลองครบรอบ 50ปีทั่วโลกอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำถึงความสำเร็จ กวาดยอดขายกว่า 8.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีผ่านมา โดยแอมเวย์ทั่วโลกประเดิมเปิดยุทธศาสตร์ต้อนรับปีใหม่ ด้วยการเปิดตัว”อัตลักษณ์แบรนด์แอมเวย์” (Amway Brand Signature) ครั้งแรกในรอบ 50ปี เสริมจากโลโก้แอมเวย์เดิม พร้อมประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจโฟกัสกลุ่มเพื่อสุขภาพ รับพฤติกรรมของผู้บริโภค ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ในประเทศไทย
การเปิดตัวอัตลักษณ์แบรนด์แอมเวย์ในประเทศไทย เริ่มในเดือนมกราคม 2553 นับว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญและเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเข้าใจเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก เพิ่มความจดจดในตัวแบรนด์แอมเวย์ ทำให้แบรนด์มีความสดใส ทันสมัยยิ่งขึ้น มีความเป็นเทรนด์ดี้ และประการสำคัญเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของแอมเวย์ถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.กลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ ผ่านการสื่อสารระลอกคลื่นสีเขียวมีตัวหนังสือ “นิวทริชั่น” (NUTRITION) เป็นตัวแทนด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์โภชนาการนิวทริไลท์ 2.กลุ่มธุรกิจเพื่อความงามอาร์ทิสทรี สื่อสารด้วยตัวอักษรสีแดงคำว่า”บิวตี้” (BEAUTY) เป็นแรงบันดาลใจจากวงกลมของเนื้อครีมที่เข้มข้น เป็นตัวแทนแสดงถึงอิทธิพลที่ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของแอมเวย์เข้าไปมีส่วนในชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก
และ3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน สื่อสารด้วยอักษรสีน้ำเงิน”โฮม” (HOME) หมายถึงผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้านของแอมเวย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง แตกต่างจากท้องตลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสำหรับบริเวณวงสีแพลตินัม มีตัวหนังสือกำกับว่า “ยัวร์ บิสซิเนส” (YOUR BUSINESS) เปรียบเสมือนความมุ่งมั่น ความมั่นคงและอนาคตที่รุ่งเรืองของโอกาสทางธุรกิจของแอมเวย์ และรัศมีทรงกลดล้อมรอบวงกลมทั้งหมด เพื่อสื่อถึงการครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นแอมเวย์ ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน นักธุรกิจ และการตอบแทนสังคมของธุรกิจ โดยการร่วมออกแบบอัตลักษณ์ใหม่มาจากการวิจัยจากนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภค 1.7 หมื่นคนทั่วโลกใน 10 ประเทศ
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น กล่าวว่า การเปิดตัวอัตลักษณ์ของแอมเวย์ จะสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของแอมเวย์ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า เมื่อกล่าวถึงแอมเวย์ หลายคนรู้จักว่าเป็นแบรนด์ของธุรกิจขายตรง แต่หากลงถึงผลิตภัณฑ์ ก็ยังไม่รู้ว่ามีสินค้าใดบ้าง และบ้างก็ตอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแต่มีราคาที่แพง ดังนั้นการมีอัตลักษณ์แบรนด์ ช่วยสื่อสารถึง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้เป็นอย่างดี โดยกลยุทธ์การสื่อสารบริษัทจะเน้นทำภายในองค์กรนำร่องก่อน ส่วนภายนอกผ่านในงานกิจกรรม ซึ่งเป้าหมายการเปิดตัวในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานกลุ่มนักธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้แอมเวย์อยู่ในช่วงของการสร้างความสมดุลย์ระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มผู้ใหญ่
***บูมกลุ่มคนรุ่นใหม่พลังขับเคลื่อน***
ทัศนคติคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก ต้องการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองมากกว่าที่เป็นลูกจ้าง อีกทั้งยังมีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจขายตรง ดังนั้น ธุรกิจขายตรงจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างอาณาจักรกิจการของตัวเอง จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนรุ่นใหม่ต่ำกว่า 30 ปี สมัครเป็นนักธุรกิจขายตรงเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนเพิ่มจาก 20% เป็น 35 % และจากนี้กลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้น 1-2% และในอนาคต 3-5 ปี พลังกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาจมีสัดส่วนที่เติบโตมากกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใหญ่ปัจจุบันมีสัดส่วนราย 65% โดยกลยุทธ์การขยายคนรุ่นใหม่ แอมเวย์ มุ่งเน้น 3 ประการ คือ การนำความประสบความสำเร็จมาชักจูงใจ ควบคู่กับนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ ตลอดจนการใช้สื่อทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาการทำโซเชียล มาร์เก็ตติง และนำร่องโดยการปรับปรุงเว็บไซต์ การมีเกมส์ให้เล่น หรือให้ของรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่
