xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.งัดไม้ตายเดิมรับมือพายุการเงิน ชี้ ปลายปี 53 ทิศทาง ศก.ชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ เตือนรับมือผลกระทบลูกโซ่วิกฤตการเงินโลก ระลอกที่ 2 กระหน้ำ ศก.ไทย ยันแนวทางการใช้นโยบายการเงิน ธปท.จะไม่มีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ เพราะนโยบายการเงินของ ธปท.คือ การรักษาความมั่นคง และความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทำได้ดีอยู่แล้ว ด้านนายแบงก์ แนะจับตาปลายปี 53 การลงทุนภาครัฐแผ่ว ภาคเอกชนจะยืนได้เองหรือไม่

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยยังต้องติดตามฐานะของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มีอีก 400 กว่าแห่ง ซึ่งมีการปล่อยสินเชื่อมากถึง 400,000 ล้านดอลลาร์ ที่ยังมีความเสี่ยงอาจจะล้มละลายเหมือนกรณีวาณิชธนกิจ เลห์แมน บราเธอร์ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหากมีการล้มละลายของสถาบันการเงินอีก ก็จะส่งผลมาที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ปัจจัยภายในประเทศ คือ ความไม่สงบทางการเมือง จะจบลงเร็วแค่ไหน เพราะการที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต วันที่ 18-22 กันยายน 2552 นี้ เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เสี่ยงว่าต่างชาติจะเข้าใจหรือไม่ว่าเป็นการออก พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความเรียบร้อย แต่หากมองว่าเกิดเหตุการณ์ไม่สงบจนต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาควบคุม ก็จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นได้

ม.ร.ว.จัตุมงคล ยืนยันว่า ธปท.จะไม่มีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ เพราะนโยบายการเงินของ ธปท. คือการรักษาความมั่นคง และความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทำได้ดีอยู่แล้ว

นายเศรษฐพุฒิ สุทธวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และนักลงทุนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ ภาคการท่องเที่ยว และกระทบต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอาจจะทำให้ชะลอไม่เป็นไปตามแผน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน เห็นได้จากภาคการส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เกิดจากสต๊อกสินค้าที่เริ่มหมดลง และต้องติดตามดูในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าว่า ภาคเอกชนจะฟื้นตัวและลงทุนได้ด้วยตัวเองหรือไม่ เนื่องจากเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเริ่มหมดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น