ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาด กินเจปีนี้ ราคาผักขยับขึ้นกว่าปกติ 2 เท่าตัว โดยเฉพาะผักยอดนิยม คาดผู้บริโภคอาจลดปริมาณการเลือกซื้อผักแต่ละชนิดลงบ้าง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย “พาณิชย์” แจงต้นเหตุ เกิดจากน้ำท่วม เตรียมงัดมาตรการควบคุมราคา
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์แนวโน้มราคาผักในช่วงเทศกาลกินเจ โดยระบุว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติเกือบ 2 เท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า ผักบุ้งจีน ผักกวางตุ้ง ผักกาดหอม และกะหล่ำปลี ซึ่งเป็นผักที่นิยมรับประทาน เนื่องจากในช่วงที่ใกล้จะถึงเทศกาลกินเจ หลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกผักที่สำคัญประสบปัญหาน้ำท่วม และคาดว่า จะยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผักปรับตัวสูงขึ้นและในบางพื้นที่ก็เกิดปัญหาผักขาดตลาด
อย่างไรก็ตาม แม้เทศกาลกินเจปีนี้จะเผชิญกับปัญหาราคาผักแพง ขณะที่ภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความเปราะบาง ซึ่งปัจจัยทั้งสองน่าจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่คาดว่าความต้องการบริโภคผักในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ น่าจะไม่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยผู้บริโภคอาจจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการลดปริมาณการซื้อผักแต่ละชนิดลงบ้าง เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งเลือกซื้อเฉพาะผักที่จำเป็น หรือซื้อเฉพาะการรับประทานแต่ละครั้งเท่านั้น ในส่วนภาครัฐควรเข้ามาดูแลและติดตามความเคลื่อนไหวของราคาผักในช่วงเทศกาลนี้ เพื่อไม่ให้ผู้ค้าผักเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
ด้าน นายยรรยง พวงราช รักษาการปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนำคณะออกตรวจสอบราคาวัตถุดิบอาหารเจย่านเยาวราช โดยระบุว่า ส่วนใหญ่โดยเฉพาะแป้งมีราคาลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาร้อยละ 10-20 ขณะที่ผักสดบางชนิดปรับตัวสูงขึ้นจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง ส่วนผลไม้ เช่น ส้มเขียวหวาน มีแนวโน้มสูงขึ้น
นายยรรยง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 18-26 ตุลาคม 2552 นี้ เชื่อว่า ประชาชนคงสามารถเลือกซื้ออาหารเจในราคาไม่แพงกว่าปีที่แล้ว และเพื่อต้องสนองความต้องการผู้ที่หันมาบริโภคอาหารเจในช่วงนี้ กรมการค้าภายในร่วมกับตลาดสดส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนำอาหารเจไปจำหน่ายในตลาดสดต่างๆ ราคาถูก รวมทั้งร่วมกับห้างบิ๊กซี ที่มี 38 สาขาทั่วประเทศจัดมุมอาหารเจตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และอยู่ระหว่างหารือกับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อจัดมุมจำหน่ายอาหารเจเช่นกัน
ทั้งนี้ รักษาการอธิบดีกรมการค้าภายใน เตรียมดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ เพราะขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังจำเป็นต้องดูแลรายการสินค้าต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้ออย่างเป็นธรรม
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์แนวโน้มราคาผักในช่วงเทศกาลกินเจ โดยระบุว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติเกือบ 2 เท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า ผักบุ้งจีน ผักกวางตุ้ง ผักกาดหอม และกะหล่ำปลี ซึ่งเป็นผักที่นิยมรับประทาน เนื่องจากในช่วงที่ใกล้จะถึงเทศกาลกินเจ หลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกผักที่สำคัญประสบปัญหาน้ำท่วม และคาดว่า จะยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผักปรับตัวสูงขึ้นและในบางพื้นที่ก็เกิดปัญหาผักขาดตลาด
อย่างไรก็ตาม แม้เทศกาลกินเจปีนี้จะเผชิญกับปัญหาราคาผักแพง ขณะที่ภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความเปราะบาง ซึ่งปัจจัยทั้งสองน่าจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่คาดว่าความต้องการบริโภคผักในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ น่าจะไม่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยผู้บริโภคอาจจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการลดปริมาณการซื้อผักแต่ละชนิดลงบ้าง เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งเลือกซื้อเฉพาะผักที่จำเป็น หรือซื้อเฉพาะการรับประทานแต่ละครั้งเท่านั้น ในส่วนภาครัฐควรเข้ามาดูแลและติดตามความเคลื่อนไหวของราคาผักในช่วงเทศกาลนี้ เพื่อไม่ให้ผู้ค้าผักเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
ด้าน นายยรรยง พวงราช รักษาการปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนำคณะออกตรวจสอบราคาวัตถุดิบอาหารเจย่านเยาวราช โดยระบุว่า ส่วนใหญ่โดยเฉพาะแป้งมีราคาลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาร้อยละ 10-20 ขณะที่ผักสดบางชนิดปรับตัวสูงขึ้นจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง ส่วนผลไม้ เช่น ส้มเขียวหวาน มีแนวโน้มสูงขึ้น
นายยรรยง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 18-26 ตุลาคม 2552 นี้ เชื่อว่า ประชาชนคงสามารถเลือกซื้ออาหารเจในราคาไม่แพงกว่าปีที่แล้ว และเพื่อต้องสนองความต้องการผู้ที่หันมาบริโภคอาหารเจในช่วงนี้ กรมการค้าภายในร่วมกับตลาดสดส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนำอาหารเจไปจำหน่ายในตลาดสดต่างๆ ราคาถูก รวมทั้งร่วมกับห้างบิ๊กซี ที่มี 38 สาขาทั่วประเทศจัดมุมอาหารเจตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และอยู่ระหว่างหารือกับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อจัดมุมจำหน่ายอาหารเจเช่นกัน
ทั้งนี้ รักษาการอธิบดีกรมการค้าภายใน เตรียมดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ เพราะขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังจำเป็นต้องดูแลรายการสินค้าต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้ออย่างเป็นธรรม