เปิดม่านส.โทรทัศน์ดาวเทียมฯอย่างเป็นทางการ เชื่อเอเจนซี่แห่อัดงบมาใช้เพิ่ม คาดชิงเค้กงบโฆษณาจากฟรีทีวีได้แน่ 5% มองปีหน้าทีวีดาวเทียมผุดอีกไม่ต่ำกว่า 40 ช่อง เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
ดร.นิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม ถือเป็นสมาคมที่ก่อตั้งด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว เริ่มจากช่วงปี 2551 โดยนายมานพ โตการค้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็นทีวี จำกัด ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเพียงชมรม และมีนายชัยยุทธ ทวีปวรเดช ทำหน้าที่ประธานของชมรมในระยะแรก ซึ่งชมรมนี้เกิดจากการรวมตัวกันของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ดาวเทียม
โดยปัจจุบัน ทางสมาคมฯมีสมาชิกหรือผู้ผลิตคอนเท้นต์ 25 บริษัท หรือมี 43 ช่องรายการ จากปัจจุบันในภาพรวมธุรกิจนี้ มีจำนวนผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ดาวเทียมราว 65 ช่องรายการ เชื่อว่าในอนาคตจะเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกในสมาคมฯมากขึ้น โดยมองว่าปีหน้าน่าจะมีการลงทุนผลิตรายการโทรทัศน์อีกราว 40 ช่อง ซึ่งการลงทุนต่อช่องใช้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นปีหน้าเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในการลงทุนเปิดช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียม ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
ดร.นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ทิศทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ดาวเทียมนั้น มองว่าจะเป็นการแข่งขันกันในส่วนของเคเบิลทีวี ไม่ใช่ในส่วนของคอนเท้นท์ เพราะแต่ละพื้นที่เริ่มเห็นว่ามีผู้ลงทุนดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวีหลายรายซ้อนกัน ส่วนสำคัญมาจากปัจจัยการครอบครองการเข้าถึงสื่อทีวีในช่องทางอื่นๆมากขึ้น ทั้งรับชมจากจานรับสัญญาณดาวเทียม เคเบิลทีวี จากเดิมที่รับชมจากเสาอากาศ
ปัจจุบันพบว่าในส่วนของการรับชมจากจานรับสัญญาณดาวเทียมนั้นมีสูงถึง 2 ล้านครัวเรือนแล้ว ซึ่งส่งผลต่อรายได้โฆษณา จะทำให้เอเจนซี่และเจ้าของสินค้าและธุรกิจที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทลงมา หันมาใช้สื่อเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียมมากขึ้น คาดว่าในปีหน้าเม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี จะมีสัดส่วนที่ 5% ของสื่อทีวี
อย่างไรก็ตามเมื่อตัวเลขการสำรวจเรื่องฐานสมาชิกรับชมเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียมชัดเจนขึ้น เชื่อว่าปีหน้าทางสมาคมฯจะเดินหน้าร่างเรตราคาโฆษณาให้มีมาตรฐานมากขึ้น จากปัจจุบันโดยเฉลี่ยราคาโฆษณาบนสื่อนี้อยู่ที่ประมาณ นาทีละ 20,000 บาท
ดร.นิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม ถือเป็นสมาคมที่ก่อตั้งด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว เริ่มจากช่วงปี 2551 โดยนายมานพ โตการค้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็นทีวี จำกัด ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเพียงชมรม และมีนายชัยยุทธ ทวีปวรเดช ทำหน้าที่ประธานของชมรมในระยะแรก ซึ่งชมรมนี้เกิดจากการรวมตัวกันของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ดาวเทียม
โดยปัจจุบัน ทางสมาคมฯมีสมาชิกหรือผู้ผลิตคอนเท้นต์ 25 บริษัท หรือมี 43 ช่องรายการ จากปัจจุบันในภาพรวมธุรกิจนี้ มีจำนวนผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ดาวเทียมราว 65 ช่องรายการ เชื่อว่าในอนาคตจะเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกในสมาคมฯมากขึ้น โดยมองว่าปีหน้าน่าจะมีการลงทุนผลิตรายการโทรทัศน์อีกราว 40 ช่อง ซึ่งการลงทุนต่อช่องใช้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นปีหน้าเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในการลงทุนเปิดช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียม ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
ดร.นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ทิศทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ดาวเทียมนั้น มองว่าจะเป็นการแข่งขันกันในส่วนของเคเบิลทีวี ไม่ใช่ในส่วนของคอนเท้นท์ เพราะแต่ละพื้นที่เริ่มเห็นว่ามีผู้ลงทุนดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวีหลายรายซ้อนกัน ส่วนสำคัญมาจากปัจจัยการครอบครองการเข้าถึงสื่อทีวีในช่องทางอื่นๆมากขึ้น ทั้งรับชมจากจานรับสัญญาณดาวเทียม เคเบิลทีวี จากเดิมที่รับชมจากเสาอากาศ
ปัจจุบันพบว่าในส่วนของการรับชมจากจานรับสัญญาณดาวเทียมนั้นมีสูงถึง 2 ล้านครัวเรือนแล้ว ซึ่งส่งผลต่อรายได้โฆษณา จะทำให้เอเจนซี่และเจ้าของสินค้าและธุรกิจที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทลงมา หันมาใช้สื่อเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียมมากขึ้น คาดว่าในปีหน้าเม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี จะมีสัดส่วนที่ 5% ของสื่อทีวี
อย่างไรก็ตามเมื่อตัวเลขการสำรวจเรื่องฐานสมาชิกรับชมเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียมชัดเจนขึ้น เชื่อว่าปีหน้าทางสมาคมฯจะเดินหน้าร่างเรตราคาโฆษณาให้มีมาตรฐานมากขึ้น จากปัจจุบันโดยเฉลี่ยราคาโฆษณาบนสื่อนี้อยู่ที่ประมาณ นาทีละ 20,000 บาท
