เริ่มแล้วมาตรการอารยะขัดขืน พนักงาน ททท.และลูกจ้างประกาศกร้าวไม่ร่วมมือจัดงานที่ไม่อยู่ในแผน ประเดิมที่งานราชพฤกษ์เชียงใหม่ แฉ เป็นงานที่สั่งด้วยปากเปล่า ไม่มีลายลักษณ์อักษร และต้องใช้งบจาก ททท.มากถึง 45 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าแผนดาวกระจาย วิ่งรถทั่วกรุงส่งหนังสือค้านมติบอร์ดอัปยศกับคณะกรรมการ ททท.ทุกหน่วยงาน
วานนี้ (14 ต.ค.) การนัดชุมนุมของพนักงานและลูกจ้างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อประกาศเจตนาอารยะขัดขืนกับฝ่ายการเมืองอันเนื่องมาจากปัญหามติบอร์ด ททท.เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งรองผู้ว่าการ ททท.โดยรายงานข่าวแจ้งว่า สารสำคัญของประกาศอารยะขัดขืนต่อบอร์ด ททท.นับจากนี้ไป คือ จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของบอร์ดททท.โดยให้เหตุผลว่า
ที่ผ่านมา บอร์ด ททท.ใช้อำนาจเกินขอบเขต และไม่ปฏิบัติตามนิติรัฐนิติธรรม ขาดคุณธรรมในการบริหารงานภายใต้อำนาจที่บอร์ด ททท.มีอยู่ จนเป็นเหตุให้พนักงานเห็นการไร้คุณธรรม ได้แก่ การปล่อยให้เกิดคำสั่งโยกย้าย ซึ่งถือเป็นมติอัปยศ และ พนักงาน ททท.ยังเห็นว่าบอร์ด ททท.สมควรพ้นจากตำแหน่ง
แหล่งข่าวซึ่งเป็นพนักงาน ททท.กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ด ททท.วันที่ 21 ต.ค.นี้ เราหวังว่าที่ประชุมจะมีการพิจารณายกเลิกมติอัปยศดังกล่าวออกไป ซึ่งพนักงาน ททท.ได้เริ่มมาตรการอารยะขัดขืนแล้ว โดยจะไม่ปฏิบัติงานที่ไม่อยู่ในแผนการทำงาน เช่น ล่าสุด มีคำสั่งด้วยวาจา แบบไม่มีลายลักษณ์อักษร ให้ ททท.ใช้งบประมาณ 45 ล้านบาท เพื่อจัดงานราชพฤกษ์ ที่ จ.เชียงใหม่ ใช้ช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้ เป็นต้น คำสั่งแบบนี้เราจะไม่ปฏิบัติตามเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการชุมนุมประกาศมาตรการอารยะขัดขืนแล้ว พนักงาน และลูกจ้าง ททท.ได้กระจายกันขึ้นรถตู้ 3 คัน ซึ่งเรียกว่ายุทธวิธีดาวกระจาย เพื่อไปยื่นหนังสือถึง นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานบอร์ด ททท.คนใหม่ และยื่นหนังสือถึงกรรมการในบอร์ด ททท.ทุกคนตามหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา รวม 14 คน นอกจากนั้น ยังเปิดรับความคิดเห็น โดยให้พนักงานและลูกจ้างของ ททท.เขียนแสดงความคิดเห็นติดที่กำแพงบริเวณห้องโถงภายในอาคารสำนักงาน ททท. ถ.เพชรบุรี ด้วย
อย่างไรก็ตาม สารสำคัญภายในหนังสือที่ยื่นต่อบอร์ด ททท.คือ ขอให้ยกเลิกมติบอร์ด ททท.เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2552 ที่สั่งโยกย้าย นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการ ททท.ไปเป็นที่ปรึกษาระดับ 11 เพราะเป็นมติที่มิชอบและขัดต่อหลักธรรมาภิบาล เนื่องจากปล่อยให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่บอร์ดเข้ามาชี้นำ และผู้นั้นยังไม่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ททท.อีกด้วย เป็นเหตุให้พนักงานและลูกจ้าง ททท.ยอมรับมติดังกล่าวนี้ไม่ได้ โดยประกาศขออารยะขัดขืนต่อมติดังกล่าว และพร้อมจะร่วมกับต่อต้านมตินี้ทุกวิถีทางจนกว่าจะบอร์ด ททท.จะมีมติยกเลิก
