สก๊อตยึดหัวหาดโรงหนังเมเจอร์ อัดงบ 100 ล้านบาท จับทางสกรีนแอด เพิ่มช่องทางขาย บุกตจว. หวังเพิ่มฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น แย้มเล็งปั้นสินค้าใหม่วางจำหน่ายเฉพาะในโรงหนังกลางปีหน้า ส่วนปีนี้มั่นใจช่องทางขายในโรงหนัง ช่วยดันรายได้รวมสิ้นปีโต 20% แตะ 1,600-1,700 ล้านบาท หลัง 8 เดือนภาพรวมยอดขายโต 17%
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สก๊อต มีแผนการดำเนินธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์การตลาดแบบ ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ทั้งนี้มองว่า การเข้าสู่เอ็นเตอร์เทนมาร์เก็ตติ้ง จะทำให้การทำตลาดแบบไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้นจึงได้มีความร่วมมือกับทางบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ภายใต้งบประมาณ 100 ล้านบาท ที่จะถูกนำมาใช้ใน 1-2 ปีหลังจากนี้ โดยจะมีการนำเสนอโฆษณาผ่านสื่อ ซีนีม่าแอด และมีการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในเคาน์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่มและป๊อปคอร์น ทั้ง 3 ไลน์ คือ ซุปไก่, รังนก และคอลลาเจน โดยสำหรับซุปไก่จะเป็นสินค้าที่มีการทำโปรโมชั่นลดราคาขายอยู่ที่ 29 บาทต่อขวด ไปจนถึงต.ค.นี้ด้วย ซึ่งงบ 100 ล้านบาทนี้ถูกเซทขึ้นมาใหม่ จากปกติปีนี้บริษัทเตรียมงบการตลาดทั้งปีไว้ที่ 330 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังจะมีการทำกิจกรรมทางการตลาดภายในโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ได้ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่เพื่อวางจำหน่ายเฉพาะช่องทางในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะ คาดว่าประมาณกลางปี 2553 จะวางจำหน่ายได้ จากจำนวนโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์กว่า 46 สาขา 372 สกรีนทั่วประเทศ
เชื่อว่าจะเป็นช่องทางใหม่ที่จะช่วยสร้างแบรนด์สก๊อตให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการ หลังจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีความร่วมมือในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ ซีซันนอล โปรแกรมร่วมกันมาบ้างแล้ว คือ Valentine Movie Lover : Fly Me to the Moon และ Mom & Me : Movie Together ซึ่งทั้งสองกิจกรรมได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
“โรงภาพยนตร์ถือเป็นช่องทางขายใหม่ที่น่าสนใจ และเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สินค้าคอนซูเมอร์ถูกนำมาจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ด้วย สำหรับสก๊อต ซึ่งเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบชมภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมในต่างจังหวัด เชื่อว่าช่องทางนี้จะทำให้ยอดขายของสก๊อตในต่างจังหวัดจะมีสัดส่วนยอดขายที่ดีขึ้น จากเดิมปัจจุบันยอดขายกว่า 70% จะอยู่ในกรุงเทพฯ และอีก 30% มาจากต่างจังหวัด”
นายสมโภช กล่าวต่อว่า ภาพรวมรายได้ 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ 16-17% ซึ่งหลังจากที่ผลักดันเพิ่มช่องทางขายใหม่ในโรงภาพยนตร์แล้ว สิ้นปีนี้เชื่อว่าภาพรวมรายได้จะมีการเติบโตที่ 20% หรือมีรายได้ประมาณ 1,600-,1700 ล้านบาท มาจากรังนก 60% ซุปไก่ 30% และคอลลาเจน 10% โดยในกลุ่มสินค้าซุปไก่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20% จากมูลค่าตลาดรวมซุปไก่ที่ 3,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าตลาดจะโต 14-15% และรังนกมีส่วนแบ่งกว่า 50% ครองความเป็นผู้นำตลาดรังนกมูลค่า 2,000 ล้านบาท ทั้งปีตลาดน่าจะโตที่ 17%
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สก๊อต มีแผนการดำเนินธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์การตลาดแบบ ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ทั้งนี้มองว่า การเข้าสู่เอ็นเตอร์เทนมาร์เก็ตติ้ง จะทำให้การทำตลาดแบบไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้นจึงได้มีความร่วมมือกับทางบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ภายใต้งบประมาณ 100 ล้านบาท ที่จะถูกนำมาใช้ใน 1-2 ปีหลังจากนี้ โดยจะมีการนำเสนอโฆษณาผ่านสื่อ ซีนีม่าแอด และมีการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในเคาน์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่มและป๊อปคอร์น ทั้ง 3 ไลน์ คือ ซุปไก่, รังนก และคอลลาเจน โดยสำหรับซุปไก่จะเป็นสินค้าที่มีการทำโปรโมชั่นลดราคาขายอยู่ที่ 29 บาทต่อขวด ไปจนถึงต.ค.นี้ด้วย ซึ่งงบ 100 ล้านบาทนี้ถูกเซทขึ้นมาใหม่ จากปกติปีนี้บริษัทเตรียมงบการตลาดทั้งปีไว้ที่ 330 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังจะมีการทำกิจกรรมทางการตลาดภายในโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ได้ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่เพื่อวางจำหน่ายเฉพาะช่องทางในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะ คาดว่าประมาณกลางปี 2553 จะวางจำหน่ายได้ จากจำนวนโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์กว่า 46 สาขา 372 สกรีนทั่วประเทศ
เชื่อว่าจะเป็นช่องทางใหม่ที่จะช่วยสร้างแบรนด์สก๊อตให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการ หลังจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีความร่วมมือในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ ซีซันนอล โปรแกรมร่วมกันมาบ้างแล้ว คือ Valentine Movie Lover : Fly Me to the Moon และ Mom & Me : Movie Together ซึ่งทั้งสองกิจกรรมได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
“โรงภาพยนตร์ถือเป็นช่องทางขายใหม่ที่น่าสนใจ และเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สินค้าคอนซูเมอร์ถูกนำมาจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ด้วย สำหรับสก๊อต ซึ่งเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบชมภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมในต่างจังหวัด เชื่อว่าช่องทางนี้จะทำให้ยอดขายของสก๊อตในต่างจังหวัดจะมีสัดส่วนยอดขายที่ดีขึ้น จากเดิมปัจจุบันยอดขายกว่า 70% จะอยู่ในกรุงเทพฯ และอีก 30% มาจากต่างจังหวัด”
นายสมโภช กล่าวต่อว่า ภาพรวมรายได้ 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ 16-17% ซึ่งหลังจากที่ผลักดันเพิ่มช่องทางขายใหม่ในโรงภาพยนตร์แล้ว สิ้นปีนี้เชื่อว่าภาพรวมรายได้จะมีการเติบโตที่ 20% หรือมีรายได้ประมาณ 1,600-,1700 ล้านบาท มาจากรังนก 60% ซุปไก่ 30% และคอลลาเจน 10% โดยในกลุ่มสินค้าซุปไก่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20% จากมูลค่าตลาดรวมซุปไก่ที่ 3,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าตลาดจะโต 14-15% และรังนกมีส่วนแบ่งกว่า 50% ครองความเป็นผู้นำตลาดรังนกมูลค่า 2,000 ล้านบาท ทั้งปีตลาดน่าจะโตที่ 17%
