xs
xsm
sm
md
lg

บู๊ทส์เร่งเครื่องกู้ยอดขายคืน ปรับร้านขายยาสู่ฟาร์มาซี เฮทธ์ตี้แอนด์บิวตี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว “บู๊ทส์” กางแผนลงทุนปีหน้า โฟกัสเนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ เตรียมปรับร้านขายยาสู่ฟาร์มาซี เฮทธ์ตี้แอนด์บิวตี้ ส่วนอเมริกาและไทย ปีหน้ายังพร้อมเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง สิ้นปีนี้ มั่นใจดันยอดขายในไทยเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักตามเป้า

นายกอร์ดอน ฟาร์คฮาร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บู๊ทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวขึ้นนั้น ในส่วนของบู๊ทส์ อินเตอร์ฯ พร้อมที่เดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง ล่าสุดในปีหน้า (เม.ย.53-มี.ค.54) ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเปิดให้บริการเป็นร้านฟาร์มาซีโดยเฉพาะ จำนวน 135 สาขานั้น จะปรับรูปแบบร้านมาสู่ ร้านฟาร์มาซีและเฮลธ์แอนด์บิวตี้ เช่นเดียวกับในประเทศไทย โดยใช้ชื่อ Apotheek รวมถึงในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเดิมมีเพียงร้านฟาร์มาซี จำนวน 160 สาขา จะปรับมาสู่รูปแบบใหม่เช่นกัน ในชื่อ Apotek มั่นใจว่าจะทำให้เข้าถึงและตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกประเทศที่มีศักยภาพ ปีหน้าบริษัทยังพร้อมเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันในประเทศไทย ซึ่งปีหน้าจะมีการขยายสาขาเพิ่มเติมรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 สาขาอีกด้วย โดยทางบริษัทมองว่า การเมืองที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยแต่อย่างไร ยังพร้อมเดินหน้าขยายสาขาตามแผน ขณะที่ศักยภาพการเติบโตของตลาดในประเทศไทยนั้น ถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับบู๊ทส์ อินเตอร์ฯ โดยไทยมีสัดส่วนสร้างรายได้ให้กลุ่มบู๊ทส์ อินเตอร์ฯ ถึง 50% (ไม่รวมประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของบู๊ทส์)

ด้านนายเอียน ฮันเตอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของบู๊ทส์ ประเทศไทย ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่ายอดขายลดลงไปบ้าง แต่พอถึงเดือนส.ค.เป็นต้นมา ยอดขายขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นครบปีนี้(เม.ย.52-มี.ค.53) เชื่อว่าบริษัทจะรักษาเป้ารายได้ ที่จะต้องมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักไว้ได้ โดยมาจาก เฮลธ์แคร์ 40% บิวตี้ 40% และ ฟาร์มาซี 20%

สำหรับตัวเลขการเติบโตครั้งนี้ ส่วนสำคัญมาจาก 1.การเปิดสาขาใหม่ ซึ่งทั้งปีรวมแล้วจะเปิดไม่ต่ำกว่า 10 สาขา โดยเฉพาะในเดือนธ.ค. ที่จะถึงนี้ จะเปิดอีกถึง 5 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีนี้น่าจะมีจำนวนสาขาที่ 165 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 160 สาขา 2.การเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น กลุ่มบิวตี้ ที่ตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคระดับแมสมากขึ้น และ3. การให้บริการที่ดียิ่งขึ้น

ล่าสุดทางบริษัทยังได้รับอนุญาต จากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ประกาศให้เป็นหนึ่งในร้านขายยาที่ผ่านมาตรฐานเป็นร้านขายยาคุณภาพ ซึ่งมีทั้งหมด 350 แห่งที่ได้รับเลือก สามารถจัดจำหน่ายกลุ่มยารักษาอาการหย่อนสมรรภภาพทางเพศตามใบสั่งแพทย์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งร้านบู๊ทส์ ที่สามารถจำหน่ายได้นั้น มีจำนวนถึง 121 สาขา คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายจากยากลุ่มดังกล่าวได้ถึง 50% จากมูลค่าตลาดยานี้ที่ 300 ล้านบาท จากช่องทางร้านที่ อย. กำหนด ขณะที่มูค่าตลาดรวมยาในไทย ต่อปีมีสูงถึง 20,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น