เอสซีจีเดินหน้าสร้างแบนนด์ “ไอเดียกรีน-ไอเดียเวิร์ค” ทุ่มงบก้อนโตปีละ 100 ล้านบาท ตั้งเป้ามีแชร์ 20% ในปีหน้า กลุ่มกระดาษถ่ายเอกสารพรีเมียม พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มอีก
นายพุทธพร แสงรัตนเดช ผู้อำนวยการสำนักงานการตลาด และนายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ผู้จัดการธุกริจ โฮมแอนด์ออฟฟิศ โซลูชั่น บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือปูนซิเมนต์ไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า บริษัทฯวางเป้าหมายในการที่จะมีส่วนแบ่งตลาดกระดาษถ่ายเอกาสารในกลุ่มพรีเมียมอย่างน้อย 15-20% ในช่วงต้นของการทำตลาดหรือประมาณสิ้นปีหน้า
สำหรับมูลค่าตลาดเอกสารรวมทั้งหมดมีกว่า 6,000 ล้านบาท หรือมีการใช้ประมาณ 2 แสนตันต่อปี ในขณะที่กลุ่มกระดาษพรีเมียมนั้น หรือที่มีความหนาประมาณ 80 แกรม จะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของมูลค่ากระดาษทั้งหมด
หลังจากที่ได้เริ่มทำตลาดมาแล้วประมาณปีเศษ กับกระดาษ ไอเดียกรีน ซึ่งเป็นกระดาษที่มีคอนเซ็ปต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการทำตลดาช่วงเกือบปีที่ผ่านมาขณะนี้มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10% แล้วเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเริ่มทำตัวใหม่คือกระดาษไอเดียเวิร์คที่มีคอนเซ็ปท์ เป็นกระดาษซูเปอร์พรีเมี่ยมที่ทำให้งานพิมพ์มีคุณภาพคมชัดมากขึ้น
“โอกาสของกระดาษถ่ายเอกสารยังมีอีกมาก เพราะว่าทุกวันนี้คนไทยเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารกันน้อยมากเฉลี่ย 1 รีมต่อคนต่อปี เท่านั้นเอง ดังนั้นการที่เราจะเติบโตหรือไม่ก็อยุ่กับกลยุทธ์การตลาดและช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพหรือไม่”
ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนที่จะใช้งบการตลาดอย่างต่ำปีละ 100 ล้านบาท ทั้งอะโบฟเดอะไลน์ที่จะทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆหลากหลายทีเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และบีโลว์เดอะไลน์ ที่จะมีการทำในทุกรูปแบบทั้งโรดโชว์ตามสถานที่ต่างๆเช่น อาคารสำนักงาน สถานที่ต่างๆที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่
รวมทั้งการจัดกิจกรรมเวิร์คชอปต่างๆด้วย เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงและสัมผัสกับการทดลองใช้กระดาษอย่างจริงจัง เพื่อให้ทราบถึงคุณสมบัติและความแตกต่างของกระดาษไอเดียกรีนและไอเดียเวิร์คกับกระดาษแบรนด์อื่นๆในท้องตลาด
ในช่วงแรกนี้เราต้องการทำตลาดโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการสร้างแบรนด์อะแวร์เนสให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ว่ามีกระดาษที่มีคุณภาพแบรนด์ไอเดียกรีนและไอเดียเวิร์ควางจำหน่ายอยู่ และตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในการรับรู้ของูผู้รบริโภค รวมไปถึบการรจับมือโคมาร์เก็ตติ้งกับพันธมิตรต่างๆที่เกี่ยวข้อง เราะมองว่า ตลาดกระดาษถ่ายเอกสารนี้แม้ว่าจะมีรายใหญ่ไมกี่ราย แต่ก็มีการแข่งขันที่สูงพอสมควร มีการสร้างแบรนด์กันอย่างต่อเนื่อง