วานนี้ (14 ต.ค.) การนัดชุมนุมของพนักงานและลูกจ้างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อประกาศเจตนาอารยะขัดขืนกับฝ่ายการเมืองอันเนื่องมาจากปัญหามติบอร์ด ททท.เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งรองผู้ว่าการ ททท.โดยรายงานข่าวแจ้งว่า สารสำคัญของประกาศอารยะขัดขืนต่อบอร์ด ททท.นับจากนี้ไป คือ จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของบอร์ดททท.โดยให้เหตุผลว่า
ที่ผ่านมา บอร์ด ททท.ใช้อำนาจเกินขอบเขต และไม่ปฏิบัติตามนิติรัฐนิติธรรม ขาดคุณธรรมในการบริหารงานภายใต้อำนาจที่บอร์ด ททท.มีอยู่ จนเป็นเหตุให้พนักงานเห็นการไร้คุณธรรม ได้แก่ การปล่อยให้เกิดคำสั่งโยกย้าย ซึ่งถือเป็นมติอัปยศ และ พนักงาน ททท.ยังเห็นว่าบอร์ด ททท.สมควรพ้นจากตำแหน่ง
แหล่งข่าวซึ่งเป็นพนักงาน ททท.กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ด ททท.วันที่ 21 ต.ค.นี้ เราหวังว่าที่ประชุมจะมีการพิจารณายกเลิกมติอัปยศดังกล่าวออกไป ซึ่งพนักงาน ททท.ได้เริ่มมาตรการอารยะขัดขืนแล้ว โดยจะไม่ปฏิบัติงานที่ไม่อยู่ในแผนการทำงาน เช่น ล่าสุด มีคำสั่งด้วยวาจา แบบไม่มีลายลักษณ์อักษร ให้ ททท.ใช้งบประมาณ 45 ล้านบาท เพื่อจัดงานราชพฤกษ์ ที่ จ.เชียงใหม่ ใช้ช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้ เป็นต้น คำสั่งแบบนี้เราจะไม่ปฏิบัติตามเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการชุมนุมประกาศมาตรการอารยะขัดขืนแล้ว พนักงาน และลูกจ้าง ททท.ได้กระจายกันขึ้นรถตู้ 3 คัน ซึ่งเรียกว่ายุทธวิธีดาวกระจาย เพื่อไปยื่นหนังสือถึง นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานบอร์ด ททท.คนใหม่ และยื่นหนังสือถึงกรรมการในบอร์ด ททท.ทุกคนตามหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา รวม 14 คน นอกจากนั้น ยังเปิดรับความคิดเห็น โดยให้พนักงานและลูกจ้างของ ททท.เขียนแสดงความคิดเห็นติดที่กำแพงบริเวณห้องโถงภายในอาคารสำนักงาน ททท. ถ.เพชรบุรี ด้วย
อย่างไรก็ตาม สารสำคัญภายในหนังสือที่ยื่นต่อบอร์ด ททท.คือ ขอให้ยกเลิกมติบอร์ด ททท.เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2552 ที่สั่งโยกย้าย นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการ ททท.ไปเป็นที่ปรึกษาระดับ 11 เพราะเป็นมติที่มิชอบและขัดต่อหลักธรรมาภิบาล เนื่องจากปล่อยให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่บอร์ดเข้ามาชี้นำ และผู้นั้นยังไม่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ททท.อีกด้วย เป็นเหตุให้พนักงานและลูกจ้าง ททท.ยอมรับมติดังกล่าวนี้ไม่ได้ โดยประกาศขออารยะขัดขืนต่อมติดังกล่าว และพร้อมจะร่วมกับต่อต้านมตินี้ทุกวิถีทางจนกว่าจะบอร์ด ททท.จะมีมติยกเลิก
