สปาย ฯ ชี้ ตลาดอาร์ทีดีรับอานิสงส์เศรษฐกิจซบ คอน้ำเมาปรับตัวซื้อสินค้าราคาถูกดื่ม ต่างจังหวัดแห่ซดดันตลาดโตพรวด 5% ต้อนรับไฮซีซั่นระเบิดแคมเปญ “สปายเกิร์ล 2009” จูงใจกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง สิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์ 85% จากตลาด 1,200 ล้านบาท ส่วนอาร์ทีดีผสมน้ำผลไม้ซบ “ไนท์-ครุยเซอร์” เลิกทำตลาด
แหล่งข่าวจากบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มสปาย ไวน์ คูลเลอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มหรืออาร์ทีดี มูลค่า 2,000 ล้านบาท ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโต 5% ซึ่งถือว่าดีมาก ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาถูก เพื่อให้สอดรับกับกำลังการซื้อที่ชะลอตัวลง โดยนอกจากไวน์ คูลเลอร์จะเติบโตแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เซกเมนต์อีโคโนก็มีการเติบโตที่ดี
“แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม ไวน์ คูลเลอร์ วางราคาไม่สูงมากนัก สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด พบว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคซื้อผ่านทางช่องทางโมเดิร์นเทรด และนำไปดื่มที่บ้านเป็นหลัก”
ทั้งนี้พบว่า เซกเมนต์ไวน์ คูลเลอร์ มูลค่า 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ของตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มมูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโต เพราะราคาสินค้าถูกและไล่เลี่ยเบียร์ หลังจากก่อนหน้านี้ภาครัฐได้ปรับภาษีเหล้า เบียร์ บรั่นดี เพิ่มขึ้น 7-9% เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มเซกเมนต์มีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม มูลค่า 800 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ตลาดเติบโต 1-2%
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม กล่าวว่า สภาพตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มชนิดมีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม ย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2544 กระทั่งปี 2548 ตลาดอาร์ทีดีหดตัวลง จากเมื่อปี 2544 บาคาร์ดี้ เป็นผู้ประกอบการรายแรกที่เปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาด มูลค่าตลาดปีแรกพุ่งถึง 400 ล้านบาท ปี 2545 เพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท จากการมีผู้เล่นในตลาด ถึง 10 ราย และปี 2546 ตลาดหดตัวลงเหลือ 1,200 ล้านบาท และปี 2547 เหลือ 1,000 ล้านบาท สำหรับปี 2548 คาดว่ามูลค่าตลาดจะเหลือ 850 ล้านบาท หรือหดตัวลงถึง 15%
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มมีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม พบว่า ยี่ห้อไนท์ ครุยเซอร์ จากบริษัททิส เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (1997) จำกัด ได้เลิกทำตลาดไปแล้ว โดยปัจจุบันเหลือเพียง บาร์คาดี้ บรีซเซอร์ ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60-65% ซึ่งการทำตลาดในขณะนี้มุ่งเน้นการประคองตัวเป็นหลัก จากปัจจุบันมีด้วยกัน 5 รสชาติ โดยไม่มีแผนจะเพิ่มรสชาติใหม่ และคู่แข่งที่เหลือ คือ สเมอร์นอฟ กับ สปาย ค็อกเทล
แหล่งข่าวบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด กล่าวว่า แผนการตลาดในช่วงปลายปีนี้ บริษัทเปิดตัวแคมเปญ”สปายเกิร์ล 2009” เฟ้นหาบรรดาสาวสวยมากความสามารถจากทั่วประเทศเข้ามาสมัครชิงตำแหน่ง “สปายเกิร์ล” โดยผู้ได้รับรางวัลจะร่วมปฏิบัติภารกิจสำคัญโดยเป็นตัวแทนของ บริษัท สยาม ไวเนอรี่ และเครื่องดื่มสปายในการเผยแพร่ความรู้และคุณประโยชน์เกี่ยวกับไวน์ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับผู้บริโภคในการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ
