ย.ห.อย่าห่วงตลาดหุ้น

เช้าวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมาราคาทองคำตลาดนิวยอร์กทำสถิติสูงสุดที่ 1,066 ดอลลาร์ต่ออนซ์ ส่งผลทองคำในประเทศพุ่งจนคนไทยแห่ขายอีกครั้ง ทองคำแท่งซื้อคืน 16,700 บาท ขายออก 16,800 บาท ทองรูปพรรณซื้อคืน 16,463 บาท ขายออก 17,200 บาท นอกจากปัจจัยภายนอก "ความผันแปรราคาทองในประเทศโยงกับค่าเงินบาท" ใครอยากเก็งกำไรต้องเดาทิศทางเงินบาทประกอบการตัดสินใจ...

เย็นวันที่ 20 ต.ค. เงินบาทปิดตลาดที่ 33.40 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 33.36 วันเดียวกันหุ้นไทยปิดลบ 6 จุด ดัชนีลงมาอยู่ที่ 725 รายย่อยขาย 1,737 ล้านบาท ต่างชาติซื้อ 1,294 สถาบันซื้อ 442 ล้าน "มีขึ้นมีลงเป็นธรรมดาของตลาดหุ้น" ขออย่างเดียวไม่ว่าไทยหรือเทศ อย่าบ่อนทำลายด้วยวิธีสปรก!

อักษรย่อแท้ๆ ทำให้บรรดาโบรกเกอร์เล่นเกมทายชื่ออื้ออึงห้องค้าเมื่อวาน บ้างก็ว่า "ยรรยงค์" บ้างก็ "เสี่ยยักษ์" "เสี่ยแตงโม" มุกของ "ส.ว.สมชาย แสวงการ" ได้ผล ว่าแต่ทำไมไม่ระบุชื่อให้ทายง่ายๆ อย่าง "พ." นักลงทุนในตลาดหุ้นจะได้ไม่ต้องปวดหัวหาชื่อ ย.ยักษ์ ว.แหวน เพราะชื่อเอ่ยมาข้างต้นอาจเป็น "พ.แพะ" เหตุกลุ่มก๊วนทุบหุ้นรอบนี้คุ้นเคยกับ "พ.พายัพ" ขาใหญ่ตัวจริง รู้กันทั้งบ่อน มีลูกน้อยเป็นบอร์ดและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง แถมยังออกทีวีแถลงผลกำไรและโครงการบริษัทดันราคาหุ้นเป็นระยะๆ...

แต่ที่ลืมไม่ได้สำหรับนักเก็งกำไร ตลาดหุ้นเป็น "ของเล่น" มีได้มีเสียเหมือนบ่อนพนันทั่วไป แมลงเม่าไม่ควรฟูมฟาย เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องถอดรหัสอักษรย่อ ใครที่ยังฝันหวานให้ตลาดหุ้นไทยโปร่งใสไร้ราคี ไม่มีทุบ ไม่มีปั่น คนนั้นถ้าไม่ "สิเรียม" แอ๊บแบ๊ว ก็ "ลิเดีย" เลียดิ!!!

เดิมทีหรือเมื่อ 5-10 ปีก่อน ชื่อ "เสี่ยปู่-หมอยรรยง-เจ๊สี" ขึ้นชั้นเซียนในตลาดหุ้นไทย ทำมาหากินด้วยฝีมือ อาศัยความชำนาญเก็งกำไรหุ้นตามประสบการณ์ ไม่มีคนในรัฐบาลไหน "ไล่ที่" กระทั่ง "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจาก "เจ๊แดงร้อยชักสาม" น้องชายคนเดียวของตระกูล "ชินวัตร" ได้จับจองสัมปทานในตลาดหุ้น อำนาจและเงินที่ใหญ่กว่า 3 เซียนคนเก่าคนแก่ร้องจ้า จำใจต้องหลีกทาง หันไปเล่นหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ปลอดภัยกว่า หลบเลี่ยงการปะทะกับขาใหญ่รายใหม่ ขืนขวางทางอาจซวย ถูกห้ามเข้าบ่อนเอาง่ายๆ...

สไตล์กลุ่มพายัพ เป้าหมายคือหุ้นที่มีชื่อเสียง ถ้าฐานะแข็งแกร่งอยู่แล้ว ขอเป็นเจ้ามือ แต่ถ้าฐานะยังไม่ฟื้นจากวิกฤตต้มยำกุ้ง กลุ่มพายัพจะเข้าไปซื้อกิจการ จ่ายหนี้เสร็จสรรพ จากนั้นก็นำมาแต่งตัวใหม่ ใครคุ้นเคยคงจำหุ้น IEC ได้ เมื่อทำให้เห็นกำไรบ่อยๆ นักเล่นหุ้นพูดกันปากต่อปาก กระทั่งช่วงหลังๆ ถ้าอยากรวยให้เช็คข่าวหุ้นที่กลุ่มพายัพเข้า การลักไก่จึงเกิดขึ้น ซื้อแล้วปล่อยข่าว ต้นทุนต่ำกำไรสูง "เป็นน้องพี่แม้วซะ อย่างใครจะทำไม"!

วันนี้แม้เจ้าของบ่อนเปลี่ยน แต่พรรคประชาธิปัตย์เสียงข้างน้อย กลุ่มพายัพจึงก็ยังทรงอิทธิพล ท่ามการปล่อยข่าวลือโดยการผสมโรงของคนทรยศชาติผ่านเครือข่าย FIRST STATE INVESTMENTS (SINGAPORE) และสำนักข่าวบลูมเบิร์กออนไลน์ เมืองผู้ดี "ตีข่าวทุบหุ้น" คนกลุ่มนี้ทำกำไรจากการเทขายตั้งแต่ 770 จุด ก่อนลงไปช้อนซื้อที่ 670 จุด พุงปลิ้น พะยะคะ!!!