บอร์ด ททท. เพิ่มงานให้ ผู้ว่า ททท.คนใหม่ ดูแล 4 บริษัท ที่เข้าไปถือหุ้นอย่างใกล้ชิด ทั้งอีลิทการ์ด ไทยจัดการลองสเตย์ สนามกอล์ฟ บางพระ และ น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยจะใช้เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลงานผู้ว่า ททท. ด้านตัวเลขนักท่องเที่ยว “ชุมพล” ฟุ้ง 11 เดือน 12.4 ล้านคน มั่นใจสิ้นปีถึงเป้า 14 ล้านคน ฝันปีหน้าปรับเป้าหมายเพิ่มเป็น 16 ล้านคน ด้าน พนง.ททท.เซ็งศาลยกฟ้องคดีโบนัส
วานนี้(14ธ.ค.52) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานบอร์ดททท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งนายสุรพล เศวตเศรนี เป็นผู้ว่าการ ททท.คนใหม่ โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.53 ซึ่งในวันที่ 22 ธ.ค..52 นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะลงนามในสัญญาว่าจ้าง นายสุรพล เป็น ผู้ว่าการ ททท. อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
***จี้ผู้ว่าททท.คนใหม่ดู 4 บริษัทในเครือ***
ทั้งนี้ค่าตอบแทนผู้ว่าการ ททท. กระทรวงการคลังได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯยื่นเสนอ คืออัตราเดือนละ 2.5 แสนบาท พร้อมสวัสดิการอื่นๆ อาทิ เงินค่ารับรอง ค่าน้ำมันรถ เป็นต้น อย่างไรก็ตามที่ประชุมบอร์ดได้มีการเสนอและเห็นชอบร่วมกันที่จะเพิ่มเกณฑ์การประเมินผลงานผู้ว่าการททท.คนใหม่ โดยให้นำเรื่องผลงานการดูแลกิจการ 4 แห่ง ที่ททท.เป็นผู้ลงทุน ได้แก่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เจ้าของโครงการบัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ด ,บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ , บริษัท บางพระกอล์ฟ อินเตอร์ เนชั่นแนล และ น้ำพุร้อน สันกำแพง
ทั้งนี้เพราะ บอร์ดเห็นว่า ทั้ง 4 กิจการดังกล่าว ททท.ควรให้การดูแลอย่างละเอียดมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ผู้รับตำแหน่งผู้ว่าการททท. จะต้องให้ความใส่ใจ ในการกำกับดูแลกิจการให้มากขึ้น แต่จะไม่ใช้ผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัทมาประเมินผลงานของผู้ว่าการททท.
นายวิชัย กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุม ยังมีมติเห็นชอบ ต่อสัญญาว่าจ้าง บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ปเป็นตัวแทนด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้แก่ ททท. ในตลาดต่างประเทศ ประจำปี 2553 วงเงินงบประมาณ 95 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ของ แมคแคน ที่ได้รับสัญญาว่าจ้างจาก ททท.
โดยตามสัญญาการรับงานของหน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ จะต่อสัญญาได้ไม่เกิน 3 ปีดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นปีสุดท้าย ซึ่ง ปี 2551-2552 ที่แมคแคมนได้ทำงานให้แก่ ททท. ผลงานเป็นที่พอใจ สมารถสร้างการรับรู้ประเทศไทยในตลาดต่างประเทศได้ตามเป้าหมาย ที่ททท.วางไว้ แต่ทั้งนี้ ในปี 2553 นี้ บอร์ด ททท. ได้มีมติ ให้ ททท. เป็นผู้ว่าจ้าง บริษัท ประเมินผลงานของแมคแคนเอง จากเดิมจะเป็นแมคแคนเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทให้มาประเมินผลงานตัวเอง
***เล็งปรับเป้านักท่องเที่ยวปีหน้า 16 ล้านคน****
ในการประชุมยังมีรายงานจากนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 52 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 12,446,914 คน ลดลงราว 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ 13,427,269 คน ซึ่งในเดือน ธ.ค.ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 1 ล้นคน ทำให้มั่นใจว่าตลอดทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ที่ 14 ล้านคน ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม นายชุมพล เคยระบุว่า ในปี 2553 มีความเป็นไปได้ที่จะปรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากที่ ททท.