“สตีเบลฯ”ซิวบัลลังก์แชมป์ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นจากพานาโซนิคได้แล้วปีนี้ เปิดแผนสอง ส่งไฟท์ติ้งโมเดลครั้งแรก ลุยตลาดแมสเพิ่มยอด พร้อมเทกระเป๋าอีก 200 ล้าน ผุดโรงงานการผลิต ปั๊มน้ำร้อน หลังได้รับการตอบรับสูง สิ้นปีมั่นใจยอดขายทะลุ 500 ล้านบาท ส่วนปีหน้าอย่างน้อยยังเติบโตได้แน่ที่ 5%
นายโรลานด์ เฮอฮ์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่เคยวางเป้าหมายไว้เมื่อปีที่ผ่านมาว่า บริษัทจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ได้นั้น ล่าสุดในปีนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สตีเบลฯสามารถคว้าแชมป์ผู้นำมาครองได้แล้ว จากเดิมที่พานาโซนิคเป็นผู้นำอยู่ก่อน
โดยในภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นจำนวน 300,000-350,000 ยูนิตนั้น สตีเบลฯ ครองส่วนแบ่งยอดขายไม่ต่ำกว่า 30-35% ทิ้งห่างอันดับสอง คือ พานาโซนิค ประมาณ 2-3% ส่วนอันดับสาม ยังคงเป็น ชาร์ป
สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในปีนี้ มองว่าในแง่ยูนิตจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา ส่วนในแง่มูลค่าอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากพบว่า พฤติกรรมของลูกค้า ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามากกว่าราคา อีกทั้งผู้เล่นที่เข้ามาทำตลาดนี้ ช่วงหลังจะเป็นอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งจะนำเสนอสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง มากกว่าจะเข้ามาเล่นตลาดแมส
สำหรับสตีเบลฯ ปีนี้ในแง่การดำเนินธุรกิจ ค่อนข้างระมัดระวัง และวางเป้าหมายบนพื้นฐานของความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซาเป็นเหตุผลสำคัญ ดังนั้นปีนี้ทางบริษัทจึงยังคงใช้งบการตลาดใกล้เคียงกับปีก่อน คือประมาณ 25-30 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นเพียง 5% จากปกติจะต้องมีเป้าการเติบโตที่ 10% ขึ้นไป
ล่าสุดปีนี้บริษัทยังได้จัดแคมเปญ “เต็มให้ อุ่นไอรัก” ฉลอง 85 ปี สตีเบล เอลทรอน แจกเครื่องทำอุ่นกว่า 850 ล้านบาท ภายใต้งบการตลาด 15 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 450 ล้านบาท มาจากกลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน 80%, เครื่องกรองน้ำ 10% และ ปั๊มน้ำร้อน 10%
อย่างไรก็ตามสตีเบลฯ วางโพซิชั่นเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่บี ถึง เอ พร้อมทั้งไม่มีนโยบายลดราคาสินค้า แต่เนื่องจากยังมีช่องว่างของการทำตลาดอยู่ ล่าสุดปีนี้จึงเป็นปีแรกที่บริษัทเข้ามาจับฐานลูกค้าระดับแมสอย่างจริงจัง โดยได้ส่งไฟท์ติ้งโมเดล จำนวน 1 รุ่น คือ รุ่น AQ ราคาเพียง 2,990 บาท เข้ามาทำตลาด เชื่อว่าจะเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ส่วนในปีหน้าบริษัทยังมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่ต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้ปีหน้า อย่างน้อยยังรักษาการเติบโตได้อีกที่ 5%
นายโรลานด์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าบริษัทยังมีแผนขยายการลงทุน สร้างโรงงานการผลิต ปั๊มน้ำร้อน เพิ่มด้วย หลังจากที่ทำตลาดในไทยมา 1-2 ปี ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าในส่วนโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 100-150 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างหาพื้นที่ คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงกับโรงงานเดิม ที่บางปะอิน จังหวัด พระนครศรีอยุธยาซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้ ถือเป็นแห่งที่ 2 จากเดิมที่มีโรงงานผลิตปั๊มน้ำร้อนอยู่แล้วที่เยอรมัน โดยกำลังการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ หลักๆจะเน้นเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะออเดอร์จากออสเตรเลีย และในประเทศไทยด้วย
