สพท.เสนอแผน “ชุมพล” ของบ กว่า 200 ล้านบาท เดินหน้าผ่าประเทศไทย สำรวจแหล่งท่องเที่ยว 7 หมวด ตั้งโอเปอเรชันรูม และการจัดเก็บสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยว ดึงระบบไอทีใช้เรื่องการเก็บและสืบค้นข้อมูลเชิงลึก ลดการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตั้งเป้า 3 ปี มีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวครบ 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ
นายเสกสรร นาควงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้รายงายความคืบหน้าต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการประชุมหารือ แผนผ่าประเทศไทย แพกเกจทัวร์และสถิตินักท่องเที่ยว โดย สพท.เตรียมเดินหน้าโครงการจัดสร้างห้องปฎิบัติการ (โอเปอเรชันรูม)
เพื่อใช้เป็นศูนย์ข้อมูลด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว วงเงิน 159 ล้านบาท เป็นงบผูกพันระยะ 3 ปี (2553-2555) โดยปีแรกคาดว่า จะใช้งบราว 21 ล้านบาท จัดจ้างบริษัทเอกชน หรือ สถาบันการศึกษา ให้ดำเนินการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลจัดทำแผนปฎิบัติการ ส่วนปีที่ 2 และ 3 เป็นการลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว พร้อมแยกให้เห็นถึงแหล่งท่องเที่ยวเสื่อโทรมด้วย ตั้งเป้าเมื่อสิ้นสุดโครงการ สพท.จะมีข้อมูลเชิงลึกของแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดทั่วประเทศซึ่งมีมากกว่า 3 หมื่นแห่ง
“การจัดทำระบบข้อมูลมีความสำคัญต่อการประกอบการทำงานของผู้บริหารระดับสูง ที่ผ่านมา สพท.ติดปัญหาขาดงบประมาณ จึงต้องอาศัยให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เป็นผู้สำรวจ ซึ่งไม่ใช่ภาระกิจหลักของเขา จึงทำงานไม่ได้เต็มที่ ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมา เราสำรวจแหล่งท่องเที่ยวได้เพียง 2,150 แห่ง ในที่นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรถึง 138 แห่ง”
นายเสกสรร กล่าวอีกว่า โครงการ โอเปอเรชันรูม นี้จะมีการติดตั้งกล้องในแหล่งท่องเที่ยวกว่า 200 จุด ทั่วประเทศ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ประจำคอยมอนิเตอร์ เผื่อมีเหตุด่วนเหตุร้าย จะได้ประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่ใกล้เคียงสถานที่เข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันเวลา นอกจากนั้น ยังมีการติดตั้งซอฟต์แวร์สำหรับค้นหาข้อมูล แล้วมาแสดงที่จอมอนิเตอร์ ซึ่งเป็นจอLCD ขนาดใหญ่ 3 จอ พร้อมกับเป็นห้องใช้สำหรับการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนฟิเรจได้อีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อจัดทำเสร็จทั้งหมด จะเปิดให้บริการด้านข้อมูลแก่หน่วยงานรัฐบาล เอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่ต้องการเข้ามาสืบค้นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนผ่าประเทศไทย ซึ่ง นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบนโยบายให้ สพท.เร่งดำเนินการ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยว ได้ใช้เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ต่อยอดจากโครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว 14 คลัสเตอร์ โดยการผ่าประเทศไทยนี้ จะแยกแหล่งท่องเที่ยวเป็น 7 หมวด ได้แก่ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, ธรรมชาติ, วัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, เชิงสุขภาพ, ศิลปวิทยาการ และเที่ยวเพื่อนันทนาการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางตามไลฟสไตล์ของตัวเอง หรือเพื่อให้บริษัทนำเที่ยวใช้เป็นข้อมูลการจัดทำแพกเกจทัวร์เสนอขายและลูกค้ากลุ่มนีชมาร์เก็ต
****ขอ 50 ลบ.ติดซอฟต์แวร์นับนักท่องเที่ยว***
สำหรับงานด้านการจัดทำสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยว ล่าสุด อยู่ระหว่างการตั้งเรื่องขอรับงบกลางปีฉุกเฉินประจำปีงบประมาณ 2553 วงเงิน 50 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อระบบจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยว (ซอฟต์แวร์) มอบให้แก่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นำไปติดตั้งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแนวเขตพรมแดนประเทศ เนื่องจากปัจจุบัน ยังมีอีกหลายด่านที่ใช้เจ้าหน้าที่ในการนับจำนวนนักท่องเที่ยวผ่านด่าน (แมนนัว) ทำให้จัดเก็บข้อมูลได้ล่าช้า และไม่แม่นยำ เท่าที่ควร
