xs
xsm
sm
md
lg

11 โครงการมาบตาพุด เดินหน้าได้ ปิโตร-โรงไฟฟ้า-เหล็ก ยังระงับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศาลปกครองฯ ผ่อนปรน 11 โครงการมาบตาพุด เดินหน้าได้ ส่วนอีก 65 โครงการ ยังสั่งให้ระงับ โดยเชื่อว่า จะเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะ ปิโตรฯ ท่อส่ง โรงไฟฟ้า ท่าเทียบเรือ และเหล็ก ขณะที่ ปตท.รอดแค่ 10% จากที่โดนระงับ 25 โครงการ




วันนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้แก้ไขคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับโครงการลงทุน 76 โครงการในมาบตาพุดไว้ก่อน โดยให้ 11 โครงการที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพชีวิตของประชาชนสามารถเดินหน้าได้ ได้แก่ โครงการประเภท การคมนาคม พลังงานสะอาด และโครงการที่ปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมหรือลดมลภาวะ เป็นต้น โดยพบว่า 25 โครงการของกลุ่ม ปตท. มีผ่านได้ไม่ถึง 10%

ส่วนโครงการที่เหลือ โดยเฉพาะโครงการประเภทปิโตรเคมี ท่อส่ง เหล็ก โรงไฟฟ้า ท่าเทียบเรือ และโรงบำบัดของเสีย ให้ระงับไว้ก่อนตามคำสั่งเดิม เพราะเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตโครงการที่เหลือมีการดำเนินการภายใต้ มาตรา 67 วรรค 2 ตามรัฐธรรมนูญปี 50 แล้ว ก็สามารถยื่นขอออกจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวได้ในภายหลัง

ทั้งนี้ องค์คณะศาลปกครองสูงสุดคณะที่ 1 ได้มีคำตัดสินให้แก้คำสั่งศาลปกครองกลาง ที่สั่งให้คุ้มครองบรรเทาชั่วคราวให้ชะลอโครงการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 76 โครงการ โดยให้ชะลอเพียง 65 โครงการ โดยเห็นว่ามี 11 โครงการลงทุนไม่ส่งผลกระทบรุนแรงตามประกาศกระทรวงคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม และกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งปรับปรุงอุปกรณ์ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอยู่ สำหรับการอ่านคำตัดสินพิจารณาคดีอุทธรณ์ปัญหามาบตาพุด ได้ใช้เวลาอ่านคำตัดสินเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

**ปตท.บ่นอุบ ขู่เก็บกระเป๋ากลับบ้าน

แหล่งข่าวจากกลุ่ม ปตท.กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังจากที่ศาลปกครองได้ตัดสินในวันนี้ โดบยอมรับว่า บางโครงการที่ไม่ผ่านจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมโยงสายการผลิตในธุรกิจปิโตรเคมี อาทิ โรงแยกก๊าซ 6 โครงการนี้ไม่ผ่าน ทั้งที่โครงการนี้เป็นโครงการที่เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับการนำเข้าก๊าซ LPG โดยประมาณการกำลังการผลิตไว้ที่ 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งหากมีโครงการนี้ก็จะทำให้ไม่ต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น

"โครงการที่ผ่านเท่าที่ดูจะเป็นโครงการที่เห็นได้อย่างเด่นชัดว่าไม่มีผลกระทบ โดยเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนที่เหลือที่เป็นโครงการของกลุ่ม ปตท. แล้วไม่ผ่าน ทางกลุ่ม ปตท.อาจจะต้องมีการทบทวนโครงการดังกล่าวกันอีกครั้ง"

**สำหรับรายละเอียดของ 11 โครงการ มีดังนี้

หมวด โครงการอุตสาหกรรม

หมายเลข 16 โครงการเชื้อเพลิงสะอาด และปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ ของ บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน)

หมายเลข 22 คือ โครงการปรับปรุงระบบหมุนวนก๊าซกลับคืนโรงงานผลิตเม็ดพลาสติคโพลีโพรพิลีน ของบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด

หมายเลข 37 คือ โครงการผลิตเชื้อเพลิงสะอาดติดตั้งหน่วยควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิงและเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล ของ บริษัท สตาร์ปิโตเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)

หมายเลข 41 คือ โครงการติดตั้งระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิงและเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล ของ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR

หมายเลข 45 คือ การการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบำบัดมลพิษทางอากาศ โรงงานผลิต Purified Terephthalic Acid (PTA) ของบริษัท อินโดรามา ปิโตรเคม จำกัด

หมาบเลข 50 คือ โครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติธรรมชาติหน่วยที่ 6 (การเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำทิ้งเพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT

หมายเลข 54 คือ การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโรงงานผลิตคลอ-อัลคาลี และ อีพิคลอโรไฮดรินภายใต้โครงการติดตั้ง Chlorine Vaporizer,Wet Scrubber ของ HCL Section และการปรับเปลี่ยนขนาดถังบรรจุคลอรีนเหลวของบริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

หมวด โครงการด้านคมนาคม

หมายเลข 2 คือ โครงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งและขนาดถังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ของบริษัท มาบตาพุด แทงก์ เทอร์มินัล จำกัด

หมายเลข 3 คือ โครงการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการท่าเทียบเรือและคลังผลิตภัณฑ์ (การเก็บเพิ่มถังและอุปกรณ์ขนถ่าย LPG/Brutene) ของ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH

หมายเลข 4 คือ รายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการขยายท่าเทียบเรือขนถ่ายสารปิโตรเคมีและคลังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม (ถังโพรเพน/บิวเทน) ของ บริษัท มาบตาพุด แทงก์ เทอร์มินัล และ หมายเลข 6 คือ โครงการติดตั้ง Loading Arm เพิ่มเติมที่ท่าเรือ ของ บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)
กำลังโหลดความคิดเห็น