ททท.เพิ่งตื่น ผนึกผู้ประกอบการด้านเมดิคัลทัวริสซึ่ม โปรโมตไทยเป็นเดสติเนชั่นด้านการให้บริการศัลยกรรมเพื่อความงามและการรักษาพยาบาล ผ่านเว็บไซต์ของททท.เพื่อลิงค์ไปยังเว็บของผู้ประกอบการ จี้ฝ่ายตลาดต่างประเทศ ดันเมืองไทยเป็นเบอร์หนึ่งในคีย์เวิร์ดของเสิร์ตเอนจิ้นด้านศัลยกรรมความงามและเมดิคัลทัวร์ ระบุปัจจุบันไม่มีข้อมูลประเทศไทยในคีย์เวิร์ดดังกล่าวเลย ทั้งที่อุตสาหกรรมนี้โกยรายได้กว่าปีละ 100 ล้านบาท
น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายตลาดต่างประเทศ ไปเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลด้านการให้บริการด้านการรักษาพยาบาลที่มีอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่ โรงพยาบาล รวมถึงผลิตภัณฑ์ เช่น รักษาโรค ผ่าตัด ทำศัยลกรรมความงามเสริมบุคลิกภาพ เป็นต้น เพื่อมาเป็นเว็บลิ้งค์อยู่ในเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ต่างชาติได้เข้ามาศึกษาในรายละเอียด นอกจากนั้น ให้ทำในเรื่องของกระบวนการที่ให้ข้อมูลด้านการรักษาพยาบาลและศัลยกรรมความงามของประเทศไทยได้ติดอยู่ในอันดับต้นๆในข้อความของเสิร์ตเอนจิ้น
ทั้งนี้จากการหารือกับผู้ประกอบการด้านศัลยกรรมความงาม และ เมดิคัลทัวริสซึ่ม พบว่า ธุรกิจดังกล่าว สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไทย กว่าปีละ 100 ล้านบาท จากจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการประมาณปีละ 1 ล้านคนส่วนใหญ่มาจากตลาดอเมริกาและยุโรป โดยเมดิคัลทัวร์มีอัตราเติบโตต่อเนื่องทุกปี ขยายฐานไปในหลายตลาดทั่วโลก โดยชาวต่างชาติที่มาใช้บริการ 50% เป็นด้านศัลกรรมความงามเพื่อเสริมบุคลิกภาพ อีก 50% เป็นการเข้ามาเพื่อรักษาพยาบาล ทำเลสิก และ รับบริการทางทันตกรรม ทั้งหมดเป็นการรับทราบข้อมูลและการชักชวนของคนรู้จักที่เคยเข้ามารับบริการ และการรับทราบข้อมูลจากการเดินสายไปโรดโชว์ต่างประเทศของกลุ่มภาคเอกชนที่ให้บริการด้านดังกล่าว
ขณะที่การสนับสนุนของททท.ในช่วงที่ผ่านมา การออกงานโรดโชว์และเทรดโชว์สวินค้าเพื่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ก็ได้ทำบริการด้านสปา และ โรงพยาบาลไปร่วมออกงานด้วย แต่ไม่ได้ทำในเชิงลึก ที่สำคัญปัจจุบันนี้การสืบหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อเสิร์ตโดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่า ศัลยกรรมความงาม หรือการบริการทางการแพทย์กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยขึ้นมาเลย มีเพียงของประเทศเกาหลี สิงคโปร์ เท่านั้น
อย่างไรก็ตามททท.ยังได้รับปากที่จะช่วยกลุ่มผู้ประกอบการด้านศัลยกรรมความงามและเมดิคัลทัวร์ ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายที่ ททท.มีอยู่ทั่วโลก เพราะ การเข้ามาของเมดิคัลทัวร์เหล่านี้ ไม่ได้มาแค่รักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะมีเรื่องของการใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงการชอปปิ้งด้วยในระหว่างที่พักรักษาตัว ซึ่งทางโรงพยาบาลแต่ละแห่งก็มีแพกเกจทัวร์พร้อมอัตราค่าบริการนำเสนอให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว แต่หากได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและ ททท. ในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะทำให้ตลาดเมดิคัลทัวร์ของประเทศไทยจะขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้จำนวนมาก และที่สำคัญเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงมากเฉลี่ยต่อคนมากกว่า 100,000 บาท
โดย ททท.จะใช้จุดแข็งเรื่องความสามารถของบุคคลากรทีมแพทย์ของไทย ประกอบกับการยอมรับของลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นอยู่แล้ว เป็นการตอกย้ำ และเพิ่มความสะดวกในเรื่องของช่องทางการติดต่อการรับข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อจะเสริมความแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเมดิคัลของประเทศไทย ซึ่งที่สิงคโปร์รัฐบาลสนับสนุนด้วยการลดภาษีให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มเมดิคัลและไมซ์ด้วย