ตั้งไว้ 14 ล้านคน อาจจะปรับเพิ่มเป็น 16 ล้านคน ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. ในฐานะว่าที่ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด ได้มอบหมายให้ ททท. ไปยกร่างแนวทางการบริหารกิจการใน 4 บริษัท ดังกล่าว ซึ่งททท.เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ โดยเน้นให้ ททท.เข้าไปร่วมดูแลการบริหารและติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำงานในรูปแบบการสื่อสารสองทาง จากเดิมที่เป็นเพียงการติดตาม และรับทราบการทำงานเพียงอย่างเดียว แต่จากนี้ไป ททท.จะต้องเข้าไปร่วมรับทราบปัญหา พร้อมเสนอแนะการทำงานให้แก่บริษัทเหล่านั้นด้วย
ทางด้านน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานวางกรอบแนวทางการทำงานของที่ปรึกษาระดับ 11 ททท. กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงนว่า ขณะนี้อยุ่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลอำนาจหน้าที่ของตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 เพื่อนำมาเสนอในที่ประชุมในวันที่ 20 ธ.ค. 52 คาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อสเนอต่อบอร์ด ททท.ในเดือน ม.ค. 53
***พนง.ททท.เซ็งศาลยกฟ้องคดีโบนัส
นายประเสริฐ วรพิทักษ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลแรงงานกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีที่สหภาพฯเป็นโจทย์ยื่นฟ้องกรณีเงินค่าตอบแทน(โบนัส) พนักงาน โดยให้เหตุผลว่า สหภาพฯไม่มีอำนาจฟ้องร้องแทนพนักงานททท.ได้ โดยในเรื่องแบบนี้พนักงานซึ่งเป็นผู้เสียหาย ต้องยื่นฟ้องเอง เว้นแต่พนักงานจะมอบอำนาจตั้งให้สหภาพฯเป็นตัวแทนในการดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งในอีกราวหนึ่งสัปดาห์ ทางศาลแรงงานกลางจะส่งรายลเอียดคำพิพากษามาให้แก่สหภาพ
ทั้งนี้ปัญหาค่าตอบแทนพิเศษ ดังกล่าวเป็นปัญหายืดเยื้อมานาน โดยเป็นการเรียกร้องให้บอร์ดททท.จ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวช่วงปี 2549-2551 แต่ทางสำนักนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) มีหนังสือยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าการจ่ายเงินโบนัสให้พนักงานไม่ถูกต้อง ทำให้ ททท. ไม่กล้าจ่ายโบนัส ทำให้เป็นชนวนที่พนักงานไม่พอใจและออกมาขับไล่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดททท. เพราะเหตุผลที่ไม่สามารถดำเนินการจ่ายโบนัสให้พนักงานททท.ได้
วานนี้(14ธ.ค.52) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานบอร์ดททท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งนายสุรพล เศวตเศรนี เป็นผู้ว่าการ ททท.คนใหม่ โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.53 ซึ่งในวันที่ 22 ธ.ค..52 นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะลงนามในสัญญาว่าจ้าง นายสุรพล เป็น ผู้ว่าการ ททท. อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
***จี้ผู้ว่าททท.คนใหม่ดู 4 บริษัทในเครือ***
ทั้งนี้ค่าตอบแทนผู้ว่าการ ททท. กระทรวงการคลังได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯยื่นเสนอ คืออัตราเดือนละ 2.5 แสนบาท พร้อมสวัสดิการอื่นๆ อาทิ เงินค่ารับรอง ค่าน้ำมันรถ เป็นต้น อย่างไรก็ตามที่ประชุมบอร์ดได้มีการเสนอและเห็นชอบร่วมกันที่จะเพิ่มเกณฑ์การประเมินผลงานผู้ว่าการททท.คนใหม่ โดยให้นำเรื่องผลงานการดูแลกิจการ 4 แห่ง ที่ททท.เป็นผู้ลงทุน ได้แก่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เจ้าของโครงการบัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ด ,บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ , บริษัท บางพระกอล์ฟ อินเตอร์ เนชั่นแนล และ น้ำพุร้อน สันกำแพง
ทั้งนี้เพราะ บอร์ดเห็นว่า ทั้ง 4 กิจการดังกล่าว ททท.ควรให้การดูแลอย่างละเอียดมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ผู้รับตำแหน่งผู้ว่าการททท. จะต้องให้ความใส่ใจ ในการกำกับดูแลกิจการให้มากขึ้น แต่จะไม่ใช้ผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัทมาประเมินผลงานของผู้ว่าการททท.