นางรัตนา กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทรนด์กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงทุกกลุ่ม ทั้งผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่มเด็ก วัยรุ่น หรือทั้งผู้หญิงและชาย เมื่อเทียบกับกลุ่มเพื่อความงาม กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิง ดังนั้นโครงสร้างทางธุรกิจแอมเวย์ ประเทศไทยคล้ายคลึงกับแอมเวย์ระดับโลกมากขึ้น จากปัจจุบันในระดับโลก สัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ 40-50% ที่เหลืออีก 50-60% เป็นกลุ่มเพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน ส่วนแอมเวย์ ประเทศไทย กลุ่มเพื่อสุขภาพ 35% เพื่อความงาม 25% ที่เหลืออีก 40% เป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน
***บุกปี53ชูแผนฝ่ามรสุมเศรษฐกิจไม่ฟื้น***
นายกิจธวัช ฤทธีราวี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนการตลาดในปีหน้า บริษัมุ่งเน้นภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Customer Focus การศึกษาความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า 2.Performance Driven การมีแผนงานที่เน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพทั้งของบริษัทและนักธุรกิจ และ 3.Innovation นำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจแอมเวย์มีการขยายตัว 10-15% ต่อปี หรือมียอดขาย 2 หมื่นล้านบาท ในปี 2555 จากผลประกอบการปีนี้ 1.32 หมื่นล้านบาท เติบโต 14% สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 7% ใกล้เคียงกับภาวะตลาดธุรกิจขายตรงปีนี้เติบโต 7% ขณะที่ภาวะตลาดธุรกิจขายตรงปีหน้านี้ คาดว่ามีอัตราการเติบโต 7% ซึ่งมองว่าการดำเนินธุรกิจขายตรงก็ยังไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน การเมืองภายในประเทศที่ไม่มีความแน่นอน
การเปิดตัวอัตลักษณ์แบรนด์แอมเวย์ในประเทศไทย เริ่มในเดือนมกราคม 2553 นับว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญและเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเข้าใจเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก เพิ่มความจดจดในตัวแบรนด์แอมเวย์ ทำให้แบรนด์มีความสดใส ทันสมัยยิ่งขึ้น มีความเป็นเทรนด์ดี้ และประการสำคัญเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของแอมเวย์ถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.กลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ ผ่านการสื่อสารระลอกคลื่นสีเขียวมีตัวหนังสือ “นิวทริชั่น” (NUTRITION) เป็นตัวแทนด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์โภชนาการนิวทริไลท์ 2.กลุ่มธุรกิจเพื่อความงามอาร์ทิสทรี สื่อสารด้วยตัวอักษรสีแดงคำว่า”บิวตี้” (BEAUTY) เป็นแรงบันดาลใจจากวงกลมของเนื้อครีมที่เข้มข้น เป็นตัวแทนแสดงถึงอิทธิพลที่ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของแอมเวย์เข้าไปมีส่วนในชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก
และ3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน สื่อสารด้วยอักษรสีน้ำเงิน”โฮม” (HOME) หมายถึงผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้านของแอมเวย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง แตกต่างจากท้องตลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสำหรับบริเวณวงสีแพลตินัม มีตัวหนังสือกำกับว่า “ยัวร์ บิสซิเนส” (YOUR BUSINESS) เปรียบเสมือนความมุ่งมั่น ความมั่นคงและอนาคตที่รุ่งเรืองของโอกาสทางธุรกิจของแอมเวย์ และรัศมีทรงกลดล้อมรอบวงกลมทั้งหมด เพื่อสื่อถึงการครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นแอมเวย์ ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน นักธุรกิจ และการตอบแทนสังคมของธุรกิจ โดยการร่วมออกแบบอัตลักษณ์ใหม่มาจากการวิจัยจากนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภค 1.7 หมื่นคนทั่วโลกใน 10 ประเทศ