ส่วนช่องทางการจำหน่ายนั้น ในส่วนของกระดาษไอเดียกรีนถือว่าสามารถวางจำหน่ายได้ครอบคลุมพื้นที่หลักๆมากกว่า 90% แล้ว ส่วนกระดาไอเดียเวิร์คนั้น เพิ่งเริ่มวางจำหน่าย แต่ขณะนี้ก็ถือว่าเริ่มกระจายไปในวงกว้างแล้ว และปีหน้าคาดว่าจะสามารถวางครอบคลุมตลาดได้ทั้งหมด
โดยบริษัทฯจะเน้นช่องช่องทางหลักคือเอเยนต์และร้านเครื่องเขียนทั่วไปที่มีสัดส่วนประมาณ 80-90% ของช่องทางทั้งหมด โดยมีเอเยนต์ประมาณ 15 รายแล้ว ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดมีประมาณ 10-20% เช่นพวกร้านเครื่องเขียนเชนใหญ่ๆ หรือดิสเคานท์สโตร์ อย่างไรก็ตามในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายไปยังกลุ่มร้านสะดวกซื้อด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ
สำหรับกระดาษของบริษัทฯนั้น มีราคาจำหน่ายใกล้เคียงกับผู้นำและคู่แข่งรายอื่น กล่าวคือ กระดาษพรีเมียมแบรนด์อื่นทั่วไป ราคาประมาณ 108 บาทต่อรีม ขณะที่ของบริษัทไทยคือ ไอเดียกรีน ราคา 108 บาทต่อรีม ( จำนวน 500 แผ่น ขนดา เอ4) และไอเดียเวิร์คราคา 110 บาทต่อรีม
ล่าสุดได้จัดทำแคมเปญใหม่ ได้ทำการโปรโมตไอเดียเวิร์ค ด้วยการจัดแคมเปญ “เวิร์คกว่า ให้ลอง” โดยจะท้าให้ลองใช้กระดาษไอเดียเวิร์ค ตากสำนักงานใหญ่ๆทั่วกรุงเทพ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เป็นต้น บีทูเอส บีเทรนด์ เป็นต้น จนถึงสิ้นปี้ นอกจากนั้นจะนำคนดัง ผู้บริหารและนักลงทุน ที่ทดลองใช้ไอเดียเวิร์ค แล้วพบว่าดีจริง มาทำการชวนประชาชนทดลองใช้ผ่านทางรายารทีวี เป็นต้น
นายพุทธพร แสงรัตนเดช ผู้อำนวยการสำนักงานการตลาด และนายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ผู้จัดการธุกริจ โฮมแอนด์ออฟฟิศ โซลูชั่น บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือปูนซิเมนต์ไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า บริษัทฯวางเป้าหมายในการที่จะมีส่วนแบ่งตลาดกระดาษถ่ายเอกาสารในกลุ่มพรีเมียมอย่างน้อย 15-20% ในช่วงต้นของการทำตลาดหรือประมาณสิ้นปีหน้า
สำหรับมูลค่าตลาดเอกสารรวมทั้งหมดมีกว่า 6,000 ล้านบาท หรือมีการใช้ประมาณ 2 แสนตันต่อปี ในขณะที่กลุ่มกระดาษพรีเมียมนั้น หรือที่มีความหนาประมาณ 80 แกรม จะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของมูลค่ากระดาษทั้งหมด
หลังจากที่ได้เริ่มทำตลาดมาแล้วประมาณปีเศษ กับกระดาษ ไอเดียกรีน ซึ่งเป็นกระดาษที่มีคอนเซ็ปต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการทำตลดาช่วงเกือบปีที่ผ่านมาขณะนี้มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10% แล้วเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเริ่มทำตัวใหม่คือกระดาษไอเดียเวิร์คที่มีคอนเซ็ปท์ เป็นกระดาษซูเปอร์พรีเมี่ยมที่ทำให้งานพิมพ์มีคุณภาพคมชัดมากขึ้น
“โอกาสของกระดาษถ่ายเอกสารยังมีอีกมาก เพราะว่าทุกวันนี้คนไทยเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารกันน้อยมากเฉลี่ย 1 รีมต่อคนต่อปี เท่านั้นเอง ดังนั้นการที่เราจะเติบโตหรือไม่ก็อยุ่กับกลยุทธ์การตลาดและช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพหรือไม่”
ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนที่จะใช้งบการตลาดอย่างต่ำปีละ 100 ล้านบาท ทั้งอะโบฟเดอะไลน์ที่จะทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆหลากหลายทีเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และบีโลว์เดอะไลน์ ที่จะมีการทำในทุกรูปแบบทั้งโรดโชว์ตามสถานที่ต่างๆเช่น อาคารสำนักงาน สถานที่ต่างๆที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่
รวมทั้งการจัดกิจกรรมเวิร์คชอปต่างๆด้วย เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงและสัมผัสกับการทดลองใช้กระดาษอย่างจริงจัง เพื่อให้ทราบถึงคุณสมบัติและความแตกต่างของกระดาษไอเดียกรีนและไอเดียเวิร์คกับกระดาษแบรนด์อื่นๆในท้องตลาด
ในช่วงแรกนี้เราต้องการทำตลาดโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการสร้างแบรนด์อะแวร์เนสให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ว่ามีกระดาษที่มีคุณภาพแบรนด์ไอเดียกรีนและไอเดียเวิร์ควางจำหน่ายอยู่ และตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในการรับรู้ของูผู้รบริโภค รวมไปถึบการรจับมือโคมาร์เก็ตติ้งกับพันธมิตรต่างๆที่เกี่ยวข้อง เราะมองว่า ตลาดกระดาษถ่ายเอกสารนี้แม้ว่าจะมีรายใหญ่ไมกี่ราย แต่ก็มีการแข่งขันที่สูงพอสมควร มีการสร้างแบรนด์กันอย่างต่อเนื่อง
ส่วนช่องทางการจำหน่ายนั้น ในส่วนของกระดาษไอเดียกรีนถือว่าสามารถวางจำหน่ายได้ครอบคลุมพื้นที่หลักๆมากกว่า 90% แล้ว ส่วนกระดาไอเดียเวิร์คนั้น เพิ่งเริ่มวางจำหน่าย แต่ขณะนี้ก็ถือว่าเริ่มกระจายไปในวงกว้างแล้ว และปีหน้าคาดว่าจะสามารถวางครอบคลุมตลาดได้ทั้งหมด
โดยบริษัทฯจะเน้นช่องช่องทางหลักคือเอเยนต์และร้านเครื่องเขียนทั่วไปที่มีสัดส่วนประมาณ 80-90% ของช่องทางทั้งหมด โดยมีเอเยนต์ประมาณ 15 รายแล้ว ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดมีประมาณ 10-20% เช่นพวกร้านเครื่องเขียนเชนใหญ่ๆ หรือดิสเคานท์สโตร์ อย่างไรก็ตามในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายไปยังกลุ่มร้านสะดวกซื้อด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ
สำหรับกระดาษของบริษัทฯนั้น มีราคาจำหน่ายใกล้เคียงกับผู้นำและคู่แข่งรายอื่น กล่าวคือ กระดาษพรีเมียมแบรนด์อื่นทั่วไป ราคาประมาณ 108 บาทต่อรีม ขณะที่ของบริษัทไทยคือ ไอเดียกรีน ราคา 108 บาทต่อรีม ( จำนวน 500 แผ่น ขนดา เอ4) และไอเดียเวิร์คราคา 110 บาทต่อรีม
ล่าสุดได้จัดทำแคมเปญใหม่ ได้ทำการโปรโมตไอเดียเวิร์ค ด้วยการจัดแคมเปญ “เวิร์คกว่า ให้ลอง” โดยจะท้าให้ลองใช้กระดาษไอเดียเวิร์ค ตากสำนักงานใหญ่ๆทั่วกรุงเทพ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เป็นต้น บีทูเอส บีเทรนด์ เป็นต้น จนถึงสิ้นปี้ นอกจากนั้นจะนำคนดัง ผู้บริหารและนักลงทุน ที่ทดลองใช้ไอเดียเวิร์ค แล้วพบว่าดีจริง มาทำการชวนประชาชนทดลองใช้ผ่านทางรายารทีวี เป็นต้น