รองเท้าลำลอง “เจอ็อกซ์” มั่นใจฝ่าเศรษฐกิจโลก โกยยอดขาย 20 ล้านคู่ได้แน่ เผยเอเชียแปซิฟิก การเติบโตสูงสุดปีนี้คาดเติบโต 5% ปีหน้าเพิ่มเป็น 10% หลังยอดขายในอเมริกาซบเซา ส่วนไทย เจอพิษเศรษฐกิจเล่นงานช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลปรับรายได้โตเหลือ 5-10% หลัง 8 เดือนทำได้ 3% แต่ยังมั่นใจไตรมาสสี่ ยอดขายต้องดี จะช่วยดันยอดขายเป็นไปตามแผนที่วางไว้
นายมาริโอ โมเรตติ โพลีกาโต้ ประธาน เจอ็อกซ์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้าลำลองแบรนด์ เจอ็อกซ์ (GEOX) จากประเทศอิตาลี และเป็นแบรนด์อันดับ 2 ของโลก รองจาก Clarks เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายเจอ็อกซ์ในระดับโลกปีนี้ เชื่อว่ายังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ กับจำนวนยอดขายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคู่ทั่วโลก ทั้งนี้มองว่าเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกประเทศย่อมได้รับผลกระทบกันหมด
ในส่วนของเจอ็อกซ์ ก็ได้รับผลกระทบในแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ถือว่าโดนกระทบมากที่สุด เหตุลูกค้าไม่ออกมาใช้จ่ายเงิน ห้างสรรพสินค้าคนซบเซา ขณะที่ในอิตาลี ยอดขายยังดีอยู่ เช่นเดียวกับในเอเชีย ซึ่งเป็นโซนที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายดีที่สุด ถึงแม้จะมียอดขายที่ 3% ของจำนวนรองเท้าที่ขายได้ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่มองว่าสิ้นปีนี้ จะมีการเติบโต 5% ส่วนในปีหน้าน่าจะทำได้ 10%
ทั้งนี้รายได้รวมทั่วโลกในครึ่งปีแรกนี้ สามารถทำได้ถึง 482.9 ล้านเหรียญยูโร เติบโตขึ้น 4% เทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 464.1 ล้านเหรียญยูโร แบ่งเป็นยอดขายจากอิตาลี 36.6%, ยุโรป 48.1%, อเมริกาเหนือ 5.1% และในประเทศอื่นๆรวมกันอีก 10.2% หรือคิดได้อีกว่า ยอดขายจากในประเทศอิตาลีมีกว่า 40% ที่เหลือมาจากนอกประเทศอิตาลีรวมกัน 60%
โดยมองว่าตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิกถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตดีที่สุด โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งในกลุ่มเจอ็อกซ์ ได้มีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในประเทศจีน ในการทำการตลาดและขยายช่องทางจำหน่ายของเจอ็อกซ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีร้านเจอ็อกซ์ในจีนไม่ต่ำกว่า 120 ร้าน ไม่รวมพื้นที่ขายในห้างสรรพสินค้า
ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่เข้ามาทำตลาดในแถบนี้ เมื่อสิบกว่าปีก่อน ปัจจุบัน ทำรายได้เป็นอันดับ 6 ในเอเชียแปซิฟิก จากปัจจุบันเจอ็อกซ์มีจำหน่ายในไทย จีน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และอีกในหลายๆประเทศ
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจของเจอ็อกซ์ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะมุ่งเน้นในเรื่องการปรับวางโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ให้ขึ้นไปอยู่ในระดับกลางถึงบนมากยิ่งขึ้น กับการเข้าถึงช่องทางขายในกลุ่มห้างสรรพสินค้าให้มากที่สุด จากปัจจุบันมีร้านเจอ็อกซ์ทั่วโลกกว่า 1,002 สาขา
นายพิชิต จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเอ ฟุตแวร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของเจอ็อกซ์ในประเทศไทย จากการที่เอเอฯเป็นผู้จัดจำหน่ายให้นั้น ปีนี้ได้มีการขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ เซ็นทรัลพัทยา, สยามดิสคัฟเวอรี่ และพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต ภูเก็ต ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 12 สาขา และ 29 เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า ร้านแบบมัลติแบรนด์ 10 สาขา และเอาท์เล็ต 2 สาขา รวมแล้วมีทั้งหมด 52 จุดขายทั่วประเทศ