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น กล่าวว่า การเปิดตัวอัตลักษณ์ของแอมเวย์ จะสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของแอมเวย์ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า เมื่อกล่าวถึงแอมเวย์ หลายคนรู้จักว่าเป็นแบรนด์ของธุรกิจขายตรง แต่หากลงถึงผลิตภัณฑ์ ก็ยังไม่รู้ว่ามีสินค้าใดบ้าง และบ้างก็ตอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแต่มีราคาที่แพง ดังนั้นการมีอัตลักษณ์แบรนด์ ช่วยสื่อสารถึง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้เป็นอย่างดี โดยกลยุทธ์การสื่อสารบริษัทจะเน้นทำภายในองค์กรนำร่องก่อน ส่วนภายนอกผ่านในงานกิจกรรม ซึ่งเป้าหมายการเปิดตัวในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานกลุ่มนักธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้แอมเวย์อยู่ในช่วงของการสร้างความสมดุลย์ระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มผู้ใหญ่
***บูมกลุ่มคนรุ่นใหม่พลังขับเคลื่อน***
ทัศนคติคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก ต้องการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองมากกว่าที่เป็นลูกจ้าง อีกทั้งยังมีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจขายตรง ดังนั้น ธุรกิจขายตรงจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างอาณาจักรกิจการของตัวเอง จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนรุ่นใหม่ต่ำกว่า 30 ปี สมัครเป็นนักธุรกิจขายตรงเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนเพิ่มจาก 20% เป็น 35 % และจากนี้กลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้น 1-2% และในอนาคต 3-5 ปี พลังกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาจมีสัดส่วนที่เติบโตมากกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใหญ่ปัจจุบันมีสัดส่วนราย 65% โดยกลยุทธ์การขยายคนรุ่นใหม่ แอมเวย์ มุ่งเน้น 3 ประการ คือ การนำความประสบความสำเร็จมาชักจูงใจ ควบคู่กับนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ ตลอดจนการใช้สื่อทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาการทำโซเชียล มาร์เก็ตติง และนำร่องโดยการปรับปรุงเว็บไซต์ การมีเกมส์ให้เล่น หรือให้ของรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่
นางรัตนา กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทรนด์กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงทุกกลุ่ม ทั้งผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่มเด็ก วัยรุ่น หรือทั้งผู้หญิงและชาย เมื่อเทียบกับกลุ่มเพื่อความงาม กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิง ดังนั้นโครงสร้างทางธุรกิจแอมเวย์ ประเทศไทยคล้ายคลึงกับแอมเวย์ระดับโลกมากขึ้น จากปัจจุบันในระดับโลก สัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ 40-50% ที่เหลืออีก 50-60% เป็นกลุ่มเพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน ส่วนแอมเวย์ ประเทศไทย กลุ่มเพื่อสุขภาพ 35% เพื่อความงาม 25% ที่เหลืออีก 40% เป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน
***บุกปี53ชูแผนฝ่ามรสุมเศรษฐกิจไม่ฟื้น***
นายกิจธวัช ฤทธีราวี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนการตลาดในปีหน้า บริษัมุ่งเน้นภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Customer Focus การศึกษาความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า 2.Performance Driven การมีแผนงานที่เน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพทั้งของบริษัทและนักธุรกิจ และ 3.Innovation นำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจแอมเวย์มีการขยายตัว 10-15% ต่อปี หรือมียอดขาย 2 หมื่นล้านบาท ในปี 2555 จากผลประกอบการปีนี้ 1.32 หมื่นล้านบาท เติบโต 14% สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 7% ใกล้เคียงกับภาวะตลาดธุรกิจขายตรงปีนี้เติบโต 7% ขณะที่ภาวะตลาดธุรกิจขายตรงปีหน้านี้ คาดว่ามีอัตราการเติบโต 7% ซึ่งมองว่าการดำเนินธุรกิจขายตรงก็ยังไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน การเมืองภายในประเทศที่ไม่มีความแน่นอน