xs
xsm
sm
md
lg

ไมเนอร์ฯคว้าสิทธิ์แกป-รีเฟรชบอสซินี เอสปรีรุกบิ๊กไซส์สโตร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไมเนอร์รับสภาพเศรษฐกิจ ยอดขายแฟชั่นรวมตกลง 10% แต่ยังน้อยกว่าตลาดรวมที่ตก 15% เปิดแผนปีหน้า เผยโฉมแบรนด์ใหม่ “แกป” จากอเมริกา รวมทั้งรีเฟรชบอสซินี ส่วนเอสปรี ที่จะรุกแบบบิ๊กไซส์สโตร์

นายไมเคิล บิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มเสื้อผ้าไมเนอร์แฟชั่น ไม่รวมเครื่องสำอางตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้ มียอดขาย ตกลง 10% ซึ่งน้อยกว่าภาพรวมตลาดที่ตกลง 15% ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา โดยเฉพาะสาขาที่พึ่งนักท่องเที่ยวลดลงมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปีหน้าบริษัทฯมีแผนทำตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องสำอางในเชิงรุกหลายแบรนด์ โดยหลักๆจะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่คือ แกป (GAP) จากอเมริกา ซึ่งมีการเซ็นสัญญาสิทธิ์จัดจำหน่ายไปแล้วระยะเวลา 5 ปีต่อ 5 ปี โดยจะต้องทำการ เปิดชอปของแกปอย่างต่ำ 6 สาขา พื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตรต่อสาขา ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่แกปเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ

นอกจากนั้นในส่วนของแบรนด์บอสซินี่ก็จะมีการรีเฟรชแบรนด์ใหม่ ให้มีความทันสมัยและตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงตามความต้องการของลูกค้า เนื่องจากการแข่งขันในตลาดนี้มีค่อนข้างสูง หลังจากที่ไมเนอร์ทำตลาดในไทยมาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ปัจจุบันมีชอปบอสซินีประมาณ 12 แห่ง และมีแผนจะเปิดชอปเพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนแบรนด์เอสปรีนั้น ปีหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยการขยายสาขานั้นจะเน้นการเปิดสาขาขนาดใหญ่กว่าเดิม ตั้งเป้าไว้ที่ขนาด 400 ตารางเมตร ทั้งการขยายสาขาเก่าและการเปิดสาขาใหม่ เพื่อให้สามารถทำตลาดนำเสนอสินค้าได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันสาขาที่ใหญ่ที่สุดคือที่เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ประมาณ 286 ตารางเมตรมีสินค้ามากสุดที่ 6 กลุ่ม รวมกว่า 800เอสเคยู คือ เสื้อผ้าแคชชวลชาย เสื้อผ้าวัยรุ่นชาย เสื้อผ้าแคชชวลหญิง เสื้อผ้าวัยรุ่นหญิง เสื้อผ้าทำงานหญิง และแอสเซสซอรี่ต่างๆ ส่วนร้านโฉมใหม่ขนาดใหญ่จะมีอีก 2 กลุ่มคือ นาฬิกาและน้ำหอม รวมสินค้ามากกว่า 1,000 เอสเคยู

คาดว่าปีหน้าจะสามารถเปิดสาขาโฉมใหม่ได้อย่างต่ำ 1-2 แห่ง ซึ่งจะเน้นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ส่วนสาขาเดิมก็อยู่ระหว่างการวางแผนว่าสาขาใดบ้างจะสามารถขยายพื้นที่หรือย้ายทำเลให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ปัจจุบันมีชอปเอสปรีประมาณ17 แห่ง และที่เป็นจุดขายตามห้างประมาณ 75 แห่ง ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วได้ลดราคาเสื้อเอสปรีรุ่นปริ้นท์ทีลง จาก 690 และ 490 บาทเหลือ390 บาท เพื่อกระตุ้นตลาด

“แบรดนด์เอสปรีในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่บริษัทแม่ทำเองก็เปลี่ยนโฉมเปิดสาขารูปแบบใหญ่ แล้ว เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกงทำการแรพตึกพื้นที่กว่า10,000 ตารางเมตร หรือที่ดูไบก็เปิดร้านขนาด 700 ตารางเมตร ได้มีการปรับ ส่วนไทยจะเป็นประเทศแรกของเอสปรีทั่วโลกในส่วนที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ที่จะปรับโฉมเป็นประเทศแรก ก่อนประเทศอื่นเช่น ซาอุดิอาระเบีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น ร้านโฉมใหม่จะเน้นสีดำที่อินเทรนด์ แต่เอสปรียังคงเป็นสีแดง เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็จะเน้นสีมืด และจะใช้ไฟระบบประหยัดพลังงานลดการใช้ไฟลง 20% สำหรับกลุ่มเครื่องสำอางนั้น ปีหน้าจะทำการรีเฟรช 2 แบรนด์คือ ลาเนจและสแม็ชบ็อกซ์ เพื่อทำการขยายฐานกลุ่มลูกค้า และให้แบรนด์มีความทันสมัยมากขึ้นด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น