โดยในส่วนยอดขายตั้งเป้าเติบโต 10% เทียบจากปีก่อน คาดว่าจะสามารถทำได้ ถึงแม้ว่าจะต้องมีการปรับลดเป้าลงมาเหลือที่ 5-10% ก็ตาม จากภาพรวมยอดขายในช่วง 8 เดือน ที่ผ่านมาเติบโตเพียง3% เท่านั้น ขณะที่ 4 เดือนแรกโต 10% แต่เนื่องจากในไตรมาสสี่เป็นช่วงไฮซีซั่น และเป็นช่วงการขายที่มีการออกคอลเลกชั่นใหม่ เชื่อว่าจะกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าได้
นายมาริโอ โมเรตติ โพลีกาโต้ ประธาน เจอ็อกซ์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้าลำลองแบรนด์ เจอ็อกซ์ (GEOX) จากประเทศอิตาลี และเป็นแบรนด์อันดับ 2 ของโลก รองจาก Clarks เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายเจอ็อกซ์ในระดับโลกปีนี้ เชื่อว่ายังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ กับจำนวนยอดขายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคู่ทั่วโลก ทั้งนี้มองว่าเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกประเทศย่อมได้รับผลกระทบกันหมด
ในส่วนของเจอ็อกซ์ ก็ได้รับผลกระทบในแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ถือว่าโดนกระทบมากที่สุด เหตุลูกค้าไม่ออกมาใช้จ่ายเงิน ห้างสรรพสินค้าคนซบเซา ขณะที่ในอิตาลี ยอดขายยังดีอยู่ เช่นเดียวกับในเอเชีย ซึ่งเป็นโซนที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายดีที่สุด ถึงแม้จะมียอดขายที่ 3% ของจำนวนรองเท้าที่ขายได้ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่มองว่าสิ้นปีนี้ จะมีการเติบโต 5% ส่วนในปีหน้าน่าจะทำได้ 10%
ทั้งนี้รายได้รวมทั่วโลกในครึ่งปีแรกนี้ สามารถทำได้ถึง 482.9 ล้านเหรียญยูโร เติบโตขึ้น 4% เทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 464.1 ล้านเหรียญยูโร แบ่งเป็นยอดขายจากอิตาลี 36.6%, ยุโรป 48.1%, อเมริกาเหนือ 5.1% และในประเทศอื่นๆรวมกันอีก 10.2% หรือคิดได้อีกว่า ยอดขายจากในประเทศอิตาลีมีกว่า 40% ที่เหลือมาจากนอกประเทศอิตาลีรวมกัน 60%
โดยมองว่าตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิกถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตดีที่สุด โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งในกลุ่มเจอ็อกซ์ ได้มีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในประเทศจีน ในการทำการตลาดและขยายช่องทางจำหน่ายของเจอ็อกซ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีร้านเจอ็อกซ์ในจีนไม่ต่ำกว่า 120 ร้าน ไม่รวมพื้นที่ขายในห้างสรรพสินค้า
ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่เข้ามาทำตลาดในแถบนี้ เมื่อสิบกว่าปีก่อน ปัจจุบัน ทำรายได้เป็นอันดับ 6 ในเอเชียแปซิฟิก จากปัจจุบันเจอ็อกซ์มีจำหน่ายในไทย จีน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และอีกในหลายๆประเทศ
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจของเจอ็อกซ์ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะมุ่งเน้นในเรื่องการปรับวางโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ให้ขึ้นไปอยู่ในระดับกลางถึงบนมากยิ่งขึ้น กับการเข้าถึงช่องทางขายในกลุ่มห้างสรรพสินค้าให้มากที่สุด จากปัจจุบันมีร้านเจอ็อกซ์ทั่วโลกกว่า 1,002 สาขา
นายพิชิต จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเอ ฟุตแวร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของเจอ็อกซ์ในประเทศไทย จากการที่เอเอฯเป็นผู้จัดจำหน่ายให้นั้น ปีนี้ได้มีการขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ เซ็นทรัลพัทยา, สยามดิสคัฟเวอรี่ และพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต ภูเก็ต ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 12 สาขา และ 29 เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า ร้านแบบมัลติแบรนด์ 10 สาขา และเอาท์เล็ต 2 สาขา รวมแล้วมีทั้งหมด 52 จุดขายทั่วประเทศ
โดยในส่วนยอดขายตั้งเป้าเติบโต 10% เทียบจากปีก่อน คาดว่าจะสามารถทำได้ ถึงแม้ว่าจะต้องมีการปรับลดเป้าลงมาเหลือที่ 5-10% ก็ตาม จากภาพรวมยอดขายในช่วง 8 เดือน ที่ผ่านมาเติบโตเพียง3% เท่านั้น ขณะที่ 4 เดือนแรกโต 10% แต่เนื่องจากในไตรมาสสี่เป็นช่วงไฮซีซั่น และเป็นช่วงการขายที่มีการออกคอลเลกชั่นใหม่ เชื่อว่าจะกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าได้