นายวิชัย กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุม ยังมีมติเห็นชอบ ต่อสัญญาว่าจ้าง บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ปเป็นตัวแทนด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้แก่ ททท. ในตลาดต่างประเทศ ประจำปี 2553 วงเงินงบประมาณ 95 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ของ แมคแคน ที่ได้รับสัญญาว่าจ้างจาก ททท.
โดยตามสัญญาการรับงานของหน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ จะต่อสัญญาได้ไม่เกิน 3 ปีดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นปีสุดท้าย ซึ่ง ปี 2551-2552 ที่แมคแคมนได้ทำงานให้แก่ ททท. ผลงานเป็นที่พอใจ สมารถสร้างการรับรู้ประเทศไทยในตลาดต่างประเทศได้ตามเป้าหมาย ที่ททท.วางไว้ แต่ทั้งนี้ ในปี 2553 นี้ บอร์ด ททท. ได้มีมติ ให้ ททท. เป็นผู้ว่าจ้าง บริษัท ประเมินผลงานของแมคแคนเอง จากเดิมจะเป็นแมคแคนเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทให้มาประเมินผลงานตัวเอง
***เล็งปรับเป้านักท่องเที่ยวปีหน้า 16 ล้านคน****
ในการประชุมยังมีรายงานจากนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 52 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 12,446,914 คน ลดลงราว 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ 13,427,269 คน ซึ่งในเดือน ธ.ค.ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 1 ล้นคน ทำให้มั่นใจว่าตลอดทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ที่ 14 ล้านคน ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม นายชุมพล เคยระบุว่า ในปี 2553 มีความเป็นไปได้ที่จะปรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากที่ ททท.ตั้งไว้ 14 ล้านคน อาจจะปรับเพิ่มเป็น 16 ล้านคน ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. ในฐานะว่าที่ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด ได้มอบหมายให้ ททท. ไปยกร่างแนวทางการบริหารกิจการใน 4 บริษัท ดังกล่าว ซึ่งททท.เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ โดยเน้นให้ ททท.เข้าไปร่วมดูแลการบริหารและติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำงานในรูปแบบการสื่อสารสองทาง จากเดิมที่เป็นเพียงการติดตาม และรับทราบการทำงานเพียงอย่างเดียว แต่จากนี้ไป ททท.จะต้องเข้าไปร่วมรับทราบปัญหา พร้อมเสนอแนะการทำงานให้แก่บริษัทเหล่านั้นด้วย
ทางด้านน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานวางกรอบแนวทางการทำงานของที่ปรึกษาระดับ 11 ททท. กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงนว่า ขณะนี้อยุ่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลอำนาจหน้าที่ของตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 เพื่อนำมาเสนอในที่ประชุมในวันที่ 20 ธ.ค. 52 คาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อสเนอต่อบอร์ด ททท.ในเดือน ม.ค. 53
***พนง.ททท.เซ็งศาลยกฟ้องคดีโบนัส
นายประเสริฐ วรพิทักษ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลแรงงานกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีที่สหภาพฯเป็นโจทย์ยื่นฟ้องกรณีเงินค่าตอบแทน(โบนัส) พนักงาน โดยให้เหตุผลว่า สหภาพฯไม่มีอำนาจฟ้องร้องแทนพนักงานททท.ได้ โดยในเรื่องแบบนี้พนักงานซึ่งเป็นผู้เสียหาย ต้องยื่นฟ้องเอง เว้นแต่พนักงานจะมอบอำนาจตั้งให้สหภาพฯเป็นตัวแทนในการดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งในอีกราวหนึ่งสัปดาห์ ทางศาลแรงงานกลางจะส่งรายลเอียดคำพิพากษามาให้แก่สหภาพ
ทั้งนี้ปัญหาค่าตอบแทนพิเศษ ดังกล่าวเป็นปัญหายืดเยื้อมานาน โดยเป็นการเรียกร้องให้บอร์ดททท.จ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวช่วงปี 2549-2551 แต่ทางสำนักนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) มีหนังสือยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าการจ่ายเงินโบนัสให้พนักงานไม่ถูกต้อง ทำให้ ททท. ไม่กล้าจ่ายโบนัส ทำให้เป็นชนวนที่พนักงานไม่พอใจและออกมาขับไล่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดททท. เพราะเหตุผลที่ไม่สามารถดำเนินการจ่ายโบนัสให้พนักงานททท.ได้