ทั้งนี้การรุกเปิดตัวแคมเปญสปายเกิร์ล เพื่อรักษาฐานลูกค้าเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก ขณะที่กลุ่มผู้ชายมีฐานลูกค้าไม่มากนัก ขณะเดียวกันยังเป็นการตอกย้ำผู้นำตลาดครองส่วนนบ่ง 85% จากมูลค่าตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มในเซกเมนต์ที่มีไวน์เผสมเป็นหลัก 1,200 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มสปาย ไวน์ คูลเลอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มหรืออาร์ทีดี มูลค่า 2,000 ล้านบาท ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโต 5% ซึ่งถือว่าดีมาก ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาถูก เพื่อให้สอดรับกับกำลังการซื้อที่ชะลอตัวลง โดยนอกจากไวน์ คูลเลอร์จะเติบโตแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เซกเมนต์อีโคโนก็มีการเติบโตที่ดี
“แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม ไวน์ คูลเลอร์ วางราคาไม่สูงมากนัก สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด พบว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคซื้อผ่านทางช่องทางโมเดิร์นเทรด และนำไปดื่มที่บ้านเป็นหลัก”
ทั้งนี้พบว่า เซกเมนต์ไวน์ คูลเลอร์ มูลค่า 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ของตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มมูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโต เพราะราคาสินค้าถูกและไล่เลี่ยเบียร์ หลังจากก่อนหน้านี้ภาครัฐได้ปรับภาษีเหล้า เบียร์ บรั่นดี เพิ่มขึ้น 7-9% เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มเซกเมนต์มีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม มูลค่า 800 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ตลาดเติบโต 1-2%
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม กล่าวว่า สภาพตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มชนิดมีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม ย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2544 กระทั่งปี 2548 ตลาดอาร์ทีดีหดตัวลง จากเมื่อปี 2544 บาคาร์ดี้ เป็นผู้ประกอบการรายแรกที่เปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาด มูลค่าตลาดปีแรกพุ่งถึง 400 ล้านบาท ปี 2545 เพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท จากการมีผู้เล่นในตลาด ถึง 10 ราย และปี 2546 ตลาดหดตัวลงเหลือ 1,200 ล้านบาท และปี 2547 เหลือ 1,000 ล้านบาท สำหรับปี 2548 คาดว่ามูลค่าตลาดจะเหลือ 850 ล้านบาท หรือหดตัวลงถึง 15%
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มมีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม พบว่า ยี่ห้อไนท์ ครุยเซอร์ จากบริษัททิส เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (1997) จำกัด ได้เลิกทำตลาดไปแล้ว โดยปัจจุบันเหลือเพียง บาร์คาดี้ บรีซเซอร์ ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60-65% ซึ่งการทำตลาดในขณะนี้มุ่งเน้นการประคองตัวเป็นหลัก จากปัจจุบันมีด้วยกัน 5 รสชาติ โดยไม่มีแผนจะเพิ่มรสชาติใหม่ และคู่แข่งที่เหลือ คือ สเมอร์นอฟ กับ สปาย ค็อกเทล
แหล่งข่าวบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด กล่าวว่า แผนการตลาดในช่วงปลายปีนี้ บริษัทเปิดตัวแคมเปญ”สปายเกิร์ล 2009” เฟ้นหาบรรดาสาวสวยมากความสามารถจากทั่วประเทศเข้ามาสมัครชิงตำแหน่ง “สปายเกิร์ล” โดยผู้ได้รับรางวัลจะร่วมปฏิบัติภารกิจสำคัญโดยเป็นตัวแทนของ บริษัท สยาม ไวเนอรี่ และเครื่องดื่มสปายในการเผยแพร่ความรู้และคุณประโยชน์เกี่ยวกับไวน์ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับผู้บริโภคในการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ
ทั้งนี้การรุกเปิดตัวแคมเปญสปายเกิร์ล เพื่อรักษาฐานลูกค้าเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก ขณะที่กลุ่มผู้ชายมีฐานลูกค้าไม่มากนัก ขณะเดียวกันยังเป็นการตอกย้ำผู้นำตลาดครองส่วนนบ่ง 85% จากมูลค่าตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มในเซกเมนต์ที่มีไวน์เผสมเป็นหลัก 1,200 ล้านบาท
