สมาคมธนาคารไทย ห่วงผลกระทบคำสั่งระงับโครงการ 76 แห่ง ที่นิคมมาบตาพุด หวั่นปัญหาบานปลายในวงกว้าง โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างประเทศ ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกภาคส่วนเร่งหาทางออก ยืนยันทุกแบงก์ให้สินเชื่อทุกโครงการที่มีมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อม
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ระงับโครงการและการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรม 76 โครงการที่ดำเนินการในเขตพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉาง และใกล้เคียงเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า สมาคมธนาคารไทย มีความเป็นห่วงต่อผลกระทบที่จะตามมาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้ง 76 โครงการ มีเงินลงทุนรวมกันถึง 3.3 แสนล้านบาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลให้การส่งเสริม และสามารถช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในอนาคต เพราะเมื่อเปิดดำเนินการ จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้ปีละมากกว่า 2 แสนล้านบาท
“ทางสมาคมธนาคารไทยได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมหาทางออกอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเรื่องนี้ไม่เพียงส่งกระทบโดยตรงต่อเจ้าของโครงการเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้างไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งคู่ค้า ธุรกิจของคู่ค้า คู่สัญญา สถาบันการเงิน ประชาชนผู้ลงทุนรายย่อย บริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะเงินลงทุนจากต่างประเทศ”
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ยืนยันว่า ทุกโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสถาบันการเงินจะได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เมื่อมีการกำหนดมาตรการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อันเป็นหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารสมาชิก ซึ่งโครงการที่ถูกระงับเหล่านี้ ได้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และสำหรับโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก จะมีการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพของชุมชนด้วย
“เรื่องการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งและถูกละเลยมานาน ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการแยกโครงการลงทุนที่ดี มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ออกจากโครงการที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งสร้างความชัดเจน โดยโครงการที่มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและผ่านการพิจารณาอนุมัติแล้ว ให้ดำเนินการต่อไปได้ ส่วนโครงการที่มีความจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม ต้องรีบดำเนินการ เพื่อรักษาผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ โดยมีความประสานสอดคล้องกันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความผาสุกของชุมชน” นายอภิศักดิ์ กล่าวสรุปทิ้งท้าย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ระงับโครงการและการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรม 76 โครงการที่ดำเนินการในเขตพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉาง และใกล้เคียงเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า สมาคมธนาคารไทย มีความเป็นห่วงต่อผลกระทบที่จะตามมาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้ง 76 โครงการ มีเงินลงทุนรวมกันถึง 3.3 แสนล้านบาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลให้การส่งเสริม และสามารถช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในอนาคต เพราะเมื่อเปิดดำเนินการ จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้ปีละมากกว่า 2 แสนล้านบาท
“ทางสมาคมธนาคารไทยได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมหาทางออกอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเรื่องนี้ไม่เพียงส่งกระทบโดยตรงต่อเจ้าของโครงการเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้างไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งคู่ค้า ธุรกิจของคู่ค้า คู่สัญญา สถาบันการเงิน ประชาชนผู้ลงทุนรายย่อย บริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะเงินลงทุนจากต่างประเทศ”
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ยืนยันว่า ทุกโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสถาบันการเงินจะได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เมื่อมีการกำหนดมาตรการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อันเป็นหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารสมาชิก ซึ่งโครงการที่ถูกระงับเหล่านี้ ได้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และสำหรับโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก จะมีการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพของชุมชนด้วย
“เรื่องการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งและถูกละเลยมานาน ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการแยกโครงการลงทุนที่ดี มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ออกจากโครงการที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งสร้างความชัดเจน โดยโครงการที่มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและผ่านการพิจารณาอนุมัติแล้ว ให้ดำเนินการต่อไปได้ ส่วนโครงการที่มีความจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม ต้องรีบดำเนินการ เพื่อรักษาผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ โดยมีความประสานสอดคล้องกันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความผาสุกของชุมชน” นายอภิศักดิ์ กล่าวสรุปทิ้งท้าย