นายเสกสรร นาควงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้รายงายความคืบหน้าต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการประชุมหารือ แผนผ่าประเทศไทย แพกเกจทัวร์และสถิตินักท่องเที่ยว โดย สพท.เตรียมเดินหน้าโครงการจัดสร้างห้องปฎิบัติการ (โอเปอเรชันรูม)
เพื่อใช้เป็นศูนย์ข้อมูลด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว วงเงิน 159 ล้านบาท เป็นงบผูกพันระยะ 3 ปี (2553-2555) โดยปีแรกคาดว่า จะใช้งบราว 21 ล้านบาท จัดจ้างบริษัทเอกชน หรือ สถาบันการศึกษา ให้ดำเนินการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลจัดทำแผนปฎิบัติการ ส่วนปีที่ 2 และ 3 เป็นการลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว พร้อมแยกให้เห็นถึงแหล่งท่องเที่ยวเสื่อโทรมด้วย ตั้งเป้าเมื่อสิ้นสุดโครงการ สพท.จะมีข้อมูลเชิงลึกของแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดทั่วประเทศซึ่งมีมากกว่า 3 หมื่นแห่ง
“การจัดทำระบบข้อมูลมีความสำคัญต่อการประกอบการทำงานของผู้บริหารระดับสูง ที่ผ่านมา สพท.ติดปัญหาขาดงบประมาณ จึงต้องอาศัยให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เป็นผู้สำรวจ ซึ่งไม่ใช่ภาระกิจหลักของเขา จึงทำงานไม่ได้เต็มที่ ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมา เราสำรวจแหล่งท่องเที่ยวได้เพียง 2,150 แห่ง ในที่นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรถึง 138 แห่ง”
นายเสกสรร กล่าวอีกว่า โครงการ โอเปอเรชันรูม นี้จะมีการติดตั้งกล้องในแหล่งท่องเที่ยวกว่า 200 จุด ทั่วประเทศ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ประจำคอยมอนิเตอร์ เผื่อมีเหตุด่วนเหตุร้าย จะได้ประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่ใกล้เคียงสถานที่เข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันเวลา นอกจากนั้น ยังมีการติดตั้งซอฟต์แวร์สำหรับค้นหาข้อมูล แล้วมาแสดงที่จอมอนิเตอร์ ซึ่งเป็นจอLCD ขนาดใหญ่ 3 จอ พร้อมกับเป็นห้องใช้สำหรับการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนฟิเรจได้อีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อจัดทำเสร็จทั้งหมด จะเปิดให้บริการด้านข้อมูลแก่หน่วยงานรัฐบาล เอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่ต้องการเข้ามาสืบค้นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนผ่าประเทศไทย ซึ่ง นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบนโยบายให้ สพท.เร่งดำเนินการ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยว ได้ใช้เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ต่อยอดจากโครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว 14 คลัสเตอร์ โดยการผ่าประเทศไทยนี้ จะแยกแหล่งท่องเที่ยวเป็น 7 หมวด ได้แก่ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, ธรรมชาติ, วัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, เชิงสุขภาพ, ศิลปวิทยาการ และเที่ยวเพื่อนันทนาการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางตามไลฟสไตล์ของตัวเอง หรือเพื่อให้บริษัทนำเที่ยวใช้เป็นข้อมูลการจัดทำแพกเกจทัวร์เสนอขายและลูกค้ากลุ่มนีชมาร์เก็ต
****ขอ 50 ลบ.ติดซอฟต์แวร์นับนักท่องเที่ยว***
สำหรับงานด้านการจัดทำสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยว ล่าสุด อยู่ระหว่างการตั้งเรื่องขอรับงบกลางปีฉุกเฉินประจำปีงบประมาณ 2553 วงเงิน 50 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อระบบจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยว (ซอฟต์แวร์) มอบให้แก่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นำไปติดตั้งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแนวเขตพรมแดนประเทศ เนื่องจากปัจจุบัน ยังมีอีกหลายด่านที่ใช้เจ้าหน้าที่ในการนับจำนวนนักท่องเที่ยวผ่านด่าน (แมนนัว) ทำให้จัดเก็บข้อมูลได้ล่าช้า และไม่แม่นยำ เท่าที่ควร
