xs
xsm
sm
md
lg

ทาทาต่อยอดลงทุน ปั้นปิกอัพ-อีโคคาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค่ายรถยักษ์แดนภารตะ “ทาทา” ประกาศพร้อมลงทุนเพิ่มในไทย เพื่อต่อยอดปิกอัพให้มีหลากหลายแบบ คาดว่า จะเริ่มเห็นชัดเจนปลายปีนี้เป็นต้นไป รวมถึงเก๋งขนาดเล็กกลุ่มเอและบีเซกเมนต์ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะอีโคคาร์ไม่เปลี่ยนแผน เดินหน้าทุ่ม 7,000 ล้านบาท ผลิตรถสู่ตลาดภายในปี 2555 แน่นอน เผยยอดขายในไทยครบรอบ 1 ปี เพิ่มต่อเนื่อง มั่นใจใน 5 ปี กวาดแชร์ตลาดปิกอัพ 5%

นายอาจิต เวนคาทารมัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้ตลาดรถยนต์ไทยจะชะลอตัวลงมาก แต่ทาทายังคงให้ความสำคัญกับประเทศไทย โดยเลือกให้เป็นฐานผลิตแห่งเดียวของทาทาในภูมิภาคอาเซียน และจะมีการเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลา 4-5 ปีจากนี้ไป ทั้งรองรับตลาดในไทยและส่งออกด้วย

“เราได้มีการศึกษาและมองแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในภูมิภาคนี้อยู่ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด โดยเฉพาะการต่อยอดปิกอัพที่ผลิตในไทยปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกหลากหลายให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะเริ่มเห็นชัดเจนในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป”

ขณะที่แนวโน้มของตลาดปิกอัพที่ชะลอตัวลง ทาทาพอเห็นทิศทางดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าจะลงมากน้อยเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นปิกอัพก็ยังจะเป็นตลาดสำคัญในไทย และมีรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง เข้ามาช่วยผลักดันให้ตลาดรถยนต์ไทยเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเอและบีเซกเม้นท์ ซึ่งเมืองไทยก็มีรถยนต์ประเภทนี้อยู่แล้ว รวมถึงอีโคคาร์ที่จะเริ่มแนะนำสู่ตลาดตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

นายอาจิต กล่าวว่า ทาทากำลังศึกษาแนวโน้มตลาดอย่างจริงจัง เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็กเหล่านี้ ซึ่งทาทาพร้อมที่จะใช้ไทยเป็นฐานผลิต ไม่ใช่เพียงอีโคคาร์ที่ได้มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะแนะนำสู่ตลาดไทย ภายในปี 2555 ตามเงื่อนไขของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI)

“ทาทาพร้อมลงทุนในไทย เพื่อผลิตรถให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้า ทั้งต่อยอดปิกอัพที่ผลิตในไทยปัจจุบัน และรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ๆ นอกจากโครงการอีโคคาร์ ที่ขอยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแปลงแผนแน่นอน โดยจะเดินหน้าลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาทต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังสำรวจหาสถานที่เหมาะสม เพื่อตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่อยู่”

สำหรับการเปิดเสรีการค้าตามกรอบข้อตกลงของอาเซียน หรืออาฟตา (AFTA) เชื่อว่า จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่งจะได้เปรียบมาก และไม่เพียงอาฟตา กรอบเสรีการค้าอาเซียน-อินเดีย ที่เพิ่งลงนามไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จะช่วยส่งเสริมให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ดีขึ้นเช่นกัน

นายอาจิต กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ทาทาในไทยปัจจุบัน ซึ่งเข้ามาทำตลาดในไทยครบ 1 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้จะมียอดขายไม่ได้สูงมากนัก แต่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายเริ่มต้นเดือนละ 40 คัน ปัจจุบันมากกว่า 100 คัน และคาดว่า ถึงสิ้นปีจะเพิ่มเป็นเดือนละ 200 คัน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการแนะนำรถยนต์ ที่พัฒนาขึ้นมาจากการสอบถามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

“ทาทาเป็นปิกอัพรายเดียว ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.2 ลิตร และปิกอัพเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือเอ็นจีวีแบบเดี่ยว จึงช่วยลดต้นทุนเรื่องพลังงานให้กับลูกค้า แต่มีสมรรถนะและขุมกำลังตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี และล่าสุดเปิดตัวซีนอน ไจแอนท์ ปิกอัพพื้นเรียบตอนเดียว ที่มีพื้นที่บรรทุกขนาดใหญ่ โดยปลายปีนี้จะเปิดตัวรุ่นไจแอนท์ ซีเอ็นจี มาเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายให้บรรลุตามเป้าหมาย และเชื่อมั่นว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ทาทามีส่วนแบ่งตลาด หรือแชร์ 5% ของตลาดปิกอัพในไทย”

ทั้งนี้ หลักการดำเนินงานของทาทา มุ่งหลักสำคัญที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้สอดคล้องและตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนย่อมทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และต้องทำให้ดีลเลอร์มีกำไร สิ่งเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วจะทำให้ปริมาณยอดขายเพิ่มตามมาเอง และทาทาจะไม่โหมไปที่การจัดแคมเปญ หรือปูพรมขยายดีลเลอร์ แต่จะมองหาพันธมิตรและลูกค้าที่ดี เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง เมื่อทุกอย่างไปได้ดีที่สุดดีลเลอร์จะมาขอขยายเครือข่ายเอง และขณะนี้ดีลเลอร์เข้ามาขอเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ 4-5 รายแล้ว โดยปัจจุบันทาทามีดีลเลอร์ 33 ราย 40 โชว์รูมทั่วประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น