นายโรลานด์ เฮอฮ์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่เคยวางเป้าหมายไว้เมื่อปีที่ผ่านมาว่า บริษัทจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ได้นั้น ล่าสุดในปีนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สตีเบลฯสามารถคว้าแชมป์ผู้นำมาครองได้แล้ว จากเดิมที่พานาโซนิคเป็นผู้นำอยู่ก่อน
โดยในภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นจำนวน 300,000-350,000 ยูนิตนั้น สตีเบลฯ ครองส่วนแบ่งยอดขายไม่ต่ำกว่า 30-35% ทิ้งห่างอันดับสอง คือ พานาโซนิค ประมาณ 2-3% ส่วนอันดับสาม ยังคงเป็น ชาร์ป
สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในปีนี้ มองว่าในแง่ยูนิตจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา ส่วนในแง่มูลค่าอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากพบว่า พฤติกรรมของลูกค้า ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามากกว่าราคา อีกทั้งผู้เล่นที่เข้ามาทำตลาดนี้ ช่วงหลังจะเป็นอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งจะนำเสนอสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง มากกว่าจะเข้ามาเล่นตลาดแมส
สำหรับสตีเบลฯ ปีนี้ในแง่การดำเนินธุรกิจ ค่อนข้างระมัดระวัง และวางเป้าหมายบนพื้นฐานของความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซาเป็นเหตุผลสำคัญ ดังนั้นปีนี้ทางบริษัทจึงยังคงใช้งบการตลาดใกล้เคียงกับปีก่อน คือประมาณ 25-30 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นเพียง 5% จากปกติจะต้องมีเป้าการเติบโตที่ 10% ขึ้นไป
ล่าสุดปีนี้บริษัทยังได้จัดแคมเปญ “เต็มให้ อุ่นไอรัก” ฉลอง 85 ปี สตีเบล เอลทรอน แจกเครื่องทำอุ่นกว่า 850 ล้านบาท ภายใต้งบการตลาด 15 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 450 ล้านบาท มาจากกลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน 80%, เครื่องกรองน้ำ 10% และ ปั๊มน้ำร้อน 10%
อย่างไรก็ตามสตีเบลฯ วางโพซิชั่นเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่บี ถึง เอ พร้อมทั้งไม่มีนโยบายลดราคาสินค้า แต่เนื่องจากยังมีช่องว่างของการทำตลาดอยู่ ล่าสุดปีนี้จึงเป็นปีแรกที่บริษัทเข้ามาจับฐานลูกค้าระดับแมสอย่างจริงจัง โดยได้ส่งไฟท์ติ้งโมเดล จำนวน 1 รุ่น คือ รุ่น AQ ราคาเพียง 2,990 บาท เข้ามาทำตลาด เชื่อว่าจะเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ส่วนในปีหน้าบริษัทยังมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่ต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้ปีหน้า อย่างน้อยยังรักษาการเติบโตได้อีกที่ 5%
นายโรลานด์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าบริษัทยังมีแผนขยายการลงทุน สร้างโรงงานการผลิต ปั๊มน้ำร้อน เพิ่มด้วย หลังจากที่ทำตลาดในไทยมา 1-2 ปี ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าในส่วนโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 100-150 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างหาพื้นที่ คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงกับโรงงานเดิม ที่บางปะอิน จังหวัด พระนครศรีอยุธยาซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้ ถือเป็นแห่งที่ 2 จากเดิมที่มีโรงงานผลิตปั๊มน้ำร้อนอยู่แล้วที่เยอรมัน โดยกำลังการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ หลักๆจะเน้นเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะออเดอร์จากออสเตรเลีย และในประเทศไทยด้วย