8 สมาคมท่องเที่ยวในนามเฟสต้า จี้นายกรัฐมนตรียุบทิ้งอีลิทการ์ด ชี้ ยิ่งตัดสินใจเร็วยิ่งดี เหตุองค์กรสร้างภาระให้รัฐบาล ด้วยวิธีบริหารแบบแชร์ลูกโซ่ รายได้กว่า 2 พันล้านสูญเปล่าไปกับการให้บริการสมาชิก ไม่เพิ่มดอกออกผลในทางอื่น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ในฐานะกรรมการสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เปิดเผยว่า เฟสต้าได้เสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เร่งตัดสินใจยุบทิ้ง บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด (ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท โดยให้เหตุผลว่า การเปิดกิจการของอีลิทการ์ดยิ่งนานวันไปจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลและภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพราะรูปแบบการทำธุรกิจเหมือนกับการเล่นแชร์ลูกโซ่ เพราะต้องนำเงินที่ขายบัตรสมาชิกใหม่มาใช้บริหารเป็นค่าใช้จ่ายด้านการบริการแก่สมาชิกเก่าอยู่ร่ำไป
หากรัฐบาลต้องการต้อนรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ และนักลงทุนก็มีหลายหน่วยงานรองรับอยู่แล้ว เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหากบ้านเมืองของประเทศไทยเป็นที่สงบเรียบร้อย มั่นใจว่า ประเทศไทยเป็นเดสติเนชันที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามาพักผ่อนแน่นอน
“8 สมาคมท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกเฟสต้า เห็นตรงกันว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องเก็บอีลิทการ์ดไว้ และควรตัดสินใจเด็ดขาดปิดกิจการไปเลย แม้จะเสียหายก็ช่วงระยะเวลาไม่นาน แต่หากเก็บไว้ต้องเป็นภาระที่รัฐบาลต้องแบกรับไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ขณะนี้งบประมาณของประเทศก็มีอยู่จำกัด ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะถ้ารัฐไม่นำเงินไปอุดหนุนอีลิทการ์ดก็จะสร้างโปรเจกต์ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 2 โครงการ”
อย่างไรก็ตาม ทีพีซี ก่อตั้งมากว่า 5 ปี มีสมาชิกกว่า 2,500 คน มีรายได้จากการขายบัตรสมาชิกได้กว่า 2,300 ล้านบาท แต่ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดเหลืออยู่เพียง 400 กว่าล้านบาท โดยไม่มีช่องทางหารายได้จากส่วนใดเลย เท่ากับต้องกินเงินเก่าไป หรือไม่ก็ต้องเปิดรับสมาชิกใหม่ เพื่อนำเงินมาใช้ในการบริหารจัดการอยู่ร่ำไป ยิ่งมีสมาชิกมากภาระด้านค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น แม้จะอ้างว่าเป็นช่องทางต้อนรับนักท่องเที่ยวระดับนักธุรกิจ เอกชนก็ยังมองไม่เห็นความจำเป็น เสียงบประมาณของรัฐบาลโดยเปล่าประโยชน์
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ในฐานะกรรมการสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เปิดเผยว่า เฟสต้าได้เสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เร่งตัดสินใจยุบทิ้ง บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด (ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท โดยให้เหตุผลว่า การเปิดกิจการของอีลิทการ์ดยิ่งนานวันไปจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลและภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพราะรูปแบบการทำธุรกิจเหมือนกับการเล่นแชร์ลูกโซ่ เพราะต้องนำเงินที่ขายบัตรสมาชิกใหม่มาใช้บริหารเป็นค่าใช้จ่ายด้านการบริการแก่สมาชิกเก่าอยู่ร่ำไป
หากรัฐบาลต้องการต้อนรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ และนักลงทุนก็มีหลายหน่วยงานรองรับอยู่แล้ว เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหากบ้านเมืองของประเทศไทยเป็นที่สงบเรียบร้อย มั่นใจว่า ประเทศไทยเป็นเดสติเนชันที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามาพักผ่อนแน่นอน
“8 สมาคมท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกเฟสต้า เห็นตรงกันว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องเก็บอีลิทการ์ดไว้ และควรตัดสินใจเด็ดขาดปิดกิจการไปเลย แม้จะเสียหายก็ช่วงระยะเวลาไม่นาน แต่หากเก็บไว้ต้องเป็นภาระที่รัฐบาลต้องแบกรับไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ขณะนี้งบประมาณของประเทศก็มีอยู่จำกัด ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะถ้ารัฐไม่นำเงินไปอุดหนุนอีลิทการ์ดก็จะสร้างโปรเจกต์ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 2 โครงการ”
อย่างไรก็ตาม ทีพีซี ก่อตั้งมากว่า 5 ปี มีสมาชิกกว่า 2,500 คน มีรายได้จากการขายบัตรสมาชิกได้กว่า 2,300 ล้านบาท แต่ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดเหลืออยู่เพียง 400 กว่าล้านบาท โดยไม่มีช่องทางหารายได้จากส่วนใดเลย เท่ากับต้องกินเงินเก่าไป หรือไม่ก็ต้องเปิดรับสมาชิกใหม่ เพื่อนำเงินมาใช้ในการบริหารจัดการอยู่ร่ำไป ยิ่งมีสมาชิกมากภาระด้านค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น แม้จะอ้างว่าเป็นช่องทางต้อนรับนักท่องเที่ยวระดับนักธุรกิจ เอกชนก็ยังมองไม่เห็นความจำเป็น เสียงบประมาณของรัฐบาลโดยเปล่าประโยชน์