น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายตลาดต่างประเทศ ไปเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลด้านการให้บริการด้านการรักษาพยาบาลที่มีอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่ โรงพยาบาล รวมถึงผลิตภัณฑ์ เช่น รักษาโรค ผ่าตัด ทำศัยลกรรมความงามเสริมบุคลิกภาพ เป็นต้น เพื่อมาเป็นเว็บลิ้งค์อยู่ในเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ต่างชาติได้เข้ามาศึกษาในรายละเอียด นอกจากนั้น ให้ทำในเรื่องของกระบวนการที่ให้ข้อมูลด้านการรักษาพยาบาลและศัลยกรรมความงามของประเทศไทยได้ติดอยู่ในอันดับต้นๆในข้อความของเสิร์ตเอนจิ้น
ทั้งนี้จากการหารือกับผู้ประกอบการด้านศัลยกรรมความงาม และ เมดิคัลทัวริสซึ่ม พบว่า ธุรกิจดังกล่าว สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไทย กว่าปีละ 100 ล้านบาท จากจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการประมาณปีละ 1 ล้านคนส่วนใหญ่มาจากตลาดอเมริกาและยุโรป โดยเมดิคัลทัวร์มีอัตราเติบโตต่อเนื่องทุกปี ขยายฐานไปในหลายตลาดทั่วโลก โดยชาวต่างชาติที่มาใช้บริการ 50% เป็นด้านศัลกรรมความงามเพื่อเสริมบุคลิกภาพ อีก 50% เป็นการเข้ามาเพื่อรักษาพยาบาล ทำเลสิก และ รับบริการทางทันตกรรม ทั้งหมดเป็นการรับทราบข้อมูลและการชักชวนของคนรู้จักที่เคยเข้ามารับบริการ และการรับทราบข้อมูลจากการเดินสายไปโรดโชว์ต่างประเทศของกลุ่มภาคเอกชนที่ให้บริการด้านดังกล่าว
ขณะที่การสนับสนุนของททท.ในช่วงที่ผ่านมา การออกงานโรดโชว์และเทรดโชว์สวินค้าเพื่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ก็ได้ทำบริการด้านสปา และ โรงพยาบาลไปร่วมออกงานด้วย แต่ไม่ได้ทำในเชิงลึก ที่สำคัญปัจจุบันนี้การสืบหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อเสิร์ตโดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่า ศัลยกรรมความงาม หรือการบริการทางการแพทย์กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยขึ้นมาเลย มีเพียงของประเทศเกาหลี สิงคโปร์ เท่านั้น
อย่างไรก็ตามททท.ยังได้รับปากที่จะช่วยกลุ่มผู้ประกอบการด้านศัลยกรรมความงามและเมดิคัลทัวร์ ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายที่ ททท.มีอยู่ทั่วโลก เพราะ การเข้ามาของเมดิคัลทัวร์เหล่านี้ ไม่ได้มาแค่รักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะมีเรื่องของการใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงการชอปปิ้งด้วยในระหว่างที่พักรักษาตัว ซึ่งทางโรงพยาบาลแต่ละแห่งก็มีแพกเกจทัวร์พร้อมอัตราค่าบริการนำเสนอให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว แต่หากได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและ ททท. ในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะทำให้ตลาดเมดิคัลทัวร์ของประเทศไทยจะขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้จำนวนมาก และที่สำคัญเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงมากเฉลี่ยต่อคนมากกว่า 100,000 บาท
โดย ททท.จะใช้จุดแข็งเรื่องความสามารถของบุคคลากรทีมแพทย์ของไทย ประกอบกับการยอมรับของลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นอยู่แล้ว เป็นการตอกย้ำ และเพิ่มความสะดวกในเรื่องของช่องทางการติดต่อการรับข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อจะเสริมความแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเมดิคัลของประเทศไทย ซึ่งที่สิงคโปร์รัฐบาลสนับสนุนด้วยการลดภาษีให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มเมดิคัลและไมซ์ด้วย