แบรนด์รังนก โอด5ปีราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น กระทบต้นทุนพุ่ง สบช่องปรับโฉมใหม่เพิ่มปริมาณ 30% ขยับราคาเพิ่มขึ้นกว่า 6 บาท ทุ่ม 50 ล้านบาท อัดภาพยนตร์โฆษณา 2 ชุด โหมการสื่อสารตอกย้ำรังนกจากถ้ำสกัดผู้บริโภคดื่มรังนกราคาถูก พร้อมเปิดตัวแอมบาสเดอร์คู่รักอ้อม-อาท เสริมจุดแข็งตำแหน่งตลาด สิ้นปีกวาดแชร์ 65% ลั่นปีหน้าตลาดเสริมอาหารคึกคักรับเศรษฐกิจฟื้น
นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์รังนกสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ในช่วง 5ปีที่ผ่านมา ต้นทุนการผลิตรังนกสำเร็จรูปปรับเพิ่มขึ้น 20-30% จากราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่อง ทำให้ล่าสุดบริษัทได้ปรับสูตรแบรนด์รังนกใหม่ และเพิ่มปริมาณรังนกแห้ง 1.1% เป็น 1.4% หรือคิดเป็น 30% พร้อมกับการปรับราคาแบรนด์รังนกขนาด 70 มล.เพิ่มขึ่น 5% หรือกว่า 6 บาท จากปกติขนาดเดิม 70 มล. ราคา 129บาท เพิ่มเป็นกว่า 135 บาท ซึ่งนับว่าเป็นการปรับราคาในรอบ 5-7 ปี สำหรับแบรนด์รังนก
ด้านแผนการตลาดบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 ชุด คือ ชุดแรกเรื่องมหัศจรรย์รังนกแท้ มุ่งเน้นการสื่อสารเป็นรังนกจากถ้ำ และผ่านเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง มีกระบวนการผลิต 149 ขั้นตอน เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์รังนกเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีความเป็นพรีเมียม จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารังนกจากบ้านเข้ามาทำตลาดและทำลายภาพลักษณ์รังนกสำเร็จรูป นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมีความสับสนเกี่ยวกับรังนกจากบ้านและถ้ำ
นอกจากนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นตอกย้ำตำแหน่งสินค้าในเรื่อง”เติมเต็มคุณค่าแห่งรัก”ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากการที่ใช้แนวคิดดังกล่าวมากว่า 3 ปี โดยส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดที่ 2 เรื่องเดอะ เบสท์ ฟอร์ เฮอร์ มุ่งเน้นการสื่อสารถึงความรักและความห่วงใย ด้วยการนำคู่รักอ้อม-พิยดา อัครเศรณี และอาท-ศรา จุฑารัตนกุล มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และสร้างโอกาสการดื่มเพื่อแสดงถึงความห่วงใยต่อสุขภาพ โดยไม่ต้องรอให้ถึงโอกาสพิเศษ
“ปรับราคาและเพิ่มปริมาณ ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดในครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นจะไม่กระทบต่อกำลังการซื้อของกลุ่มเป้าหมาย แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจขณะนี้จะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก อีกทั้งยังสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพและต้องมั่นใจกับตราสินค้า จากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ผู้บริโภคไม่ซื้อสินค้าที่เสี่ยงหรือไม่มีความมั่นใจ”
ภาพรวมตลาดรังนกสำเร็จรูปมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% โดยแบรนด์รังนกเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 64% และคาดว่าสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 65% ส่วนที่เหลือ 35% เป็น สก็อต รังนก อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้านี้จะฟื้นดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลับมามีอัตราการเติบโตดีขึ้น จากปกติในภาวะเศรษฐกิจดี ยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัท อาทิ ซุปไก่สกัด วีต้า และรังนก เติบโต 20% แต่ปีนี้ยอดขายเติบโต 10-15% ซึ่งบริษัทคาดว่ายอดขายปีหน้าเติบโต 20%
นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์รังนกสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ในช่วง 5ปีที่ผ่านมา ต้นทุนการผลิตรังนกสำเร็จรูปปรับเพิ่มขึ้น 20-30% จากราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่อง ทำให้ล่าสุดบริษัทได้ปรับสูตรแบรนด์รังนกใหม่ และเพิ่มปริมาณรังนกแห้ง 1.1% เป็น 1.4% หรือคิดเป็น 30% พร้อมกับการปรับราคาแบรนด์รังนกขนาด 70 มล.เพิ่มขึ่น 5% หรือกว่า 6 บาท จากปกติขนาดเดิม 70 มล. ราคา 129บาท เพิ่มเป็นกว่า 135 บาท ซึ่งนับว่าเป็นการปรับราคาในรอบ 5-7 ปี สำหรับแบรนด์รังนก
ด้านแผนการตลาดบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 ชุด คือ ชุดแรกเรื่องมหัศจรรย์รังนกแท้ มุ่งเน้นการสื่อสารเป็นรังนกจากถ้ำ และผ่านเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง มีกระบวนการผลิต 149 ขั้นตอน เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์รังนกเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีความเป็นพรีเมียม จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารังนกจากบ้านเข้ามาทำตลาดและทำลายภาพลักษณ์รังนกสำเร็จรูป นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมีความสับสนเกี่ยวกับรังนกจากบ้านและถ้ำ
นอกจากนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นตอกย้ำตำแหน่งสินค้าในเรื่อง”เติมเต็มคุณค่าแห่งรัก”ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากการที่ใช้แนวคิดดังกล่าวมากว่า 3 ปี โดยส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดที่ 2 เรื่องเดอะ เบสท์ ฟอร์ เฮอร์ มุ่งเน้นการสื่อสารถึงความรักและความห่วงใย ด้วยการนำคู่รักอ้อม-พิยดา อัครเศรณี และอาท-ศรา จุฑารัตนกุล มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และสร้างโอกาสการดื่มเพื่อแสดงถึงความห่วงใยต่อสุขภาพ โดยไม่ต้องรอให้ถึงโอกาสพิเศษ
“ปรับราคาและเพิ่มปริมาณ ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดในครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นจะไม่กระทบต่อกำลังการซื้อของกลุ่มเป้าหมาย แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจขณะนี้จะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก อีกทั้งยังสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพและต้องมั่นใจกับตราสินค้า จากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ผู้บริโภคไม่ซื้อสินค้าที่เสี่ยงหรือไม่มีความมั่นใจ”
ภาพรวมตลาดรังนกสำเร็จรูปมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% โดยแบรนด์รังนกเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 64% และคาดว่าสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 65% ส่วนที่เหลือ 35% เป็น สก็อต รังนก อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้านี้จะฟื้นดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลับมามีอัตราการเติบโตดีขึ้น จากปกติในภาวะเศรษฐกิจดี ยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัท อาทิ ซุปไก่สกัด วีต้า และรังนก เติบโต 20% แต่ปีนี้ยอดขายเติบโต 10-15% ซึ่งบริษัทคาดว่ายอดขายปีหน้าเติบโต 20%