รมช.คมนาคม ลูบคม “มาร์ค” สั่ง รฟม.หักดิบสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะมีศักยภาพมากกว่า กทม. ทั้งความรู้-บุคลากร ขณะที่ กทม.เป็นแค่องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่เท่านั้น ยังไงก็ต้องขออนุญาตจาก “มหาดไทย” อยู่ดี ไม่เชื่อจะทำให้ค่าโดยสารถูกได้จริง แต่หาก ปชป.ต้องการให้ กทม.รับผิดชอบก่อสร้างโครงการก็ให้นำเรื่องเข้าหารือใน ครม.อีกครั้ง
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน วันคล้ายวันก่อสร้างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยกล่าวว่า ตนเองได้เร่งรัดให้ รฟม.เดินหน้าเพื่อดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าจำนวน 4 เส้นทาง ทั้งสายสีม่วง สีน้ำเงิน สายสีเขียวอ่อน และสีเขียวแก่
รมช.คมนาคม ยังกล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะผลักดันให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนนุช-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่ เพราะจะทำให้ต้นทุนการก่อสร้างและค่าโดยสารถูกลงว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าวจะต้องหารือกันก่อน
“กรณีที่กำลังมีปัญหากับ กทม. และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้ก่อสร้างนั้น ผมยืนยันว่า รฟม.ยังคงต้องการยึดตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะขณะนี้ถือว่ายังไม่มีการเปลี่ยนมติ ครม.และยังเชื่อว่า รฟม.มีศักยภาพมากกว่า เพราะมีทั้งความรู้และบุคลากร ขณะที่ กทม. เป็นเพียงองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะถึงอย่างไรก็ตาม การดำเนินการก็ต้องขอจากกระทรวงมหาดไทยอยู่ดีนั่นเอง”
ส่วนประเด็นที่ว่า หาก กทม.ทำโครงการนี้จะมีต้นทุนและเก็บค่าโดยสารถูกกว่านั้น รมช.คมนาคม ยืนยันว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากการจัดเก็บค่าโดยสารถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับนโนบายรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะมีการหารือใน ครม.อีกครั้งหนึ่ง
นายประจักษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการโครงการสายสีเขียวที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพราะถึงอย่างไร เมื่อผลงานออกมาก็เป็นผลงานของรัฐบาลร่วมกัน ส่วนกรณีบีทีเอสระบุว่าบริษัทมีความพร้อมจะลงทุนก่อสร้างส่วนต่อขยายเองในวงเงิน 50,000 ล้านบาท กระทรวงคมนาคมยังไม่เห็นข้อเสนอดังกล่าว
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวงในฐานะประธานกรรมการ รฟม.กล่าวว่า การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างรอคำตอบจากกระทรวงการคลัง ว่า จะให้ใช้แหล่งเงินกู้จากแหล่งใด ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน แต่หากในอนาคตกระทรวงการคลังแจ้งเรื่องมายัง รฟม. ทาง รฟม.ก็พร้อมจะเดินหน้ากระบวนการจัดซื้อจัดสร้างเพื่อเริ่มงานก่อสร้างภายใน 2 เดือน
