ศูนย์ข่าวศรีราชา - “เซเรบอส” ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหารเสริมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เดินหน้าขยายกำลังผลิตสินค้าในเครือ พร้อมเพิ่มกำลังผลิตฝาแบรนด์ รับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจปีหน้า ทุ่มเม็ดเงินถึง 2,450 ล้านบาท พัฒนาโรงงานผลิตเดิมในนิคมฯ แหลมฉบัง และเปิดโรงงานใหม่อีก 2 แห่งในนิคมฯปิ่นทอง ชี้อนาคตตลาดอาหารเสริมทั้งในและต่างประเทศยังสดใส
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เผยว่าจากความสำเร็จของการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์พร้อมกันทั่วโลก และจากการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยจากประเทศเยอรมนี นอกจากจะทำให้แบรนด์เป็นผู้ผลิตเจ้าแรกของโลกที่ใช้ฝาปิดขวดที่มีคุณสมบัติพิเศษแบบ Triplesafety เท่านั้น
ผลประกอบการโดยรวมในปีที่ผ่านๆ มาของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบริษัท เซเรบอส ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ซุปไก่สกัด แบรนด์รังนกแท้ แบรนด์วีต้าและแบรนด์อาหารเสริมแบบเม็ดยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่อยู่ในช่วงชะลอตัว อีกทั้งยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดทางด้านอาหารเสริมทั้งในประเทศและประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกมาโดยตลอด
จากการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมองเห็นช่องว่างและโอกาสทางธุรกิจในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งความมั่นใจต่อสภาวะเศรษฐกิจของไทย ที่คาดว่าจะฟื้นตัวในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทำให้บริษัทได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 2,450 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตเดิมซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เป็นเงินจำนวน 730 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังจะสร้างโรงงานใหม่อีก 2 แห่งบนเนื้อที่ 38 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี คือโรงงาน บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผลิตแบรนด์รังนกแท้และแบรนด์วีต้า ภายใต้งบลงทุน 1,220 ล้านบาท ที่เหลืออีก 500 ล้านบาท ใช้ในการก่อสร้างโรงงาน บริษัท แบรนด์ (1835) จำกัด เพื่อผลิตฝาแบรนด์
“การพัฒนาและสร้างโรงงานแห่งใหม่ จะทำให้เซเรบอสฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์แบรนด์เป็นสามเท่าตัว ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายในการทำตลาดของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายตลาดให้มากขึ้นทั้งในส่วนของตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ”
สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ เซเรบอสฯ ให้ความสำคัญต่อการลงทุนในเรื่องเครื่องจักรใหม่ที่มีคุณภาพและมีความแม่นยำในการผลิต ด้วยการใช้เทคโนโลยีควบคุมที่ทันสมัยทั้งหมด และการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ยังจะก่อให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่อีกไม่น้อยกว่า 500 คน
ปัจจุบันแบรนด์ซุปไก่สกัด บริษัทยังคงเป็นหัวหอกในการทำตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 90% ของมูลค่าตลาดรวม 3 พันล้านบาท ขณะที่แบรนด์รังนกแท้ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่กว่า 60% ของมูลค่าตลาดรวม 2.5 พันล้านบาท และแบรนด์วีต้า ที่กล่าวได้ว่าแบรนด์เป็นผู้บุกเบิกตลาดน้ำผลไม้สกัดเข้มข้นเพียงเจ้าเดียวในขณะนี้