กทช.งานเข้า! เคเบิลทีวีกางโพยตัดเค้ก โวยถูกจำกัดโฆษณา-อิสระจัดรายการ

คณะทำงานฯ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเคเบิลทีวี เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศหลักเกณฑ์ออกใบอนุญาต สรุปแบ่งตามเขตอำเภอ 4 ประเภท ระบุ พื้นที่เศรษฐกิจแพงสุด 25,000 บาทต่อปี ส่วนต่ำสุดอยู่ที่ 5 พันบาทต่อปี คาดสรุป 2 สัปดาห์ พร้อมโวยความเหลื่อมล้ำทีวีดาวเทียม ทั้งความอิสระในการจัดรายการ และการโฆษณา

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะทำงานกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ได้จัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างประกาศหลักเกณฑ์คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรื่องค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (โทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) หรือ เคเบิลทีวี

นายพนา ทองมีอาคม ประธานคณะทำงานกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นการให้ใบอนุญาตแบบชั่วคราวของคณะทำงานฯ แบ่งเป็นเขตอำเภอ ซึ่งมีอัตราค่าธรรมเนียม 4 ประเภท คือ พื้นที่ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์สูงค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 25,000 บาทต่อปี พื้นที่ที่มีเขตศักยภาพปานกลาง 10,000 บาทต่อปี พื้นที่ที่มีเขตศักยภาพต่ำ 5,000 บาทต่อปี และพื้นที่ที่มีเขตศักยภาพเสี่ยงขาดทุนจะยกเว้นค่าธรรมเนียม

“ผู้ประกอบการเคเบิล 700-800 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและปานกลาง ปัจจุบันมีผู้รับชมเคเบิลทีวีประมาณ 2.5 ล้านครัวเรือน”

สำหรับสาเหตุที่ต้องแบ่งใบอนุญาตตามเขตอำเภอ เนื่องจากจะทำให้ผู้ประกอบการเคเบิลสามารถขอใบอนุญาตเพื่อเปิดให้บริการได้หลายเขตอำเภอ ไม่จำกัดการให้บริการเพียงจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้น ขณะที่การแบ่งอัตราค่าธรรมเนียมตามพื้นที่ให้บริการเพราะจะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่ที่เสี่ยงขาดทุนให้สามารถดำเนินการได้ เช่น พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความแตกต่างทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม

อย่างไรก็ดี หลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะแล้ว คณะทำงานฯ จะใช้เวลา 2 สัปดาห์สรุปข้อมูลก่อนยื่นเรื่องให้ กทช.พิจารณาต่อไป หลังจากนั้นเดินหน้าร่างประกาศลิขสิทธิ์เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และร่างประกาศว่าด้วยเรื่องโฆษณา รวมทั้งร่างหลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหาที่เหมาะสม ส่วนการทำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อประกาศแล้วผู้ประกอบกิจการเคเบิลทีวีต้องมาลงทะเบียนภายใน 120 วัน

ทั้งนี้ หลังประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่มีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ประกอบกิจการทีวีดาวเทียม สามารถมาลงทะเบียนได้ เพราะเนื้อหาของทีวีดาวเทียมส่วนหนึ่งจะอยู่ในผังรายการที่ออกอากาศของเคเบิลทีวี ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายควบคุมการให้บริการทีวีดาวเทียม

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ใช้บริการต่างให้ความคิดเห็น และให้ความเป็นห่วงด้านการแข่งขันระหว่างการให้บริการทีวีดาวเทียม กับเคเบิลทีวี เนื่องจากว่าทีวีผ่านดาวเทียมยังไม่มีการกำกับดูแล และมีอิสระในการแข่งขัน และมีเนื้อหาโฆษณามากกว่าเคเบิลทีวี จึงต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินควบคุมไปพร้อมกับเคเบิลทีวีด้วย ส่วนการออกใบอนุญาตนั้นต้องการให้ กทช.ออกใบอนุญาตกับผู้ประกอบการรายเดิม ก่อนผู้ประกอบการรายใหม่

นายพนา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั่วประเทศ 400-600 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้กำกับดูแลของ กรมประชาชสัมพันธ์ แต่ต่อมา กรมประชาสัมพันธ์ ได้สิ้นสุดหน้าที่ลงตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการเสียง และวิทยุโทรทัศน์ และไม่มีผู้ที่มีอำนาจในการกำกับดูแล และรอหน่วยงานใหม่เข้ามากำกับดูแล จึงเป็นหน้าที่ของ กทช.ในการกำกับดูแลชั่วคราว ในขณะนี้มีปัญหาการให้บริการเคเบิลทีวีเกิดขึ้น มีหลายหน่วยงานร้องเรียนถึงการให้บริการที่ไม่เหมาะสม การโฆษณาสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งสร้างความแตกแยกทางสังคม